สมุทรสาคร เที่ยวง่ายใกล้กรุง

เวนิสตะวันออกแห่งสุดท้ายของไทย

ในประเทศไทยหากจะค้นหาสถานที่พักผ่อนที่มีความโดดเด่นทางด้านแม่น้ำลำคลองอันงดงาม ชื่อของสมุทรสาคร นับเป็นชื่ออันดับหนึ่งในใจของใครหลายคน เพราะมีแม่น้ำลำคลองอุดมสมบูรณ์ และธรรมชาติงดงามให้ไปเที่ยวชมมากมาย คลองบางแห่งยังได้กลายเป็นที่เที่ยวยอดนิยม และเป็นสถานที่พักผ่อนอันสุนทรีย์ด้วย หลายคนยกย่องให้เป็นดั่งเมืองเวนิสตะวันออกแห่งสุดท้ายของไทย

Location การเดินทางสู่ จ.สมุทรสาคร-สมุทรสงคราม ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ถ.ธนบุรี-ปากท่อ) เป็นเส้นทางยอดนิยม ในระหว่างทางสู่สมุทรสงคราม เส้นทางสายนี้จะผ่านสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆ ของสมุทรสาครหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอาราม ตลาดเก่าแก่ จะแวะค้างแรมที่สมุทรสาครสักคืนก็มีรีสอร์ตริมน้ำให้สัมผัสกับบรรยากาศอันสุนทรีย์ให้รื่นเริงใจ

นั่งเรือชมหิ่งห้อยคลองสุนัขหอน
Location คลองสุนัขหอน อ.บ้านแพ้ว
จากกรุงเทพฯ ใช้พระราม 2 ผ่านสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน ถึงกม.ที่ 38 จากนั้นใช้เส้นทางบ้านบ่อ-บ้านแพ้ว ประมาณ 3 กม. ถึงทางแยกเข้าอ.บ้านแพ้ว เลี้ยวซ้ายจะพบป้ายบอกทางไปร้านอาหาร บ้านคุ้งน้ำ รีสอร์ท รวมระยะทาง 38 กม.

คลองสุนัขหอน เป็นคลองสายหนึ่งในสมุทรสาครที่เชื่อมต่อระหว่างแม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลองไว้ด้วยกัน ไหลผ่านหลายตำบล ในอ.เมืองสมุทรสาคร จากนั้นไหลมาบรรจบกับแม่น้ำแม่กลอง อ.เมืองสมุทรสงคราม รวมระยะทาง 30 กม. ชื่อคลองสุนัขหอนไม่มีที่มาแน่ชัด แต่คาดกันว่าน่าจะเป็นเพราะในอดีตคลองสายนี้ไม่มีชาวบ้านมาอาศัยอยู่มากนัก จึงทำให้เป็นแหล่งปลาชุกชุม และตกดึกมืดค่ำชาวบ้านใกล้เคียงจะนิยมพายเรือมาหาสัตว์น้ำกันในบริเวณนี้ เมื่อเหล่าสุนัขมองเห็นแสงไฟจากตะเกียงในเรือ จึงส่งเสียงเห่าหอนดังกันไปทั่วลำคลอง ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่จึงนิยมเรียกคลองแห่งนี้กันต่อมาว่า คลองสุนัขหอน

คลองสุนัขหอนยังคงเป็นสายน้ำที่ใสสะอาด อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้ และต้นลำพูน ลำแพน เป็นที่อยู่อาศัยของนกหาดูยากนานาชนิด รวมไปถึงเป็นแหล่งอาศัยของหิ่งห้อยตัวน้อยนับร้อยตัว ที่นี่จึงมีกิจกรรมล่องเรือชมหิ่งห้อยในยามค่ำคืนให้สัมผัสกันเช่นเดียวกับที่อัมพวา

