น้ำตกหมันแดง ภูหินร่องกล้า พิษณุโลก

ความงามที่น้อยคนจะได้เห็นลิ้นมังกรชมพูในหน้าฝน

ชมลิ้นมังกรสีชมพูหน้าน้ำตกใหญ่

อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เป็นที่รู้กันดีว่าเป็นแหล่งรวมสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และจุดชมทิวทัศน์อันงงดามหลายแห่ง แต่อย่างไรก็ดีในอุทยานฯ ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติให้ไปศึกษาเดินป่ากันด้วย หนึ่งในนั้นคือเส้นทางเที่ยวชมน้ำตกหมันแดง ที่มีความเป็นพิเศษเฉพาะหน้าฝน นั่นคือผจญภัยฝ่าดงทากไปชมดอกลิ้นมังกรสีชมพู ซึ่งเป็นสีที่หาชมได้ยากที่สุด

Location อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อ.นครไทย จ.พิษณุโลก

จากอ.เมืองพิษณุโลก ใช้ทางหลวงหมายเลข 12 (พิษณุโลก-หล่มสัก) ระยะทางประมาณ 69 กม.ถึงสามแยกบ้านแยง จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าสู่อำเภอนครไทย ระยะทาง 29 กม. ถึงสามแยกบ้านหนองกะท้าว เลี้ยวขวาไปประมาณ 5 กม. เข้าทางหลวงหมายเลข 2331 จะเป็นเส้นทางขึ้นเขา ระยะทางประมาณ 25 กม. ถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว

ชมลิ้นมังกรช่วงกลางฤดูฝน ย่างเข้าต้นฤดูฝนชมใบเมเปิ้ล

เมเปิ้ลปลายฝน สีเขียว พอย่างเข้าหน้าหนาวสีจะแดงสด

แม้การไปเที่ยวชมน้ำตกแห่งนี้จะไม่หมูเหมือนที่เที่ยวอื่นๆ แต่หลายคนก็ยังอยากไปเที่ยวชมเพราะเป็นน้ำตกสวยอยู่กลางป่าใหญ่ ในช่วงฤดูฝนนอกจากน้ำตกจะสวยงามที่สุดแล้ว หน้าน้ำตกหมันแดงแห่งนี้ก็ยังมีลิ้นมังกรสีชมพูดอกไม้หายากให้ชมเป็นของแถมด้วย  

น้ำตกหมันแดงมี 32 ชั้น แต่น้อยคนจะเดินครบ

น้ำตกหมันแดง ตั้งอยู่กม.ที่ 32 เลยทางเข้าโรงเรียนการเมือง-การทหารไปไม่ไกล จากที่ทำการอุทยานฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 2331 ประมาณ 32 กม. ถึงลานจอดรถเดินเท้าลงเขาไปอีกประมาณ 3.5 กม. ถึงจะพบน้ำตกชั้นแรก ระหว่างทางในช่วงฤดูฝนทากเพียบจึงควรเตรียมถุงกันทากกันให้พร้อมด้วย

ลิ้นมังกรสีชมพู เห็นยากเพราะต้องเดินฝ่าทากดูดเลือดเข้าไป

น้ำตกหมันแดง เป็นน้ำตกที่มีชั้นมากถึง 32 ชั้น แต่ไม่นิยมไปชมทั้งหมด ส่วนใหญ่ไปชมกันเพียงชั้น 8 เท่านั้น ไกลจากนั้นเป็นเพียงชั้นน้ำตกเล็กๆ สำหรับชั้นไฮไลท์อยู่ที่ชั้น 5 เพราะเป็นชั้นน้ำตกที่มีลิ้นมังกรสีชมพูให้ชมกัน

