ภูผาเทิบ มุกดาหาร

Trips มุกดาหาร

หินเทิบ รูปร่างแปลกตา บนลานกว้างดึงดูดจินตนาการสุดๆ

เที่ยวอุทยานแห่งชาติใกล้เมือง

อำเภอเมืองมุกดาหาร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง และตรงข้ามกับเมืองสะหวันนะเขตฝั่งประเทศลาว คุณจึงสามารถนั่งเรือข้ามฟากไปเที่ยวแบบเช้ากลับเย็นได้ไม่ยาก หรือหากไม่ข้ามไปเที่ยวลาว จะช้อปปิ้งตลาดอินโดจีนฝั่งไทย เที่ยววัดเก่าก็น่าสนใจ จากนั้นช่วงเย็นหากไม่นอนตัวเมือง จะขับรถต่อไปอีกประมาณ 17 กม. ไปพักบ้านพักอุทยานแห่งชาติมุกดาหารก็ได้ เช้าวันรุ่งขึ้นจะได้ไปเที่ยวชมธรรมชาติกันต่อ 

Location : ตัวเมืองมุกดาหารอยู่ติดกับแม่น้ำโขง ส่วนอุทยานแห่งชาติผาเทิบอยู่ห่างจากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 2034 ประมาณ 17 กม.
มุกดาหาร อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 642 กม. ใช้เวลาขับรถประมาณ 7 ชม. จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 2 (ถ.มิตรภาพ) ถึงขอนแก่นเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 209 ไปจ.กาฬสินธุ์ ต่อด้วยทางหลวงสาย 213 ไปอ.สมเด็จ แล้วเลี้ยวขวาอีกครั้งตามทางหลวงสาย 2042 ผ่านอ.กุฉินารายณ์ หนองสูง คำชะอี เข้าสู่จ.มุกดาหาร


จากตัวเมืองมุกดาหารไปอุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ ขับตามทางหลวงสาย 2034 เลียบแม่น้ำโขงไปประมาณ 15 กม. จากนั้นเลี้ยวซ้ายมือเข้าไปที่ทำการอุทยานฯอีก 2 กม.

ท่าเรือมุกดาหารไปเมืองสะหวันนะเขต

ท่าเรือไปเที่ยวเมืองสะหวันนะเขต
หากคุณจะข้ามไปเที่ยวเมืองสะหวันนะเขตในประเทศลาว ที่มุกดาหารมีสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 2 เพียงทำวีซ่ารถก็ขับข้ามไปเที่ยวเองได้เลย ส่วนใครที่ไปแบบง่ายๆ ไม่ต้องยุ่งยากเรื่องวีซ่ารถ เพียงข้ามเรือข้ามฝั่งที่ท่าเรือเทศบาลเมืองมุกดาหาร อยู่ด้านหลังด่านตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร ปลายสุดถนนสองนางสถิตย์ติดแม่น้ำโขง ไปเที่ยวเช้าไปเย็นกลับก็ได้เช่นกัน

อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ
ชื่อเดิมของอุทยานแห่งชาติภูผาเทิบคือ อุทยานแห่งชาติมุกดาหาร มีเนื้อที่รวมประมาณ 48.5 ตารางกิโลเมตร หรือราว 30,312.5 ไร่ แม้ว่าจะมีเนื้อที่ไม่มากแต่ก็มีความสำคัญหลายด้าน ทั้งทางธรรมชาติและทางประวัติศาสตร์ พื้นที่ของอุทยานฯ ครอบคลุม 2 อำเภอคืออ.เมือง และอ.ดอนตาล ได้รับการจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 59 ของประเทศไทย มียอดเขาภูจอมศรี เป็นยอดสูงสุด สูงประมาณ 420 ม. จากระดับน้ำทะเล

พื้นที่ส่วนใหญ่ในเขตอุทยานฯ จะเป็นภูเขาหิน เป็นลานหินบ้าง บางที่ก็เป็นหน้าผาหิน หินบางก้อนวางทับซ้อนกันดูแปลกตา บางก้อนข้างบนใหญ่ ข้างล่างเล็ก ชาวบ้านเรียกกันว่า “เทิบ” ซึ่งหมายถึงเพิงหรือชะง่อนที่เหมือนกับหลังคา ต่อมาจึงได้เรียกรวมพื้นที่นี้ว่า “ภูผาเทิบ” นั่นเอง