กิจกรรมล่องเรือชมหิ่งห้อยคลองสุนัขหอน ติดต่อสอบถามได้ที่ ร้านอาหารบ้านคุ้งน้ำ รีสอร์ท
เริ่มต้นเดินทางจากร้านอาหารบ้านคุ้งน้ำ รีสอร์ท เรียกได้ว่าหลังจากอิ่มกับอาหารอร่อยกันแล้ว ช่วงค่ำก็ได้เวลาล่องเรือไปชมหิ่งห้อยกัน ใช้ระยะเวลาในการล่องเรือไม่เกิน 1.30 ชม. โดยเรือแต่ละลำจะรับผู้โดยสารได้ตั้งแต่ 10-40 คน สำหรับเส้นทางล่องเรือ จากร้านอาหารบ้านคุ้งน้ำ รีสอร์ท จะพาย้อนขึ้นไปทางแม่น้ำท่าจีน ซึ่งเป็นจุดชมหิ่งห้อยที่สวยงามมากแห่งหนึ่ง ระหว่างทางคุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศ และวิถีชีวิตชาวบ้านยามค่ำคืน และยังได้เดินทางผ่านวัดสำคัญๆ ในพื้นที่อีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น วัดใหญ่บ้านบ่อ วัดใต้บ้านบ่อ วัดบางกระเจ้า และวัดวิสุทิธาราม ใครที่อยากชมบรรยากาศในช่วงกลางวัน ทางร้านก็มีบริการล่องเรือชมทัศนียภาพ พร้อมชมนกในท้องถิ่นที่หาดูยากในบริเวณคลองกันด้วย

ติดต่อสอบถาม ร้านอาหารบ้านคุ้งน้ำ รีสอร์ท สมุทรสาคร
โทรศ 034 839 261, 089 117 5312 www.bankungnamresort.com

ที่เที่ยวใกล้เคียงในสมุทรสาคร
ศาลพันท้ายนรสิงห์
สถานที่แห่งประวัติศาสตร์ และความซื่อสัตย์ของพันท้ายนรสิงห์ที่มีต่อพระเจ้าเสือ ภายในบริเวณศาลนอกจากจะเป็นที่ตั้งของรูปปั้นจำลองของพันท้ายนรสิงห์ให้ผู้คนสักการะแล้ว ยังมีหัวเรือหักให้ชมท่ามกลางทิวทัศน์ของคลองโคกขามด้วย

ตลาดสดมหาชัย
นับเป็นสัญลักษณ์อีกแห่งของสมุทรสาครก็ว่าได้ ตลาดสดมหาชัยเป็นตลาดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน เป็นศูนย์รวมการค้าขายทั้งทางด้านการค้าส่ง และปลีกอาหารทะเลสด เช่น กุ้ง ปลา ปู หอย รวมถึงอาหารทะเลแปรรูปนานาชนิด

วัดช่องลม
จุดเด่นของวัดคือเป็นสถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อหินแดง พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ ซึ่งมีลักษณะพิเศษกว่าพระพุทธรูปอื่นๆ คือ พระหัตถ์ข้างซ้ายมี 6 นิ้ว ชาวบ้านจึงนิยมเรียกว่า พระ 11 นิ้ว นอกจากนี้ภายในวิหารหลวงปู่แก้ว ใกล้โบสถ์ยังมีนกนางแอ่นเข้าไปอาศัยทำรังอยู่นับพันตัว

วัดใหญ่จอมปราสาท
วัดตั้งอยู่อย่างโดดเด่นริมแม่น้ำท่าจีน ภายในมีพระอุโบสถก่ออิฐถือปูน หลังคาเครื่องไม้มุงกระเบื้องที่มีมุขยื่น และลวดลายปูนปั้นทั้งหน้าบันประดับกระจกที่สวยงามให้ชมกัน ส่วนบานประตูไม้แกะสลักลวดลายพฤกษา และสิงสาราสัตว์ต่างๆ นับเป็นวัดที่เหมาะสำหรับคนรักการเดินชมศิลปะทางด้านสถาปัตยกรรม

วัดโกรกกราก
จุดเด่นของวัดอยู่ที่พระประธาน และรูปปั้นของอดีตเจ้าอาวาสหลวงปู่กรับสวมแว่นดำ โดยมีคำเล่าสืบต่อกันมาว่า ในอดีตเคยมีชาวบ้านมาบนบานศาลกล่าวหากอาการบาดเจ็บที่ดวงตาหายขาด จะถวายแว่นดำเป็นการแก้บน ผู้คนจึงนิยมถวายแว่นตาดำเป็นการแก้บนนับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาจังหวัดสมุทรสาคร
ภายในพื้นที่ 18 ไร่ แบ่งการเที่ยวชมได้ 2 ส่วน ได้แก่ ภายในอาคารที่จัดแสดงเรื่องราวความรู้ทางดาราศาสตร์ ระบบสุริยะการสำรวจดวงจันทร์ ฯลฯ ส่วนภายนอกอาคารจัดแสดงสวนวิทยาศาสตร์ สวนเกษตรกรรมธรรมชาติ และสวนสมุนไพร โดยเปิดให้เที่ยวชมทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. แวะชมแฟนเพจของศูนย์

