เริ่มจากเชียงใหม่ไปแม่ฮ่องสอนกลับเชียงใหม่อีกทาง

เส้นทางวงกลมเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน หมายถึงการเดินทางจากเชียงใหม่ไปแม่ฮ่องสอนโดยไม่ย้อนกลับทางเดิม เริ่มต้นจากเชียงใหม่ ไปตามทางหลวงหมายเลข 107 (แม่ริม-แม่มาลัย) เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1095 มุ่งหน้าสู่อ.ปาย อ.ปางมะผ้าถึงตัวเมืองแม่ฮ่องสอน จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 108 ไปอ.ขุนยวม อ.แม่ลาน้อย อ.แม่สะเรียง วนเข้าเชียงใหม่ทางอ.ฮอด อ.จอมทอง อ.สันป่าตอง และอ.หางดง หรือใครจะเริ่มต้นจากเชียงใหม่ขับทวนเข็มนาฬิกาไปอ.หางดง ฮอด แม่สะเรียง ก็ได้เช่นกัน เส้นทางนี้ควรมีเวลาอย่างน้อย 3 วัน 2 คืน

ระยะทาง: เส้นทางวงกลมรวม 521 กม.(ระยะทางวงกลมโดยประมาณ ไม่รวมแวะเข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ)

1095 เส้นทางสายเสน่ห์สู่อ้อมกอดปายหนาว

1095 คือเส้นทางที่เชื่อมเชียงใหม่กับแม่ฮ่องสอนทางอ.ปาย นับเป็นถนนสายที่โรแมนติกที่สุดเส้นหนึ่งของเมืองไทย เพราะเมื่อเข้าหน้าหนาวทีไร หนุ่มสาวและผู้คนมากมายต่างพากันเดินทางมาเยือนที่นี่กันอย่างเนืองแน่น นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งให้แวะเติมความโรแมนติกตลอดทาง

น้ำตกหมอกฟ้า (กม.ที่ 19) เป็นจุดแวะพักแรกของเส้นทางสายนี้ มีทางแยกจากทางหลวง 1095 เข้าทางลูกรังสู่น้ำตกอีก 2 กม. เป็นน้ำตกชั้นเดียวไหลจากหน้าผาสูงเป็นม่านน้ำอย่างสวยงาม ยิ่งในตอนเช้าจะมีรุ้งกินน้ำให้ชมด้วย

โป่งเดือดป่าแป๋ (กม.ที่ 44) ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ลักษณะเป็นบ่อน้ำพุร้อนแบบไกเซอร์ ซึ่งจะมีแรงดันน้ำพุให้พุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน นอกจากนี้ยังมีบริการห้องแช่น้ำพุร้อนให้บริการด้วย

จุดชมวิวดอยกิ่วลม (กม.ที่ 65-66) อยู่ในบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จุดชมวิวที่นี่มาง่ายรถถึง ในวันฟ้าเปิดจะมองเห็นยอดดอยหลวงเชียงดาวได้ หากเป็นช่วงหน้าหนาวผืนป่าเบื้องล่างจะถูกปกคลุมไปด้วยทะเลหมอกอย่างสวยงาม และถ้าใครชอบสัมผัสความหนาว มากางเต็นท์นอนที่นี่รับรองไม่ผิดหวัง

อ.ปาย เมืองในหมอกอันโด่งดัง ทั้งจากภาพยนตร์และละคร ต่างนำเอาฉากของปายในมุมต่างๆ ไปอวดสายตาคนทั้งประเทศ หลายคนเลือกปายเป็นจุดหมายในการเดินทาง ที่ปายมีครบ ทั้งที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องธรรมชาติ จุดเด่นของปายที่ไม่ควรพลาดชมได้แก่ น้ำตกหมอแปง ปายแคนยอน (กองแลน) วัดน้ำฮู สะพานประวัติศาสตร์ หมู่บ้านสันติชล พระธาตุแม่เย็น ล่องแก่งแม่น้ำปาย อาบน้ำแร่โป่งน้ำร้อนท่าปาย ถนนคนเดินยามค่ำ ฯลฯ เสน่ห์ของปายนั้นมีเยอะ ทั้งร้านรวงต่างๆและมุมถ่ายรูปกระจุกกระจิกน่ารักอีกมากมาย

