ขับรถเที่ยวสมุทรสงคราม

Trips สมุทรสาคร สมุทรสงคราม

บ้านหัวหาด โฮมสเตย์น่าพักน่าเที่ยวของสมุทรสงคราม

เที่ยวเพลินๆ สุดสัปดาห์


สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของสมุทรสงครามคงต้องยกให้ตลาดน้ำอัมพวา เป็นที่เที่ยวอันดับหนึ่งที่ใครๆ ก็อยากจะมาเดินเที่ยวช้อปปิ้ง ชิมอาหารอร่อยกัน แต่อย่างไรก็ดีในบริเวณใกล้เคียงตลาดน้ำอัมพวาแห่งนี้ก็ยังมีที่เที่ยวเด่นๆ ของสมุทรสงครามที่คุณไม่ควรพลาดไปเที่ยวชมกันอีกหลายแห่ง ซึ่งที่เที่ยวส่วนใหญ่ตั้งอยู่ไมไกลจากกันมากนัก ใช้เวลาขับรถเที่ยวชมเพียง 2 วัน 1 คืน ก็เที่ยวชมได้ครบถ้วนแล้ว

ที่เที่ยวในสมุทรสงครามถูกใจคนทุกวัย เพราะมีที่เที่ยวหลากหลาย ตั้งแต่วัดเก่าแก่ที่มีองค์พระ มีงานศิลป์อันทรงคุณค่าให้ถูกใจรุ่นใหญ่ทั้งหลาย ส่วนย่ออายุลงมาหน่อยต้องไปเที่ยวโฮมสเตย์ เรียนรู้วิถีชีวิตกับชาวบ้านอย่างสนุกสนาน แนวหาความรู้ก็มีพิพิธภัณฑ์หลายแห่งทั้งเก่าใหม่ให้ประเทืองปัญญา และสุดยอดความสนุกต้องยกให้กับบ้านไม้ชายเลนรีสอร์ท ที่มีกิจกรรมหลากหลายให้เลือกเล่น รวมทั้งอาหารทะเลสดๆ รสเลิศ กับที่พักชั้นยอดที่พร้อมให้บริการอีกด้วย

สมุทรสงครามมีโฮมสเตย์ให้ไปใช้ชีวิตริมคลองหลายแห่ง

โฮมสเตย์บ้านหัวหาด
Location บ้านหัวหาด ต.เหมืองใหม่ ห่างจากอ.เมืองอัมพวา 20 กม.
จากตัวเมืองสมุทรสงคราม ใช้ทางหลวงหมายเลข 325 (สมุทรสงคราม-บางแพ) จากนั้นขับรถตรงไประยะทาง 15 กม.เมื่อเห็นป้อมตำรวจให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางวัดบางแคน้อย จากนั้นจะเห็นป้ายบอกทางไปครัวผู้ใหญ่ทองหยิบ ไปตามทางอีก 7 กม. จะพบโฮมสเตย์บ้านท่าคาทางขวามือ

โฮมสเตย์บ้านหัวหาด

โฮมสเตย์บ้านหัวหาด เป็นโฮมสเตย์ที่มีความโดดเด่นทางบ้านพักที่มีความงดงามสไตล์ไทยริมแม่น้ำ ผสานกับวิถีชีวิตชาวบ้านอันเก่าแก่ มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวสัมผัสร่วมกับชาวบ้านมากมาย แต่โปรแกรมเด่นที่สุดคือการล่องเรือเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ แบบ Day Tour ใช้เวลาในการล่องเรือ 4 ชม. ตลอดเส้นทางคุณจะได้สัมผัสบรรยากาศสวยๆ สองฝั่งคลองทั้งบ้านเรือนไทยริมน้ำ วิถีชีวิตผู้คนริมแม่น้ำแม่กลอง และสถานที่ราชการในอดีต

