เที่ยวหมู่บ้านม้งใกล้เมือง
เชียงใหม่ จากเดิมที่มีสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว ปัจจุบันก็ยังมีการนำเสนอทริปใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่พร้อมสำหรับการเข้าไปเยี่ยมชมของบรรดานักท่องเที่ยวทั้งหลาย และหนึ่งในสถานที่ที่กำลังได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมากก็คือ บ้านแม่สาใหม่
Location แม่สาใหม่เป็นหมู่บ้านม้งที่อยู่ในเขตต.โป่งแยง อ.แม่ริม มีระยะทางห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 35 กม.ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชม.
จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 107 (เชียงใหม่-ฝาง) จนถึงอ.แม่ริม กม.ที่ 17 เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหมายเลข 1096 (แม่ริม-สะเมิง) ไปจนถึงวัดโป่งแยงนอก เลี้ยวซ้ายอีกครั้ง จากนั้นขับไปอีกประมาณ 8 กม. ก็จะถึงบ้านแม่สาใหม่
รู้จักม้ง
บ้านแม่สาใหม่ เป็นสถานที่ตั้งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่สาใหม่ ซึ่งถือเป็นแหล่งเรียนรู้ทางการเกษตรที่มีขนาดใหญ่ แต่กว่าจะมาเป็นบ้านม้งแม่สาใหม่ที่ประสบความสำเร็จทางการเกษตรได้อย่างในปัจจุบัน ชาวม้งในอดีตต้องผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย โดยที่แต่เดิมชาวเขาเผ่าม้งอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแม่สาเก่า แต่เนื่องจากประสบกับปัญหาภาวะขาดแคลนน้ำ ทำให้ชาวม้งอพยพลงมาตั้งถิ่นฐานใหม่กันที่หมู่บ้านม้งแม่สาใหม่ในปัจจุบัน และเปลี่ยนจากอาชีพหลักอย่างการปลูกฝิ่นมาเป็นทำไร่ทำสวน อย่างการปลูกลิ้นจี่ ข้าวโพด ผักกาด หรือแครอทแทน หลังจากที่รัฐบาลเข้มงวดเรื่องการปลูกฝิ่นมากขึ้นในราวช่วงปีพ.ศ. 2513
นอกจากนี้ทางชุมชนเองก็เน้นในเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติด้วยเช่นกัน ทำให้บ้านม้งแม่สาใหม่เป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็งมากที่สุดชุมชนหนึ่งในปัจจุบัน
มีอะไรน่าเที่ยวที่บ้านม้งแม่สาใหม่
นอกจากความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่เห็นได้ชัดเจนแล้ว ขนบธรรมเนียมประเพณีของคนที่นี่ รวมไปถึงวิธีการดำเนินชีวิตที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวก็เหมาะกับผู้ที่สนใจอยากศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นเช่นกัน เพราะที่นี่จัดได้ว่ามีประเพณีแปลกใหม่ ซึ่งแตกต่างจากที่อื่นและยังแสดงถึงความมีเอกลักษณ์ในตัวเอง อีกทั้งยังมีการท่องเที่ยวในเชิงเกษตรที่จะทำให้นักท่องเที่ยวทั้งหลาย นอกจากจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ความสนุกสนานกลับไปแล้ว ยังจะได้พกพาความรู้ทางการเกษตรติดตัวกลับไปเป็นของแถมด้วย
Day1
หากจะว่าไปการเดินทางไปยังหมู่บ้านม้งแม่สาใหม่ในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้ว เพราะถึงแม้เส้นทางจะเป็นทางขึ้น-ลงเขา แต่ก็เป็นทางลาดยางที่รถสามารถเข้าถึงได้ บวกกับระยะทางเพียง 35 กม. ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่มากนัก ก็ทำให้ชุมชนแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตได้ไม่ยาก เพียงแค่ 1 ชม.เศษจากเชียงใหม่โดยประมาณ คุณก็จะได้สัมผัสกับบรรยากาศสงบเงียบและบริสุทธิ์ของธรรมชาติที่รายล้อมอยู่รอบตัว
เดินทางยังไม่ทันรู้สึกเหนื่อยก็ถึงที่หมาย หมู่บ้านม้งแม่สาใหม่ มาถึงถิ่นดินแดนชาวม้งแบบนี้ หากไม่ได้ลงไปสัมผัสกับวิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ก็น่าเสียดายโอกาสที่ได้มา เพราะที่หมู่บ้านแห่งนี้มีทั้งม้งน้ำเงิน (ม้งลาย) และม้งขาว ที่ยังอนุรักษ์การดำรงชีวิตในรูปแบบเดิมๆ ไว้ ไม่ว่าจะเป็นการละเล่นต่างๆ การทำข้าวซ้อมมือ หรือการทำหัตถกรรม รวมไปถึงการจัดแสดงภาพประวัติของหมู่บ้านที่อาคารวัฒนธรรมชุมชน ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจได้เรียนรู้และเข้าถึงวิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่นได้อย่างลึกซึ้ง