สามารถชมได้เพียงช่วงฤดูฝนเท่านั้น สำหรับชั้น 8 มีลักษณะเป็นม่านน้ำกว้างสวยที่สุด ด้วยระยะทางที่ไกล และเป็นเส้นทางลงเขาตลอดทางการเที่ยวชมน้ำตกหมันแดงจึงใช้เวลาเกินกว่าครึ่งวัน ช่วงเช้าจึงควรเตรียมอาหารกลางวัน และน้ำดื่มติดตัวมาด้วย โดยสามารถหาซื้อข้าวกล่องได้จากที่ทำการอุทยานฯ  

หลังจบทริปเที่ยวน้ำตกหมันแดง ช่วงเวลาที่เหลือขับรถเที่ยวบนภูหินร่องกล้ากันต่อ ตลอดทางหลวงสายนี้มีที่เที่ยวให้แวะชมหลายแห่ง เช่น ลานหินปุ่ม ลานหินแตก ผาชูธง โรงเรียนการเมืองการทหาร น้ำตกร่มเกล้า-ภราดร ฯลฯ แต่ที่ไม่ควรพลาดคือไปชมเปราะภูสีขาวที่ลานหินปุ่ม

บริเวณลานหินปุ่ม หน้าฝนประดับไปด้วยเปราะภูขาวสวย

เปราะภู จะออกดอกขาวสะพรั่งบนต้นเขียวสดในหน้าฝนเท่านั้น มาเที่ยวภูหินร่องกล้ายามวสันตฤดูนอกจากจะได้ชมลิ้นมังกรสีชมพูกับน้ำตกหมันแดง 32 ชั้นแล้ว ยังมีของหวานที่เดินกันง่ายๆ ที่ลานหินปุ่มชมความงามขาวสะอาดละลานตาที่จะเห็นได้เฉพาะช่วงกลางฝนเช่นกัน

เปราะภู ดูได้เฉพาะหน้าฝน แถวลานหินทางไปลานหินปุ่ม

เปราะภู เป็นพรรณไม้เด่นของอุทยานฯภูหินร่องกล้า พบเจอได้มากในเส้นทางการเที่ยวชมลานหินปุ่ม-ผาชูธง จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 2331 ประมาณ 2 กม.จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ 1 กม.จะพบลานจอดรถ และจุดเริ่มต้นเส้นทางเดินเท้าสู่ลานหินปุ่ม และผาชูธง 

จากนั้นเดินเข้าไปในเส้นทางไม่ไกลก็จะพบพรรณไม้ลักษณะเป็นพุ่มมีลำต้นสีเขียวดอกสีขาวขึ้นกระจายอยู่ตามลานหินนั่นก็คือ เปราะภู นั่นเอง จุดเด่นของเปราะภูคือ เป็นพืชล้มลุกเฉพาะถิ่นตระกูลเดียวกันกับขิง และข่า เติบโตได้จากบนลานหิน ซอกหิน และทุ่งหญ้าที่มีความชุ่มชื้น ลำต้นกลมสูงประมาณ 35 ซ.ม. ใบเป็นรูปหอกเรียบยาว 10 ซ.ม. กว้าง 1.5 ซ.ม. ดอกออกเป็นช่อที่ปลายต้น และแบ่งออกเป็น 4-6 ดอกต่อต้น มีทั้งสีขาว สีม่วง สีเหลือง

พบเห็นได้ในเขตภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีความสูงระดับ 1,000 ม.ขึ้นไป และชมได้เพียงปีละครั้งคือ ช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม ของทุกปีเท่านั้น ในเส้นทางนี้สามารถพบเห็นเปราะภูได้ถึงบริเวณลานหินปุ่ม และผาชูธงเลยทีเดียว   

ชื่นใจจาการชมดอกไม้แล้วจะเดินทางกลับ หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศขับรถไปนอนภูทับเบิกสักคืนก็น่าสนใจไม่น้อย ระยะทางไม่ไกลมากนักขับรถต่อเนื่องจากภูหินร่องกล้าไปลงภูทับเบิกได้เลย เดินทางบ่ายถึงช่วงเย็นๆ พอทันกางเต็นท์นอนดูดาว เช้าชมทะเลหมอก และชมไร่กะหล่ำปลีของชาวม้งทับเบิก