เรือจะจอดแวะที่เที่ยวแห่งแรกคือ วัดอินทาราม เจ้าของโบสถ์เก่าแก่อันเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโตอายุกว่า 300 ปี จากนั้นเรือจะพาเที่ยวชมบรรยากาศในแม่น้ำแควอ้อม ระยะทาง 2 กม. ซึ่งจะมาเชื่อมกับปากแม่น้ำแม่กลอง ทุกๆ เย็นจะมีเรือสัญจรไปมานับเป็นภาพวิถีชีวิตที่หาชมยากในปัจจุบัน และหลังชมคลองแควอ้อมจะแวะไปเที่ยวกันต่อที่ วัดบางกุ้ง หรือค่ายบางกุ้ง สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ไทยที่มีจุดเด่นอยู่ที่โบสถ์ปกโพธิ์ จากนั้นเรือจะพาไปเที่ยวชมอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น วัดบางแคน้อย อุทยาน ร.2 และตลาดน้ำอัมพวา หลังชมหิ่งห้อยเสร็จเดินทางกลับไปนอนพักผ่อนในบ้านริมน้ำของโฮมสเตย์บ้านหัวหาด ช่วงเช้าตื่นมารอชมพระอาทิตย์ขึ้น และบรรยากาศสบายๆของคลองแควอ้อม
โฮมสเตย์บ้านหัวหาด โทร 034 735 073, 086 174 2741, 087 156 4017

ทาสแมวอย่าพลาดบ้านแมวไทยโบราณ

บ้านแมวไทยโบราณ
Location ต.แควอ้อม ใกล้วัดบางแคใหญ่
เปิด-ปิด 08.00-18.00 น. ทุกวัน
ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 325 (ถ.สมุทรสงคราม-บางแพ) เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานพระศรีสุริเยนทร์ จากนั้นเลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 3062 ข้ามคลองประชาชมชื่น ผ่านวัดภุมรินทร์กุฏีทอง วัดบางแคใหญ่ จะพบป้ายบอกทางไปบ้านแมวไทย

บ้านแมวไทยโบราณ เป็นสถานที่อนุรักษ์พันธุ์แมวไทยโบราณ ที่กำเนิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มเพื่อนที่ชื่นชอบการเลี้ยงแมวไทย โดยมีคุณปรีชา พุคคะบุตร เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง และเป็นผู้ดูแลบ้านแมวไทยโบราณ แต่เดิมได้เลี้ยงแมวพันธุ์วิเชียรมาศในบ้านพักอยู่แล้ว โดยยังมีแมวในการดูแลไม่มากนัก จากนั้นเมื่อให้ข้าวให้น้ำเลี้ยงมาเรื่อยๆ จนเริ่มผูกพันประกอบกับได้รู้จักเพื่อนฝูงที่นิยมเลี้ยงแมวมากขึ้น จึงเกิดความคิดร่วมกันว่าน่าจะมีการอนุรักษ์พันธุ์แมวไทยโบราณไว้ให้คงอยู่ต่อไป

ปัจจุบันบ้านแมวไทยโบราณมีแมวไทยให้เดินเที่ยวชมหลากหลายสายพันธุ์ทั้ง วิเชียรมาศ ศุภลักษณ์ โกญจา สีสวาท เลี้ยงในกรงพัก และเพาะเลี้ยงแบ่งเป็นประเภทต่างๆ ตามสายพันธุ์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาหาความรู้ คุณสมบัติ และลักษณะที่ถูกต้องของแมวไทยพันธุ์แท้ เข้าชมได้ฟรี และร่วมบริจาคค่าอาหารแมวได้จากกล่องรับบริจาค หรือบริจาคเงินสมทบได้

ค่ายบางกุ้ง โบสถ์ปรกโพธิ์

ค่ายบางกุ้ง โบสถ์ปรกโพธิ์
Location ต.บางกุ้ง อ.บางคนที
จากตัวเมืองสมุทรสงคราม ใช้ทางหลวงหมายเลข 325 (แม่กลอง-อัมพวา) ประมาณ 5 กม. เลยวัดบางกะพ้อม จากนั้นจะพบวงเวียนขนาดเล็ก เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานสมเด็จพระศรีสุริเยนทร์ ตรงไปถึงสามแยกเลี้ยวขวา ขับตรงไปผ่านวัดภุมรินทร์ จนถึงสามแยก (มีวัดบางแคใหญ่อยู่ขวามือ) เลี้ยวขวา ตรงไปผ่านวัดบางแคน้อย วัดปากน้ำ ข้ามสะพานคลองแควอ้อม จากนั้นจะพบค่ายบางกุ้งอยู่ทางซ้าย