นอกจากนี้ ถ้าหากมาในช่วงปลายปีคุณจะได้ชื่นชมกับประเพณีปีใหม่ม้ง (เทศกาลกินวอ) ที่จะมีชนเผ่ามาร่วมงานประมาณ 12 เผ่าด้วยกัน แต่ละคนจะแต่งกายด้วยชุดประจำเผ่าของตนที่มีลวดลายสวยงามแตกต่างกันไป มีการละเล่นพื้นบ้านอย่างการเล่นโยนลูกช่วง (ลูกบอลผ้า) การเล่นลูกข่าง และการขับเสภา ซึ่งสร้างความสนุกสนานเพลิดเพลินให้กับผู้ที่เข้าร่วมในงานเป็นอย่างมาก
นอกจากประเพณีปีใหม่ม้งแล้วที่หมู่บ้านม้งแห่งนี้ยังมีเทศกาลท้องถิ่นที่จัดได้ว่าไม่เหมือนใครอยู่อีก เช่น พิธีกรรมป่าดงเช้ง พิธีเลี้ยงผี ประเพณีไหว้พระจันทร์ ล้วนแต่เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานของชาวม้งจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
Day2
วันแรก ได้เที่ยวชมทั้งวิถีชีวิตและวัฒนธรรมดั้งเดิมกันไปแล้ว ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาท่องเที่ยวแบบสัมผัสกับธรรมชาติกันดูบ้าง ซึ่งที่ที่ควรไปประเดิมเลยก็คือดอยผากลอง สถานที่ที่จารึกตำนานรักของขุนหลวงวิลังคะและพระนางจามเทวีเอาไว้ แต่การจะเดินทางไปยังดอยผากลองจำเป็นต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ เพราะเส้นทางจากหมู่บ้านมีลักษณะเป็นทางลูกรังประมาณ 6 กม. และเส้นทางหลักอีกประมาณ 3 กม. บวกกับระยะทางเดินเท้าอีก 400 ม.พื่อไปยังจุดชมวิว
บนยอดดอยมีลักษณะของหินขนาดใหญ่ที่มีหน้าตัดเรียบคล้ายกับหน้ากลอง และมีพระธาตุของขุนหลวงวิลังคะไว้สำหรับให้ผู้ที่ผ่านไปมาได้รำลึกเรื่องราวในอดีตของพระองค์ หากใครที่ไม่เคยชินกับเส้นทางก็สามารถใช้บริการรถนำเที่ยวได้ พร้อมไกด์นำเที่ยว
เมื่อกลับลงมาหากยังมีแรงและพอมีเวลาเหลือ เส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าด้งเช้งก็เป็นอีกโปรแกรมหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย ระหว่างเส้นทางคุณจะพบกับพันธุ์ไม้ป่าต่างๆ อย่างเช่น หวาย ไม้สน ป่าไผ่ และลิลลี่ป่า รวมถึงอาจจะได้เห็นร่องรอยของสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่แถวนั้น รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 3 กิโลเมตร ก่อนกลับอาจแวะที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่สาใหม่เพื่อเที่ยวชมแปลงสาธิตพืชผักเมืองหนาว หรือการปลูกพริกหวานแบบไม่ใช้ดินที่บ้านศรีม่วงคำ หรือหากเป็นช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายนอาจเข้าสวนลิ้นจี่ เพื่อชม ชิม ลิ้นจี่จากสวนกันสดๆ เพราะทางสวนอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเก็บลิ้นจี่รับประทานกันได้ถึงที่เลยทีเดียว
เมนูพื้นบ้าน
การจะมองหาร้านอาหารสักร้านในชุมชนบ้านแม่สาใหม่อาจเป็นเรื่องยากไปสักหน่อย เพราะแม้แต่ภายในศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่สาใหม่ก็ไม่มีร้านอาหารไว้คอยบริการให้กับนักท่องเที่ยว ดังนั้นใครที่กำลังมองหาร้านอาหารเพื่อฝากท้องอยู่ ควรจะรับประทานอาหารและเตรียมเสบียงให้พร้อมก่อนที่จะเข้าไปในชุมชน ซึ่งจะมีร้านอาหารไว้บริการอยู่ที่หมู่บ้านโป่งแยงนอกก่อนทางขึ้นศูนย์โครงการหลวงแม่สาใหม่ประมาณ 3 กม.
ส่วนใครที่พักแบบโฮมสเตย์ส่วนมากเจ้าของบ้านจะจัดเตรียมอาหารไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว จึงสามารถวางใจในเรื่องอาหารได้ แต่เพื่อป้องกันความผิดพลาดนักท่องเที่ยวควรสอบถามเรื่องอาหารให้เรียบร้อยตั้งแต่ขั้นตอนการติดต่อเรื่องที่พัก เมนูส่วนใหญ่ของชาวบ้านที่นี่มักจะเน้นไปที่วัตถุดิบซึ่งสามารถหาได้ง่าย อย่างผักที่ปลูกไว้ในสวนหรือเนื้อสัตว์ที่ได้จากสัตว์ที่เลี้ยงไว้ จึงทำให้ได้อาหารพื้นบ้านที่สดใหม่และมีรสชาติที่อร่อย เป็นการรับประทานอาหารที่ทำให้ได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง
โฮมสเตย์ม้ง
หากพูดถึงที่พักภายในอาณาเขตตำบลโป่งแยง จะมีจำนวนค่อนข้างมากพอสมควร มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบและราคาด้วยกัน แต่สำหรับที่พักภายในชุมชนบ้านแม่สาใหม่อาจจะมีค่อนข้างจำกัด ดังนั้นหากนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนแบบใกล้ชิดกับชุมชนควรตรวจสอบและจองบ้านพักให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง
ติดต่อสอบถาม โทร 089 851 9922