ล่องแพท่องธรรมชาติทะเลสาบเขื่อนกิ่วลม
เมื่อพูดถึง ลำปาง จังหวัดเล็กๆ ที่เปรียบดังประตูแห่งล้านนา และเป็นเหมือนเมืองทางผ่านในใจใครหลายคน น้อยคนนักจะรู้ว่าแท้จริงแล้ว เมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่น่าศึกษา ในขณะที่ธรรมชาติก็น่าสนใจด้วย ยังมีที่พักผ่อนขึ้นชื่อ เป็นเรือนแพกลางทะเลสาบที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติสุดอลังการ รอคุณไปสัมผัส
เขื่อนกิ่วลม ตั้งอยู่ในเขต อ.เมือง จ.ลำปาง แต่อยู่ห่างจากตัวเมืองออกไปราว 38 กม. เขื่อนแห่งนี้สร้างขึ้นด้วยจุดประสงค์ด้านการชลประทานเป็นหลัก เน้นบริหารจัดการเก็บกักน้ำให้เพียงพอกับความต้องการใช้น้ำในฤดูแล้ง และบรรเทาอุทกภัยยามน้ำหลาก กั้นขวางลำน้ำวัง ก่อนเข้าสู่ตัวเมือง
เขื่อนกิ่วลมมีความยาว 135 ม. และสูงประมาณ 42 ม. ใช้เวลาก่อสร้างทั้งหมด 7 ปี ระหว่าง พ.ศ. 2508 – 2515 สามารถเก็บกักน้ำได้ราว 106.22 ล้าน ลบ.ม. และส่งน้ำให้กับพื้นที่โครงการราว 60,000 ไร่
ส่วนด้านการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมแวะเวียนไปตกปลา รวมถึงเหมาแพลำใหญ่ที่จุได้ราว 30-50 คน เพื่อสังสรรค์หรือพักผ่อนช่วงวันหยุด การล่องแพเที่ยวเขื่อนกิ่วลมคุณสามารถเลือกล่องได้ทั้งแบบไปเช้าเย็นกลับ พักค้างคืนบนแพ หรือพักในรีสอร์ทบรรยากาศเงียบสงบบนเกาะกลางทะเลสาบ
Day 1
กิจกรรมล่องแพเขื่อนกิ่วลม จัดเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมวันหยุดที่เหมาะสำหรับคนที่รักความสงบ และหลงใหลธรรมชาติ โดยพาหนะที่นี่จะมีเอกลักษณ์และโดดเด่นกว่าแพแห่งอื่นๆ
ตัวเรือนแพหลังใหญ่จะใช้เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนไปในทะเลสาบ แทนการลากจูง หรือลอยอยู่กับที่ แถมยังมีความคล่องตัว และสะดวกสบายด้วย ห้องน้ำ ส่วนทำครัว และที่นอน นอกจากคนส่วนใหญ่จะใช้เป็นที่พักผ่อนแล้ว บางหน่วยงานยังนิยมจัดประชุม หรือสัมมนาบนพาหนะชนิดนี้อีกด้วย
การเริ่มต้นท่องเที่ยวโดยแพในทะเลสาบเขื่อนกิ่วลม จำเป็นต้องเลือกผู้ประกอบการแล้วยกหูโทรจอง พร้อมบอกความต้องการต่อผู้ประกอบการเสียก่อน ว่าต้องการนั่งไปเช้า-เย็นกลับ ค้างแรมบนแพ หรือเลือกนอนอุ่นๆ ในรีสอร์ทบนเกาะกลางน้ำ สิ่งจำเป็นที่ควรนำติดตัวไปด้วยคือ ไฟฉาย ยาประจำตัว ชุดว่ายน้ำ และเสื้อผ้าจำเป็น
ทริปยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วไปมักจะเป็นแพกเกจ 2 วัน 1 คืน เริ่มต้นด้วยจากตัวเมืองลำปางในช่วงเที่ยง ทานข้าวกลางวันจากตัวเมืองให้เรียบร้อยจากนั้นมุ่งหน้าขึ้นเหนือไปทาง จ.เชียงราย โดยใช้เส้นทางหมายเลข 1