ศาลหลักเมือง
เป็นศาลที่สร้างขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2524 โดยสรรหาไม้มงคลมาทำเสาหลักเมือง ได้ไม้ชัยพฤกษ์จากอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี และจากอำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี โดยกรมศิลปากรเป็นผู้ออกแบบและแกะสลัก มีขนาดสูง 2.8 เมตร และมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.05 เมตร

วัดป่าชัยรังษี
สันนิษฐานกันว่าสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 2 ประมาณปี พ.ศ. 2525 สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดแห่งนี้คือ รูปแบบสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คล้ายกับปราสาทหินในภาคอีสานโดยพระอาจารย์จันทร์ ครวสโก เจ้าอาวาสเป็นผู้ออกแบบ โดยมีการนำสถาปัตยกรรมของล้านนามาเสริมเติมแต่ง

ถนนถวาย
เป็นถนนที่ชาวตำบลท่าฉลอมได้สละที่ดินภายในเนื้อที่บ้านของตนให้ทางรัฐทำถนน โดยเริ่มสร้างเป็นถนนแบบปูอิฐแผ่นที่มีความยาวอย่างสวยงาม เมื่อความทราบถึงรัชกาลที่ 5 พระองค์จึงเสด็จมาทรงเปิดถนนสายดังกล่าวเพื่อเป็นเกียรติและพระราชทานนามให้ว่า ถนนถวาย

พื้นที่ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวมหาชัย
เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าอ่าวมหาชัยฝั่งตะวันตก ที่มีพื้นที่กว่า 3,179 ไร่ ภายในมีเส้นทางสะพานไม้ให้เดินชมป่าชายเลนอย่างสะดวกสบาย นับเป็นแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติที่มีความสำคัญทางด้านระบบนิเวศป่าชายเลนที่สำคัญของจังหวัดสมุทรสาคร

วัดบางปลา
วัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ภายในมีสิ่งที่น่าสนใจ ได้แก่ พระอุโบสถหลังเก่า ลักษณะอาคารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าก่ออิฐถือปูน หลังคาทึบเครื่องไม้มุงกระเบื้องดินเผาลดหลั่น 2 ชั้น ภายในยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดประทับนั่งปางมารวิชัยอีกด้วย

ตลาดหลักสาม
เป็นตลาดเก่าแก่ในชุมชนริมคลองดำเนินสะดวก ลักษณะเป็นอาคารไม้ห้องแถวแบบดั้งเดิม โดยมีทางเดินตรงกลางให้เที่ยวชมตลอดแนว ซึ่งส่วนใหญ่ค้าขายของใช้ ผลไม้ และขนมไทยรสชาติเยี่ยม นอกจากนี้ยังเป็นท่าเรือสำคัญไปหลักสี่และหลักห้า

วัดหลักสี่ราษฏร์สโมสร
ตั้งอยู่ริมคลองดำเนินสะดวก ภายในวิหารประดิษฐาน หลวงพ่อโต พระพุทธรูปหินทรายแดงปางมารวิชัย เชื่อกันว่าสร้างในสมัยอู่ทอง มีลักษณะเด่นที่พระพักตร์ค่อนข้างกลม มีพระขนงยาวติดกันเป็นปีกกา พระเนตรปูดโปน พระโอษฐ์เผยอยิ้มเล็กน้อย นับเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านหลักสี่ให้ความเคารพมาหลายชั่วอายุคน

วัดนางสาว
นับเป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งที่มีมาตั้งแต่สมัยสงครามกรุงศรีอยุธยากับพม่า เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการชมอาคารอันสวยงาม เพราะภายในไม่ว่าจะเป็น พระอุโบสถ เจดีย์ โบสถ์มหาอุด และวิหารคู่ ต่างเป็นอาคารที่ถูกประดับตกแต่งอย่างงดงาม นอกจากนี้ยังตั้งอยู่ริมน้ำจึงเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจให้อาหารปลาในยามเย็น