อ.ปางมะผ้า ดินแดนที่เต็มไปด้วยความลึกลับและธรรมชาติ มีจุดท่องเที่ยวเด่นคือถ้ำน้ำลอด แหล่งประวัติศาสตร์มนุษย์ 2,000 ปี เสน่ห์ของการเที่ยวถ้ำที่นี่คือการล่องแพไม้ไผ่เข้าไปชมส่วนต่างๆ ของถ้ำ ถ้ำแรกคือถ้ำเสาหิน ลักษณะเป็นเสาหินขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่กลางโถง ถ้ำที่สองคือถ้ำตุ๊กตา ที่มาของชื่อคือมีหินงอกหินย้อยที่รูปร่างคล้ายกับตุ๊กตาขนาดต่างๆ เรียงรายอยู่ตามพื้นถ้ำ และยังมีภาพเขียนของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ให้ชมด้วย ถ้ำผีแมนเป็นส่วนที่อยู่ลึกที่สุดของเส้นทางล่องแพ ภายในโถงนี้มีความเชื่อกันว่าเป็นที่เก็บโลงศพของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ เป็นโลงที่แกะจากไม้ทั้งต้น นอกจากที่นี่แล้วในอำเภอปางมะผ้ายังมีถ้ำลักษณะนี้อยู่อีกมากมายถึง 74 แห่ง

ถ้ำปลา อยู่บริเวณกม.ที่ 191-192 เป็นแหล่งแวะพักจุดสุดท้ายก่อนเข้าสู่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ถ้ำปลามีลักษณะเป็นโถงที่ถูกลำธารกัดเซาะจนกลายเป็นถ้ำ ไฮไลท์ของถ้ำปลาก็คือเหล่าปลาพลวงที่อาศัยอยู่ในถ้ำนี้หลายหมื่นตัว

ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน สิ้นสุด 1095 มุ่งหน้าสู่ 108

ดินแดนแห่งหมอกสามฤดู คือชื่อเสียงที่ขนานนามจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อคุณมาถึงที่นี่แน่นอนว่าคุณได้พิชิต 1,864 โค้ง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตัวเมืองแม่ฮ่องสอนนั้นตั้งอยู่ท่ามกลางวงล้อมของหุบเขา ทำให้ไม่ว่าฤดูไหน แม่ฮ่องสอนก็มีหมอกให้ชม จนมีฉายาว่า “เมืองสามหมอก” จากเชียงใหม่มาตามทางหลวงหมายเลข 1095 แวะเที่ยวรายทางมาเรื่อยๆ ถึงแม่ฮ่องสอนแล้วน่านอนพักที่นี่สักคืน เช้ารุ่งขึ้นเที่ยวในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน

พระธาตุดอยกองมู ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง พระเจดีย์องค์ใหญ่สร้างขึ้นโดยพ่อค้าชาวไทยใหญ่ในปีพ.ศ. 2403 ส่วนเจดีย์องค์เล็ก สร้างโดยพญาสิงหนาทราชา เจ้าผู้ครองนครแม่ฮ่องสอนคนแรก ลักษณะเจดีย์เป็นศิลปะมอญ ลานที่ตั้งองค์เจดีย์ยังสามารถชมทิวทัศน์ตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้อย่างสวยงาม

วัดจองกลาง-วัดจองคำ เป็นวัดแฝดตั้งอยู่ในกำแพงเดียวกัน สถาปัตยกรรมของวัดนี้เป็นศิลปะไทยใหญ่ เป็นเสมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของเมืองไทยใหญ่ สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดจองคำได้แก่ เจดีย์สีทองอร่าม วิหารหลวงพ่อโตศิลปะไทยใหญ่ผสมฝรั่งเศส พระอุโบสถ ส่วนวัดจองกลางนั้นมีพระพุทธสิหิงค์จำลอง วิหารใหญ่ที่มีหลังซ้อนเป็นชั้นๆ ห้องพิพิธภัณฑ์จัดแสดงตุ๊กตาไม้แกะสลักฝีมือช่างชาวพม่า และเจดีย์ประธานทรงเครื่องแบบมอญ ทั้งวัดจองกลางและวัดจองคำ เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองแม่ฮ่องสอนมาแต่โบราณกาล