ขับรถชมวิวทิวทัศน์ไปเพลินๆ จนถึง กม. 623 จะพบแยกทางซ้ายมือมีป้ายเขียนทางไปเขื่อนกิ่วลม ให้คุณเลี้ยวซ้ายตรงไปอีกไม่ไกลก็จะเห็นเขื่อนคอนกรีตสูงกั้นขวางลำน้ำอยู่เบื้องหน้า
หลังจากชมทิวทัศน์และเก็บภาพประทับใจบริเวณศาลาชมวิวจนเต็มอิ่ม จอดรถพร้อมล็อคให้เรียบร้อยในพื้นที่ซึ่งจัดเตรียมไว้ ก็ถึงเวลาขนของลงแพยนต์ที่เทียบท่าอยู่ไม่ไกลจากจุดจอดรถ โดยบริเวณนี้มีแพอยู่หลายเจ้าใครไม่ได้นัดล่วงหน้าก็สามารถเลือกสไตล์ที่ชอบหน้างาน และกระโดดขึ้นได้เลยเช่นกัน แต่ความฉุกละหุกอาจทำให้ทริปของคุณไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร เช่น เรื่องอาหารการกินเป็นต้น เนื่องจากบางเมนูเด็ด จำเป็นที่จะต้องเตรียมวัตถุดิบไว้ล่วงหน้า
หลังจากแพยนต์เริ่มล่องออกจากท่า จะเป็นบริการอาหารว่าง พร้อมเครื่องดื่ม ตามแต่ตกลงไว้ ช่วงแรกแพจะค่อยๆ แล่นผ่านทะเลสาบกว้างใหญ่อย่างช้าๆ เพื่อให้คุณได้เต็มอิ่มกับบรรยากาศอันงดงาม และเงียบสงบของผืนป่าจ.ลำปางที่อยู่รายล้อมทะเลสาบ
จุดแรกแพยนต์จะพาคุณแล่นไปชมถ้ำเหล็กไหล ถ้ำสมบัติ ผางาม และผาเกี๋ยง เพื่อชมทิวทัศน์ของทะเลสาบกิ่วลม ที่เที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดลำปาง ระหว่างการเดินทางหากคุณต้องการแวะจอดเล่นน้ำที่จุดไหนก็สามารถสอบถามขอความคิดเห็นจากนายเรือได้ แต่ไม่ควรลืมสวมชูชีพทุกครั้งที่กระโดดลงจากแพ และห้ามลงนำ้เด็ดขาดขณะแพกำลังติดเครื่องยนต์และแล่นอยู่
ตกเย็นหาคุณเลือกพักค้างคืนบนเกาะกลางน้ำ ราว 5 โมงเย็น แพยนต์จะพาคุณเทียบท่าพร้อมนำคุณเข้าสู่บ้านพักริมน้ำ บรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติ สะดวกสบายเพราะมีห้องอาบน้ำในตัว และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
สำหรับท่านที่เลือกพักบนแพ อาจใช้เวลาในช่วงเย็นเล่นน้ำ ตกปลา ทานอาหารบนแพ ก่อนที่จะพาเทียบท่าที่เกาะกลางน้ำ ชมพระอาทิตย์จะลับลาขอบฟ้าไป
กิจกรรมช่วงการคืนส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวนิยมสังสรรค์ เหวี่ยงเบ็ดตกปลา และนอนดูดาว แต่จะพิเศษสักหน่อยสำหรับใครที่เลือกพักในรีสอร์ทบนเกาะ เพราะทางผู้ประกอบการจะเตรียมกิจกรรมรอบกองไฟให้คุณได้ร่วมสนุกกันก่อนนอน หากคุณแวะมาเยี่ยมเยือนในช่วงหน้าหนาว และคณะทัวร์มีขนาดใหญ่พอ
Day 2
หากคุณสามารถตื่นแต่เช้าได้การบอกกล่าวให้นายเรือออกแพพาไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่กลางทะเลสาบก็สามารถทำได้เช่นกัน หรือใครไม่สะดวกจะขึ้นเกาะไปตักบาตรกับพระสงฆ์ซึ่งบิณฑบาตโดยการนั่งเรือ บริเวณหน้ารีสอร์ทก็ไม่ผิดกติกา