Day 1

หากเดินทางมาถึงอุทยานฯช่วงบ่ายแก่ หลังจากเก็บข้าวของเข้าบ้านพักอุทยานฯ หรือกางเต็นท์เรียบร้อยก็เริ่มเที่ยวด้วยการไปชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ภูผาเทิบ เดินไปชมวิวพระอาทิตย์ตก อย่าลืมเอาไฟฉายติดตัวไปด้วย

แค้มปิ้งที่ภูผาเทิบ

Day 2
ตื่นเช้า ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นเหนือฝั่งแม่น้ำโขงที่ลานมุจลินทร์ แล้วกินอาหารที่อุทยานฯ จากนั้นไปเที่ยวชมสวนหินต่างๆ ส่วนใหญ่อยู่ในเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ระยะทางรวม 6 กม. โดยเริ่มต้นจากกลุ่มหินเทิบ ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการเพียง 100 ม.เป็นลานหินโล่งกว้างที่มีก้อนหินทรายรูปร่างแปลกตามากมาย เกิดจากการกัดเซาะของลม ฝน เป็นเวลานานกว่าร้อยปี

ผาเทิบยามเย็น

บางก้อนวางทับซ้อนกันสวยงามคล้ายดอกเห็ด บางก้อนมีรูปร่างคล้ายกับสัตว์ บางก้อนคล้ายเครื่องบินไอพ่น บางก้อนเป็นเพิงผากันแดดกันฝนได้ ถัดจากกลุ่มหินเทิบไปเพียง 300 ม. จะถึงลานมุจลินท์ที่คุณมาชมวิวพระอาทิตย์ตกเมื่อวาน เป็นลานหินราบเรียบขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยป่าเต็งรัง เป็นจุดที่ชมวิวแม่น้ำโขงได้

ทุ่งดอกไม้ปลายฝนสีสันยังสดใส

นอกจากนี้ในช่วงปลายฝนต้นหนาว ประมาณเดือนต.ค.-ธ.ค. ตามลานหิน และตามป่าเต็งรังแคระ จะมีดอกไม้ป่าต้นเล็กๆ ออกดอกไปทั่วเป็นช่วงที่สร้างสีสันให้กับลานหินนี้ได้อย่างงดงาม

ทุ่งดอกไม้ย่างเข้าหน้าหนาวเริ่มแล้งและโรยรา

จากลานมุจลินท์จะมีทางแยกไปน้ำตกวังเดือนห้า ซึ่งมีน้ำเฉพาะช่วงฤดูฝน หากเดินตรงต่อไปประมาณ 500 ม. จะถึงผาอูฐ ซึ่งมีประติมากรรมหินรูปร่างคล้ายอูฐทะเลทราย ตรงนี้เป็นจุดชมวิวผืนป่าในเขตอุทยานฯ ได้สวย เดินตามเส้นทางไปอีก 600 ม.คือภูถ้ำพระ ด้านหน้าถ้ำพระ มีน้ำตกไหลผ่าน และยังมีเพิงหินคล้ายถ้ำ ภายในมีพระพุทธรูปไม้แกะสลักเรียงรายอยู่หลายร้อยองค์ เชื่อว่าสร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2515 และสันนิษฐานว่าที่นี่อาจเป็นชุมชนขอมโบราณมาก่อน

เส้นทางเดินบนลานหินยามปลายฝน

เส้นทางเดินเท้าจะไปสิ้นสุดที่ผามะนาว ซึ่งห่างจากภูถ้ำพระ 700 ม.มีน้ำตกให้ชม ด้านบนหน้าผาเป็นจุดชมวิวมองเห็นกลุ่มหินเทิบและวิวแม่น้ำโขงได้ ชมวิวเสร็จแล้วจึงเดินกลับที่ทำการอุทยานฯ เนื่องจากเส้นทางเดินต้องใช้เวลามาก ทางที่ดีคุณควรห่อข้าวกลางวันไปกินด้วย

ผามะนาว

Day 3
เช้านี้ หากคุณไม่รีบกลับ อาจจะไปชมภาพเขียนสีของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่ถ้ำฝ่ามือแดง ตั้งอยู่ที่หน่วยพิทักษ์ฯห้วยสิงห์ ทางเข้าอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 2034 กม.ที่ 8-9 ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 8 กม. ใช้เวลาเดินเท้าประมาณชั่วโมงครึ่ง เนื่องจากเป็นเส้นทางเดินป่าจึงต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง ส่วนใครจะไปเที่ยวต่อที่อุบลฯ ขับล่องลงใต้ตามทางหลวงหมายเลข 2034 แวะเที่ยวอ.เขมราฐและอ.โขงเจียมได้เลย