ถนนคนเดินแม่ฮ่องสอน การพักในตัวเมืองแม่ฮ่องสอนมีข้อดีคือในตอนค่ำสามารถไปเดินเที่ยวตลาดถนนคนเดินได้ ตั้งอยู่ที่ถนนฝั่งวัดจองคำ-วัดจองกลาง แบ่งเป็น 2 โซนคือโซนขายอาหารจะอยู่ริมหนองจองคำ และโซนขายสินค้าทั่วไป เปิดให้เดินเที่ยวตั้งแต่ห้าโมงเย็นจนถึงสี่ทุ่ม

108 อำลาเมืองสามหมอก เยือนทุ่งดอกไม้งาม แลถิ่นถ้ำปะการัง

ทางหลวงสาย 108 เริ่มต้นจากอ.เมืองแม่ฮ่องสอนตัดผ่านอ.ขุนยวม อ.แม่ลาน้อย อ.แม่สะเรียง ลาเมืองสามหมอกเข้าสู่เขตเชียงใหม่อีกครั้ง มุ่งหน้าสู่อ.ฮอด จอมทอง และหางดง ทางสายนี้ค่อนข้างยาวไกล มีจุดหมายสำหรับพักค้างแรมอยู่ที่อ.ฮอด หรืออ.จอมทอง

ขุนยวม อยู่ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 67 กม. ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อคือทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ เมื่อเข้าสู่เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ผู้คนมากมายนิยมเดินทางมาชมความงามของท้องทุ่งที่เต็มไปด้วยดอกไม้สีเหลืองอร่ามไปทั่วทั้งภูเขา ระหว่างทางไปยังดอยแม่อูคอยังมีน้ำตกแม่ยวมหลวงและน้ำตกแม่สุรินทร์ให้แวะเที่ยวด้วย

เที่ยววัดในขุนยวม ขุนยวมมีวัดสำคัญ 2 แห่งคือ วัดต่อแพ และวัดม่วยต่อ วัดต่อแพอยู่ห่างจากตลาดขุนยวม 7 กม. ตั้งอยู่ฝั่งขวาของแม่น้ำยวม ซึ่งมีวิหารศิลปะพม่าขนาดใหญ่ที่สร้างได้อย่างวิจิตรงดงาม ไฮไลท์คือผ้าม่านเก่าแก่อายุกว่า 150 ปี ทำด้วยกำมะหยี่ ปักมุกและอัญมณีเล่าเรื่องพุทธประวัติที่น่าชม ส่วนวัดม่วยต่อ เดิมชื่อ “วัดหม่วยต่อ” แปลว่า “พระธาตุ” เป็นวัดเก่าแก่และวัดแรกของอ.ขุนยวม จากเดิมเป็นวัดร้างและได้บูรณะขึ้นใหม่ด้วยศรัทธาจากชาวบ้าน มีการสร้างศาลาการเปรียญที่งดงามตามแบบศิลปะไทยใหญ่ รวมถึงพระธาตุเจดีย์อีก 4 องค์ก็ยังเป็นศิลปะแบบมอญด้วย

อ.แม่ลาน้อย ออกจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนมา 134 กม. ถึงอ.แม่ลาน้อยเลี้ยวซ้ายเข้าสู่เส้นทางไปยังถ้ำแก้วโกมล จากความบังเอิญในการขุดเจาะสำรวจสายแร่จนมาพบกับความงดงามของถ้ำที่เต็มไปด้วยผลึกแคลไซต์ ผนังถ้ำทุกด้านมีผลึกแคลไซต์รูปร่างคล้ายปะการังน้ำแข็งอยู่เต็มไปหมด เมื่อโดนแสงไฟสาดส่องยิ่งมีประกายแวววับ มีห้องโถงต่างๆ ให้เดินเที่ยวตั้งแต่ ห้องพระทัยธาร ห้องวิมานเมฆ ห้องเฉกหิมพานต์ ห้องม่านผาแก้ว และห้องเพริศแพร้วมณีบุปผา ถ้ำนี้เปิดให้เข้าชม 08.30-16.30 น. มีที่จอดรถสำหรับนักท่องเที่ยวแล้วใช้บริการรถสองแถวของวนอุทยานถ้ำแก้วโกมลเข้าไปเที่ยว ติดต่อวนอุทยานถ้ำแก้วโกมล โทร. 053 612 078

นอกจากนี้แม่ลาน้อยยังมีสถานที่น่าสนใจสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสวิถีชีวิตเรียบง่ายภายในศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย ส่วนใครชอบโฮมสเตย์ เที่ยวชมไร่กาแฟและฟาร์มแกะต้องไปที่บ้านห้วยห้อม ออกจากแม่ลาน้อยไปต่อที่อ.แม่สะเรียง