ค่ายบางกุ้ง มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ไทย ย้อนกับไปในสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ทรงโปรดเกล้าให้กองทัพเรือมาสร้างค่ายเพื่อป้องกันข้าศึกที่บริเวณวัดบางกุ้งแห่งนี้ จนกระทั่งไทยเสียกรุงครั้งที่ 2 ค่ายบางกุ้งก็ร้างลาผู้คน จนกระทั่งในยุคสมัยของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี จึงโปรดเกล้าให้รวบรวมผู้คนจากระยอง ชลบุรี ราชบุรี และกาญจนบุรี มาฟื้นฟูสร้างค่ายบางกุ้งขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ในขณะนั้นจึงมีผู้คนเรียกชื่อค่ายกันว่า ค่ายจีนบางกุ้ง ต่อมาในปี พ.ศ. 2311 พระเจ้ากรุงอังวะทรงยกทัพผ่านกาญจนบุรีมาล้อมค่ายจีนบางกุ้ง สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงโปรดเกล้าฯ ให้พระมหามนตรี (บุญมา) เป็นแม่ทัพยกไปช่วยเหลือทหารจีนขับไล่กองทัพพม่าจนทำให้ข้าศึกต้องแตกพ่ายกลับไป ปัจจุบันค่ายบางกุ้งจึงมีอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชให้นักท่องเที่ยวได้กราบไหว้สักการะกัน

ค่ายบางกุ้ง

ภายในบริเวณค่ายบางกุ้งยังเป็นที่ตั้งของวัดบางกุ้งด้วย ต้องไม่พลาดมาชมความอัศจรรย์ของ โบสถ์ปรกโพธิ์ โบสถ์เก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยาที่ถูกปกคลุมด้วยต้นไม้ 4 ชนิด ได้แก่ ต้นโพธิ์ ไทร ไกร และกร่าง ซึ่งภายในเป็นสถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อพุทธนิรามณ์นั่งขัดสมาธิอันศักดิ์สิทธ์ นอกจากนี้ในบริเวณใกล้เคียงก็ยังมีหุ่นจำลองแสดงแม่ไม้มวยไทยให้ชมกันด้วย

วัดเพชรสมุทรวรวิหาร (วัดบ้านแหลม)
Locationใกล้ตลาดแม่กลอง อ.เมืองสมุทรสงคราม
จากตัวเมืองสมุทรสงครามขับตรงไป 700 ม. จะพบสี่แยกไฟแดง ขับตรงไป 200 ม. จากนั้นให้เลี้ยวขวาข้ามทางรถไฟ และขับตรงไปประมาณ 100 ม. จะพบลานจอดรถของวัดอยู่ทางด้านขวา และวัดเพชรสมุทรวรวิหาร จะตั้งอยู่ทางด้านซ้าย

วัดแรกที่คุณควรไปนมัสการเมื่อได้มาเยือนอัมพวาก็คือ วัดเพชรสมุทรวรวิหาร หรือในชื่อ วัดบ้านแหลม น ในอดีตมีชื่อว่า วัดศรีจำปา แต่ภายหลังมาเปลี่ยนชื่อเป็นวัดบ้านแหลมตามชื่อหมู่บ้าน จนกระทั่งต่อมาวัดได้ถูกยกให้เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีวรวิหาร และได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า วัดเพชรสมุทรวรวิหาร สำหรับชาวบ้านในพื้นที่ก็ยังคงเรียกกันติดปากว่าวัดบ้านแหลมเช่นเคย

หลวงพ่อบ้านแหลม เป็นพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรขนาดเท่าคนจริง สูงประมาณ 167 ซม. สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยาตอนต้น เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในสมัยเดียวกันกับ หลวงพ่อโสธร และหลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ ที่มีลักษณะเป็นพระพุทธรุปอุ้มบาตรเช่นเดียวกันกับหลวงพ่อบ้านแหลม

