ดอยม่อนเงาะ เชียงใหม่

เขาว่าคือ ภูชี้ฟ้า แห่งเชียงใหม่…

เชียงใหม่ เมืองที่ไม่ได้มีดีแค่คำล่ำลือ แต่ถ้าได้ลองมาสัมผัสกับความเป็นเมืองเหนือที่ร่ำรวยวัฒนธรรม มั่งมีประเพณีท้องถิ่น มีทรัพย์สินเป็นธรรมชาติรายล้อมตัวเมืองดูสักครั้ง คงยากที่ใครจะปฏิเสธว่าไม่ได้หลงรักเมืองใหญ่แห่งนี้เข้าเสียแล้ว และเชียงใหม่ก็ไม่ทำให้เราต้องผิดหวัง เมื่อได้เปิดตัวสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ขึ้นมามากมาย เพื่อให้ผู้คนที่หลงใหลได้เข้ามาทำความรู้จักกับเชียงใหม่ในมุมมองที่เปลี่ยนไป และหนึ่งในสถานที่ที่รอให้คุณเข้าไปสัมผัสดูสักครั้งก็คือ สถานที่ที่มีชื่อแปลกๆ ว่า ดอยม่อนเงาะ

Location ดอยม่อนเงาะตั้งอยู่ในพื้นที่ต.เมืองก๋าย อ.แม่แตง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติแม่แตง พื้นที่ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นเนินเขาและภูเขาสลับซับซ้อน ไม่ค่อยมีที่ราบมากนัก อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 700-1,250 ม.

จากตัวเมืองเชียงใหม่ ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 107 (เชียงใหม่-ฝาง) ประมาณ 37 กม. จะถึงบริเวณตลาดแม่มาลัยให้แยกซ้าย เพื่อเข้าทางหลวงหมายเลข 1095 (สายแม่มาลัย-ปาย) ไปอีกประมาณ 12 กม.ถึงวัดสบเปิงเลี้ยวขวาไปตามถ.สบเปิง-ห้วยน้ำเย็น-ม่อนเงาะ ไปอีก 17 กม. จะถึงศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 67 กม.

ดอยม่อนเงาะ นับเป็นดอยที่อยู่ใกล้ตัวเมืองเชียงใหม่ มีจุดชมชมวิวที่เป็นทะเลหมอกทอดตัวออกไปไกลสุดสายตา ซึ่งจุดชมวิวแห่งนี้ตั้งอยู่บนหน้าผาที่มีลักษณะตั้งตรงขึ้นมาคล้ายกับภูชี้ฟ้า ทำให้มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่าภูชี้ฟ้าเชียงใหม่ และดอยม่อนเงาะยังมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี นอกจากนี้บนดอยแห่งนี้ยังมีที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงที่น่าสนใจอีกมากมายให้ได้เที่ยวชมกันอย่างเพลิดเพลิน หากว่าคุณกำลังวางแผนหาสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ในเชียงใหม่อยู่ล่ะก็ คุณก็ไม่ควรพลาดที่จะมาเยี่ยมเยือนม่อนเงาะดูสักครั้ง

Day1

การเดินทางมายังม่อนเงาะต้องผ่านทั้งทางที่เป็นทางลาดยาง ทางขึ้น-ลงเขา และทางลูกรังที่มีหลุมบ่อมากมาย ดังนั้น แนะนำว่าควรใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อจะเหมาะสมกับเส้นทางนี้มากที่สุด และถ้าหากเดินทางมาถึงที่ดอยม่อนเงาะในช่วงบ่ายแก่ๆ และต้องการค้างคืนเป็นการนอนเต็นท์

สิ่งแรกที่ควรทำคือ กางเต็นท์ในจุดที่ให้บริการซึ่งมีลักษณะเป็นลานพื้นหญ้าโล่งกว้างถูกจัดเตรียมไว้ให้พร้อมกับห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลจากบริเวณนั้น และแยกชายแยกหญิงคนละด้านกัน นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมไว้ล่วงหน้าให้พร้อมก็คืออาหารและเครื่องดื่ม เนื่องจากบนยอดดอยม่อนเงาะไม่มีร้านอาหารหรือร้านค้าคอยให้บริการ จึงควรจัดเตรียมเสบียงอาหารเอาไว้ให้พอดีสำหรับการค้างแรม 