น้ำตกถ้ำพระ

สำหรับคนที่จะค้างแรมในอุทยานฯภูผาเทิบ มีบ้านพัก ลานกางเต็นท์และเต็นท์ให้เช่าด้วย 
อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ โทร 042 60 1 753, 042 676 474

แก่งกะเบา อีกจุดน่าแวะระหว่างขับรถเลียบโขง

ขับรถเที่ยวในมุกดาหาร

เส้นทางท่องเที่ยวของจังหวัดมุกดาหารส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเขต 3 อำเภอเลียบแม่น้ำโขง ได้แก่ อ.หว้านใหญ่ อ.เมือง และอ.ดอนตาล เส้นทางนี้ขับรถเที่ยวได้ไม่ยากเพราะที่เที่ยวชื่อดังของมุกดาหารจะตั้งอยู่บนเส้นทางหลวงของจังหวัด ทุกทางมีป้ายบอกทางโดยที่เที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และไม่ควรพลาดไปชมเลยก็คือ หอแก้วมุกดา หอคอยสูงอันเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดที่มีวิวของเมืองมุกดหาร ทิวทัศน์แม่น้ำโขง และวิวฝั่งลาวให้ชมอย่างงดงาม

หอแก้วมุกดา

หอแก้วมุกดา 

Location: ในตัวเมืองมุกดาหาร ริมถนนสายมุกดาหาร-ดอนตาล 

จากตัวเมืองมุกดาหาร ใช้ทางหลวงหมายเลข 2034 มุกดาหาร-ดอนตาล ระยะทางประมาณ 2 กม.จะพบหอแก้วมุกดาทางซ้าย  

ชื่อเต็มๆ คือ หอแก้วมุกดาเฉลิมพระเกียรติกาญจนาภิเษก นับเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของมุกดาหารที่หลายคนรู้จักกันดี ภายในหอคอยสูงแห่งนี้แบ่งออกเป็น 12 ชั้น ภายในชั้นล่างจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ และศิลปวัฒนธรรมของผู้คน 8 เผ่า และวิถีชีวิตของคนสองฝั่งโขงที่อาศัยอยู่ในจังหวัดมุกดาหาร

หากขึ้นไปชั้นบนๆ หอคอยแห่งนี้ยังเป็นจุดชมวิวอันงดงามที่สุดของเมือง มองเห็นทิวทัศน์บ้านเรือนในตัวเมืองมุกดาหาร วิวแม่น้ำโขง และทิวทัศน์ของเมืองสะหวันนะเขตที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม นอกจากนี้ในชั้นบนสุดของหอแก้วมุกดายังเป็นสถานที่ประดิษฐาน พระพุทธนวมิ่งมงคลมุกดาหาร พระพุทธรูปเนื้อเงินแท้บริสุทธิ์ ปางมารวิชัย ที่จัดสร้างขึ้นในโอกาสเดียวกันกับการสร้าง หอแก้วมุกดาหาร และยังมีพระพุทธรูปประจำวันเกิดขนาดเล็กประดิษฐานไว้รอบห้องให้สักการะด้วย 

วัดศรีมหาโพธิ์ 

Location: ริมแม่น้ำโขง อ.หว้านใหญ่ 

จากตัวเมืองมุกดาหาร ใช้ทางหลวงหมายเลข 212 มุกดาหาร-หว้านใหญ่ จากอ.หว้านใหญ่ ขับรถไปตามถนนเลียบแม่น้ำโขงจะพบวัดศรีมหาโพธิ์ 

หากคุณขับรถเลียบโขงมาจากจ.นครพนม ก่อนเข้าสู่ตัวเมืองมุกดาหารคุณสามารถแวะเที่ยวชม วัดศรีมหาโพธิ์ ได้ระหว่างทางในอ.หว้านใหญ่ ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจคือ สิมอีสานอันเก่าแก่ สร้างเมื่อพ.ศ. 2459 เป็นสิมที่ผนัง 3 ด้าน ส่วนภายในผนังยังมีจิตกรรมฝาผนังนำเสนอเรื่องราวของพระเวสสันดรชาดก และภาพเหตุการณ์ที่สมเด็จกรมพระยาดำรงเดชานุภาพเสด็จตรวจหัวเมืองในมณฑลอีสานประทับอยู่บนเกวียน นอกจากนี้บริเวณวัดยังตั้งอยู่ติดแม่น้ำโขงจึงมานั่งพักผ่อนชมวิวฝั่งลาวได้อย่างสวยงาม 

วัดมโนรมย์