อ.แม่สะเรียง อยู่ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน 164 กม.จุดเด่นของอำเภอนี้คือวัดวาอารามที่อยู่ในตัวอำเภอ โดยมีวัดที่น่าสนใจคือ วัดพะธาตุจอมทอง วัด เด่นที่พระพุทธรูปองค์ใหญ่บนยอดเขา วัดพระธาตุจอมกิตติ มีองค์เจดีย์สีขาวยอดทอง บรรจุพระบรมสารีริกธาตุเก่าแก่ วัดพระธาตุจอมมอญ เป็นที่ตั้งองค์พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ทรงระฆังคว่ำ วัดพระธาตุจอมแจ้ง ที่ประดิษฐานพระธาตุเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองแม่สะเรียง วัดแสนทอง ประดิษฐานพระแสนทอง พระพุทธรูปปางมารวิชัยหล่อด้วยสัมฤทธิ์ศิลปะช่างเชียงแสน และยังมีพระพุทธสิหิงค์ ชาวบ้านเรียก “พระเพชร” หรือ “พระสิงห์หนึ่ง” วัดศรีบุญเรืองและวัดจองสูง เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมศิลปะไทยใหญ่ ออกจากตัวเมืองไปอีกหน่อย มีทุ่งดอกบัวตองดอยแม่เหาะให้แวะเที่ยวชมก่อนกลับด้วย

ฮอด-จอมทอง สองอำเภอของเชียงใหม่

ตามทางหลวงหมายเลข 108 จากแม่สะเรียงสู่อ.ฮอด คือเส้นทางวงรอบกลับเข้าสู่เชียงใหม่อีกครั้ง จุดหมายของการค้างแรมคืนนี้อยู่ที่ออบหลวงหรือดอยอินทนนท์ระหว่างทางจะได้ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ ในเส้นทางสายคลาสสิกเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอนในอดีต

สวนสนบ่อแก้ว คือทิวทุ่งต้นสนของสถานีทดลองปลูกพรรณไม้บ่อแก้ว ตั้งอยู่กม.ที่ 36 ริมทางหลวงสาย 108 เสน่ห์ของที่นี่คือทิวสนที่เรียงรายอย่างเป็นระเบียบ มีภาพสายหมอกขาวฟุ้งกระจายสวยงามในหน้าหนาว และยังมีแสงยามค่ำและยามเช้าพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่งดงาม เป็นจุดพักรถในการเดินทางที่นิยมมาก

ออบหลวง ตั้งอยู่กม.ที่ 17 ห่างจากอ.ฮอดไม่ไกลนัก เป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติออบหลวง มีไฮไลท์อยู่ที่ “ออบหลวง” หรือช่องแคบระหว่างหน้าผาหินสองลูกมาตั้งอยู่ชิดกัน และมีลำธารน้ำไหลผ่าน เหมาะมาชมทิวทัศน์

ดอยอินทนนท์ อยู่ในเขตอ.จอมทอง เป็นยอดดอยสูงที่สุดของประเทศไทย ได้ชื่อว่าเป็นหลังคาของสยาม ที่นี่มีที่พักทั้งบ้านพักและลานกางเต็นท์ นอนที่นี่สักคืน รุ่งเช้าไปชมวิวบนยอดดอยแล้วค่อยเดินทางกลับเชียงใหม่

วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่คู่เมืองจอมทอง โดดเด่นด้วยพระบรมธาตุสีทองอร่าม ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุพระเศียรเบื้องขวา เชื่อกันว่าพระธาตุถูกสร้างในศตวรรษที่ 20 และได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในช่วงการฟื้นฟูเมืองเชียงใหม่ พระธาตุนี้ยังเป็นพระธาตุประจำปีของคนเกิดปีชวดด้วย

เที่ยวครบรอบแล้ว จากอ.จอมทองกลับเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ด้วยทางหลวงหมายเลข 108 เส้นทางนี้หากให้เที่ยวไม่เหนื่อยควรมีเวลาอย่างน้อย 3 วัน 2 คืน แล้วเลือกเที่ยวตามเวลาที่อำนวย 

ส่วนใครอยากไปให้ครบอาจต้องมีเวลามากกว่านี้