ดอนหอยหลอด ร่มรื่นชื่นใจ

ดอนหอยหลอด
Location สันดอนปากน้ำแม่กลอง อ.เมืองสมุทรสงคราม
จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 ถ.ธนบุรี-ปากท่อ ถึงกม.ที่ 64 ก่อนข้ามสะพานพุทธเลิศหล้านภาลัย บริเวณเชิงสะพานมีป้ายบอกทางเข้าดอนหอยหลอด ตรงเข้าไประยะทาง 5 กม. จะพบลานจอดรถอยู่ทางด้านขวา

ดอนหอยหลอด อยู่สันดอนปากน้ำแม่กลอง หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ทรายขี้เป็ด เป็นสันดอนที่เกิดจากการทับถมของตะกอนดินปนทรายที่ถูกน้ำพัดมา มีอาณาเขตกว้างใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 4 กม. ตั้งแต่ปากอ่าวแม่กลองบริเวณบ้านฉู่ฉี่ ต.บางจะเกร็ง จนกระทั่งถึงหมู่บ้านบางบ่อ ต.บางแก้ว นับเป็นสันดอนที่มีหอยอาศัยอยู่หลากหลายชนิด แต่ที่มีเป็นจำนวนมากที่สุดคือ หอยหลอด เป็นหอยลักษณะสีขาวขุ่นคล้ายหลอดกาแฟ มีรสชาติอร่อย นั่งเรือหางยาวไปเที่ยวชมได้ไม่ยาก การจับหอยหลอดก็ไม่ยากเพียงใช้ไม้ และปูนขาวหยอดไปตามรูที่หอยอาศัยเท่านั้น หอยหลอดก็จะเกิดอาหารเมาปูนขาว และโผล่ขึ้นมาให้จับอย่างง่ายดาย

แม้ดอนหอยหลอดขับรถไปเที่ยวชมได้ตลอดปี ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือ เดือนมีนาคม–พฤษภาคม เพราะน้ำทะเลจะลดลงนานกว่าช่วงเวลาอื่นของปี เช่าเรือนำเที่ยวได้ที่บริเวณศาลาอาภร นอกจากนี้บริเวณดอนหอยหลอดยังเป็นที่ตั้งของศาลกรมกลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ และร้านอาหารทะเลรสเยี่ยมที่ขึ้นชื่อในด้านการทำอาหารเกี่ยวกับหอยหลอด รวมถึงของฝากประเภทของสดของแห้งจากทะเลก็มีให้เลือกซื้อกันมากมาย


วัดแก้วเจริญ
เป็นวัดที่มีทิวทัศน์อันสวยงาม เมื่อมองออกไปคล้ายกับทิวทัศน์ของสามเหลี่ยมทองคำ จ.เชียงราย โดยมีคลองฝาแอ้มเป็นคลองสายหลักแบ่งอ.อัมพวากับอ.บางคนที และมีคลองประดู่ไหลมาเชื่อมในลักษณะปากแม่น้ำ นอกจากนี้ยังมีกุฏีพระสงฆ์ที่เป็นอาคารเรือนไทยอันสวยงามให้ชมอีกด้วย

วัดประดู่

วัดประดู่
เป็นวัดที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ โดยรัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จประพาสมาที่วัดโดยเรือเก๋งพระที่นั่งรอง เพื่อมาถวายเครื่องราชทานศรัทธาให้กับหลวงปู่แจ้ง เจ้าอาวาสรูปที่ 4 ของวัดที่สามารถรักษาโรคพระโอรสของพระองค์ให้หายจากโรคห่าหรือท้องร่วงได้ ซึ่งปัจจุบันเครื่องราชทานศรัทธายังมีให้ชมอยู่