หลังมื้อเช้าเก็บสัมภาระเสร็จสรรพก็ถึงเวลาที่แพยนต์จะสตาร์ทเครื่องพาคุณออกชมทิวทัศน์ของทะเลสาบเขื่อนกิ่วลมอีกครั้ง ก่อนแล่นกลับสู่ท่าเทียบแพบริเวณปากเขื่อน จัดแจงเก็บของขึ้นรถแล้วแวะเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวเด่นต่างๆ ในตัวจังหวัดลำปาง
ที่เที่ยวใกล้เคียง
ลำปางถึงแม้จะเป็นเมืองเล็ก แต่เรื่องศิลปะและวัฒนธรรม รวมถึงความรุงเรืองของประวัติศาสตร์ก็ไม่เป็นรองใคร สังเกตุได้จากในตัวเมืองและอำเภอใกล้เคียง ที่เต็มไปด้วยวัดเก่าน่าเที่ยวชม รวมถึงอาคารเก่าแก่อายุร่วมร้อยปีบริเวณสองฝั่งแม่น้ำวัง
วัดศรีชุม
Location: ถ.ทิพย์วรรณ ต.สวนดอก อ.เมืองลำปาง
เป็นวัดที่สร้างขึ้นโดยคหบดีชาวพม่าที่เข้ามาอาศัยอยู่ในลำปางช่วงที่การทำไม้เฟื่องฟู ในอดีตภายในวัดจะเต็มไปด้วยต้นพระศรีมหาโพธิ์ คำว่า ศรี ในชื่อวัดจึงมาจากคำว่า ศรีมหาโพธิ์ ส่วนคำว่า ชุม มาจากคำว่าที่ชุมนุมนั้นเอง วัดศรีชุมจัดเป็นวัดพม่าซึ่งมีขนาดใหญ่โตที่สุดในประเทศไทย จุดเด่นน่าสนใจคือ วิหาร ซึ่งเป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ทรงปราสาท และโบสถ์เล็กๆ ทรงจัตุรัสย่อมุมไม้สิบสอง ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2444 รวมถึงเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากพม่า ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2449
วัดป่าฝาง
Location: ถ.สนามบิน ต.หัวเวียง อ.เมืองลำปาง
เป็นวัดศิลปะพม่าอีกวัดหนึ่ง มีอีกชื่อเรียกว่า วัดสาสนะโชติการาม สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2435 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 โดยชาวพม่าชื่อ อูส่วยอัตถ์ ผู้มั่งคั่งจากการทำป่าไม้ในจังหวัดลำปาง สิ่งน่าสนใจคือ พระธาตุเจดีย์ ทรงกลมที่ตั้งอยู่บนฐานแปดเหลี่ยม มีฉัตรขนาดใหญ่ประดับอยู่บนเรือนยอด ด้านล่างมีมุขยื่นออกมาทั้งแปดทิศ แต่ละทิศมีเจดีย์บริวารประดับอยู่ คล้ายเจดีย์พม่าทรงมอญ นอกจากนี้ยังมีวิหารสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลผสมกับพม่าทรงสี่เหลี่ยม มีหน้าต่างซุ้มโค้งรอบอาคาร ประดิษฐานพระพุทธรูปศิลปะพม่าอีกหลายองค์ให้คุณได้แวะชม
วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม
Location: ถ.พระแก้ว ต.เวียงเหนือ อ.เมืองลำปาง