หลังจากที่จัดเตรียมทุกอย่างเสร็จแล้ว ก็นั่งรับลมชมวิวเพื่อรอดูแสงสุดท้ายของวันยามพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า และในเวลาที่ฟ้ามืดสนิทบนยอดดอยม่อนเงาะจะเป็นจุดดูดาวที่สวยมากที่สุดอีกจุดหนึ่ง เนื่องจากพื้นที่บริเวณใกล้เคียงมีเพียงความสงบเงียบ ปราศจากแสงไฟมารบกวนจึงทำให้สามารถมองเห็นดวงดาวกระจายเต็มท้องฟ้าได้อย่างชัดเจน

Day2

วันถัดมา ถ้าหากอยากถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นก็ต้องตื่นก่อนตะวัน ซึ่งเวลาประมาณตี 5 น่าจะเหมาะสม และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับทริปดูพระอาทิตย์ขึ้น ชมทะเลหมอกแบบนี้ก็คือ เสื้อกันหนาวตัวอุ่นกับไฟฉายคนละกระบอก เพื่อใช้ในการเดินทางไปรอชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่จุดชมวิวซึ่งอยู่ห่างจากลานกางเต็นท์ไปประมาณ 500 ม.

ณ ที่นี้คุณสามารถชมทะเลหมอกได้สวยงามที่สุดในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากในฤดูฝนหมอกอาจจะฟุ้งไม่จับกลุ่มรวมตัวกันเป็นก้อน และหากมาเที่ยวในฤดูร้อนคุณอาจไม่พบทะเลหมอกเลยเนื่องจากสภาพอากาศไม่เหมาะสม (นอกจากพระอาทิตย์และทะเลหมอกแล้ว หากคุณมาเที่ยวในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ บริเวณม่อนเงาะยังมีต้นเสี้ยวที่จะพร้อมใจกันออกดอกบานสะพรั่งสร้างความสวยงามทั่วทั้งยอดดอยอีกด้วย)

หลังจากที่ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกในยามเช้าเสร็จแล้ว ตอนช่วงขากลับคุณสามารถแวะเวียนเข้าไปท่องเที่ยวเชิงเกษตร เดินเล่นในสวนส้ม ชมวิวชิมชา และอาจหาซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านได้ที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ยินดีพร้อมให้บริการกับนักท่องเที่ยวรออยู่แล้ว 

นอกจากนี้ถ้ายังไม่อยากจบทริปไวเกินไปนัก คุณก็สามารถเลือกที่จะแวะทำกิจกรรมต่างๆ อย่างขี่ช้าง ล่องแพ ชมการแสดงช้างที่ปางช้าง อ.แม่แตง หรือเดินทางต่อไปยังปายซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่กม.เท่านั้น

เตรียมตัวก่อนเที่ยวดอยม่อนเงาะ? 

ต้องเตรียมไปเองให้พร้อม เพราะบริเวณดอยม่อนเงาะไม่มีให้บริการทั้งร้านอาหารและร้านค้า แต่บริเวณจุดกางเต็นท์สามารถก่อกองไฟได้ ดังนั้น การเลือกที่จะทำอาหารรับประทานกันเองก็สามารถทำได้ เพียงแค่เตรียมอุปกรณ์ไปให้พร้อมเท่านั้น  หรือเพื่อความสะดวกจะหาซื้ออาหารปรุงสำเร็จขึ้นไปรับประทานก็ได้เช่นกัน

บริเวณจุดกางเต็นท์ด้านบน นักท่องเที่ยวสามารถเลือกพักได้เพียงอย่างเดียวคือ การกางเต็นท์ท้าลมหนาวเท่านั้น และสำหรับใครที่ไม่ได้เตรียมเต็นท์และเครื่องนอนมาก็สามารถเช่าจากที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะได้ หรือถ้าอยากพักแบบสบายได้นอนในบ้านพัก ที่ศูนย์ฯ ก็มีบ้านพักเป็นหลังๆ คอยให้บริการกับนักท่องเที่ยวอยู่เช่นกัน แต่ขอแนะนำว่าควรจะติดต่อและสอบถามจากเจ้าหน้าที่ให้เรียบร้อยก่อนว่ามีบ้านพักว่างในช่วงที่จะเข้าไปหรือไม่

ติดต่อสอบถาม โทร 053 228 115