วัดอินทาราม

วัดอินทาราม
สร้างเมื่อปี พ.ศ.2300 ในสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่ได้รับการปฏิสังขรณ์ใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 3 ภายในมีสิ่งที่น่าสนใจ ได้แก่ โบสถ์มหาอุตถ์สถานที่ประดิษฐานหลงพ่อโต อายุ 300 ปีและโบสถ์หลังใหม่ที่สร้างขึ้นจากหินอ่อนสีขาวทั้งหลัง เบื้องล่างโบสถ์เป็นห้องขนาดใหญ่สำหรับทำพิธีลอดใต้โบสถ์

วัดบางแคน้อย

วัดบางแคน้อย
สิ่งที่น่าสนใจของวัดบางแคน้อยคือ ภายในอุโบสถ์ที่มีงานแกะสลักไม้สักทอง ไม้ประดู่ ไม้ตะเคียน ทั้งแผงบริเวณทั่วเพดาน นำเสนอเรื่องราววรรณคดีไทยเรื่องรามเกียรติ์ และเรื่องราวพุทธประวัติของพระพุทธเจ้าฯลฯ โดยเป็นฝีมือช่างแกะสลักจากจังหวัดเพชรบุรี

วัดบางแคใหญ่

วัดบางแคใหญ่
นอกจากจะเป็นวัดเก่าแก่ที่มีโบราณสถานและโบราณวัตถุให้ชมหลายชิ้นแล้ว ภายในฝาประจันหรือฝากั้นห้องกุฏิสงฆ์ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังสมัยรัชกาลที่ 2 ที่เขียนด้วยสีฝุ่นผสมกาว เล่าเรื่องราวการทำสงครามระหว่างไทย-พม่า นักท่องเที่ยวที่อยากชมต้องขออนุญาตกับทางพระสงฆ์ของวัดก่อนเข้าไปชม

วัดกุมรินทร์กุฏีทอง
เดิมกุฏีทองเคยตั้งอยู่ภายในวัดบางลี่ แต่ต่อมาเกิดถูกน้ำเซาะจนพังจึงย้ายมาไว้ที่วัดภุมรินทร์ ภายในมีสิ่งที่น่าสนใจ คือ พิพิธภัณฑ์วัดภูมรินทร์ และอุทยานการศึกษาซึ่งเป็นสถานที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุชิ้นสำคัญหลายชิ้น

พิพิธภัณฑ์ไห

ตลาดน้ำบางน้อย+พิพิธภัณฑ์ไห
เดิมเคยตั้งอยู่ภายในคลองบางปากน้อย แต่ในปัจจุบันย้ายออกมาอยู่บริเวณท่าน้ำวัดเกาะแก้ว ริมแม่น้ำแม่กลอง เดินเที่ยวชมได้ 2 ช่วง ช่วงแรกเป็นแพริมน้ำที่มีเรือพายมาจอดขายอาหารอร่อยให้เลือกชิมหลายอย่าง ส่วนที่สองคือการเดินชมเลาะทางริมน้ำเข้าไป ซึ่งมีร้านค้าและร้านอาหารเปิดให้บริการเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ไหที่รวบรวมข้าวของเครื่องใช้กว่า 3,000 ชิ้นให้ชมอีกด้วย

ตลาดน้ำปากคลองดอนมะโนรา
นับเป็นตลอดน้ำเก่าแก่ที่มีมานานกว่า 50 ปี โดยเปิดทุกวันข้างขึ้นและข้างแรม 2 ค่ำ 7 ค่ำ และ 12 ค่ำ ในช่วงเช้าตรู่จนกระทั่งช่วงสายของวัน โดยชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงจะพายเรือนำของออกมาขายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ ขนมไทย และอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยว ผัดไทยฝีมือชาวบ้าน

อาสนวิหารแม่พระบังเกิด

อาสนวิหารแม่พระบังเกิด
โบสถ์สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2433 โดยบาทหลวงเปาโลซัลมอน มิชชันนารีชาวฝรั่งเศส และผู้ใจบุญในกรุงเทพฯ ซึ่งใช้เวลาในการสร้างถึง 6 ปี นับเป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิคฉาบด้วยปูนตำ ภายในประดับด้วยกระจกสีสวยงาม มีรูปแกะสลักเล่าเรื่องราวในพระคัมภีร์ รูปปั้น ธรรมมาสน์เทศน์ และอ่างล้างบาปเหมือนโบสถ์อื่นๆ