มีชื่อเรียกสั้นๆ ว่าวัดพระแก้วดอนเต้า เป็นวัดที่สำคัญวัดหนึ่งของจังหวัด เพราะเคยเป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต และพระแก้วดอนเต้า นอกจากนี้ยังมีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบราชสำนักพม่า สิ่งที่น่าสนใจในวัดมี พระบรมธาตุดอนเต้า ซึ่งภายในบรรจุพระเกศาของพระพุทธเจ้าไว้ นอกจากนี้ยังมี มณฑปหรือพญาธาตุ ที่สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2454 เพื่อประดิษฐานพระบัวเข็ม ศิลปะพม่าจากเมืองมัณฑะเลย์ และวิหารหลวงที่เคยใช้ประดิษฐานพระแก้วมรกตช่วงปี พ.ศ. 1979-2011 รวมถึงวิหารพระเจ้าทองทิพย์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ สร้างขึ้นโดยพระนางจามเทวีให้เที่ยวชม
บ้านเสานัก
Location: ถ.ราษฎร์วัฒนา ต.เวียงเหนือ อ.เมืองลำปาง
เป็นบ้านไม้เก่าแก่สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง มีขนาดใหญ่ยกพื้นสูง จุดเด่นอยู่ตรงต้นเสารองรับตัวบ้านที่มีมากถึง 116 ต้น รูปแบบสถาปัตยกรรมเป็นสไตล์ล้านนาผสมกลิ่นอายพม่า ส่วนคำว่า เสานัก หมายถึง เสาที่มีจำนวนมากในภาษาเหนือนั้นเอง บ้านเสานักแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ. 2438 รัชสมัยรัชกาลที่ 5 โดยคหบดีชาวลำปางเชื้อสายพม่า สถานที่แห่งนี้จึงเป็นเหมือนสิ่งสะท้อนความรุ่งเรืองของอุตสาหกรรมไม้สักของจังหวัดลำปางในอดีตได้เป็นอย่างดี
กาดกองต้า
Location: ย่านชุมชนเก่าริมแม่น้ำวัง เชิงสะพานรัษฎาภิเษก
เป็นถนนคนเดินยาวประมาณ 2 กม. เลียบชุมชนเก่าริมแม่น้ำวัง ปิดถนนให้คนได้เดินจับจ่ายช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 16.00-22.30 น. คำว่า กาดกองต้า เป็นภาษาเหนือ แปลเป็นไทยกลางได้ว่า ตลาดบริเวณตรอกท่าน้ำ ชาวบ้านส่วนใหญ่นิยมเรียกย่านนี้ว่าตลาดจีน ความรุ่งเรืองของตรอกเล็กๆ แห่งนี้เริ่มต้นเมื่อประมาณ 100 ปี ที่ผ่านมา ในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 ครั้งเป็นศูนย์การค้าสำคัญของภาคเหนือ
บรรยากาศของถนนคนเดินในปัจจุบันจึงขนาบไปด้วยสถาปัตยกรรมนานาชาติ ที่แสดงผ่านบ้านเรือนและสิ่งก่อสร้าง คุณจึงสามารถพบเห็นได้ทั้งเรือนไทยภาคกลาง เรือนล้านนา เรือนพม่า เรือนแบบจีน รวมถึงเรือนขนมปังขิงแบบฝรั่งชาติตะวันตกได้อย่างครบครันในย่านนี้ สำหรับสินค้าเด่นขึ้นชื่อของถนนคนเดินแห่งนี้ ได้แก่ ขนมไทยสูตรชาววังหาทานยาก ของเล่นเก่า สินค้าพื้นเมือง และงานศิลปะฝีมือเด็ก
ส่วนที่ไม่ควรพลาดคือ ลูกชิ้นเขียง หรือ ลูกชิ้นกาดกองต้า ที่กลายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของตลาดแห่งนี้