ศิลปะการทำซออู้ บ้านพญาซอ
พญาซอ เป็นฉายาของคุณสมพร เกตุแก้ว ช่างซออู้ที่นำกะลามะพร้าวมาสลักเป็นลวดลายอันวิจิตรงดงาม เช่น ลายตัวละคร ลาดพุดตาน ลายนามย่อ และลายนามปีนักษัตร ผู้ที่สนใจสามารถชมการผลิตและสั่งซื้อได้

วัดแก่นจันทน์
เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2350 ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางของชาวบ้านในการสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่น และใช้เป็นสถานที่จัดงานประเพณีตักบาตรขนมครกน้ำตาลทราย ทุกวันขึ้น 8 ค่ำเดือน 10 ของทุกปี ชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงจะออกมาช่วยกันทำขนมครก นับเป็นประเพณีที่หาชมได้ยากในปัจจุบัน

วัดบางกะพ้อม

วัดบางกะพ้อม
เป็นวัดเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายมีสิ่งที่น่าสนใจอยู่ภายในวิหารหลังเก่า ได้แก่ จิตรกรรมฝาผนังที่นำเสนอเป็นลวดลายปูนปั้นแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ ด้านล่างเป็นซุ้มเจาะช่องสำหรับประดิษฐานพระพุทธรูป นอกจากนี้ตรงกลางยังเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองขนาดใหญ่ที่เชื่อกันว่าสร้างในสมัยกรุงธนบุรี

อนุสรณ์สถานแฝดสยาม

อนุสรณ์สถานแฝดสยามอิน-จัน
ตั้งอยู่ใกล้องค์การบริหารส่วนตำบลลาดใหญ่ เมื่อขับรถเข้าไปจะพบอนุสรณ์สถานแฝดอิน-จันตั้งเด่นสง่าอยู่กลางสวน โดยทั้งสองเป็นชาวสมุทรสงครามแต่กำเนิดแต่ได้มีโอกาสไปเปิดการแสดงที่ประเทศอังกฤษและอเมริกา แฝดอิน-จันจึงเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

วัดเขายี่สาร

วัดเขายี่สารและพิพิธภัณฑ์
เชื่อกันว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย มีจุดเด่นอยู่ที่พระวิหาร บนยอดเขามีลักษณะเป็นรูปเรือ และเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทสี่รอยอันเป็นองค์ประธานของวัด ภายในวัดยังมีอาคารศาลาการเปรียญที่ดัดแปลงเป็นพิพิธภัฑณ์ด้วยความร่วมมือของชุนชนชาวยี่สาร โดยชั้นล่างจัดแสดงวิถีชีวิตของชุมชนและวัฒนธรรมท้องถิ่น ส่วนชั้นบนเป็นที่จัดแสดงเครื่องใช้ของชุมชน

วัดศรัทธาธรรม
จุดเด่นของวัดอยู่ที่พระอุโบสถไม้สักทอง โดยผนังฝังมุกทั้งทางด้านในและด้านนอก แสดงเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติของพระพุทธเจ้าและรามเกียรติ์ นอกจากนี้ภายในยังประดิษฐานพระพุทธรูปจำลองของ หลวงพ่อบ้านแหลม หลวงปู่ทวด และหลวงพ่อพุทธโสธรอันเป็นที่เคารพนับถือของชาวสมุทรสงคราม

ศูนย์อนุรักษ์ป่าชายเลนคลองโคน
นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งใหม่ของจ.สมุทรสงคราม เป็นศูนย์อนุรักษ์ที่ชาวบ้านและผู้ใหญ่ภุชงค์ร่วมกันจัดตั้งเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าชายเลนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยสร้างจิตสำนึกให้นักท่องเที่ยวรู้คุณค่าของการปลูกป่าชายเลน พร้อมทั้งสนุกสนานไปกับกิจกรรมต่างๆ ที่มีไม่เหมือนที่ใดเพื่อสร้างความสนุกสนานให้แก่นักท่องเที่ยว