ไฮไลท์ลำปาง น้ำตกแจ้ซ้อน วัดพระธาตุลำปางหลวง นั่งรถม้า ดูช้าง
ลำปาง เป็นเมืองเก่าแก่ของภาคเหนือที่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอารามสไตล์ไทยใหญ่ และธรรมชาติอันสวยงาม โดยเฉพาะวัดพระธาตุลำปางหลวง และอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน นับเป็นสองที่เที่ยวสำคัญของเมืองรถม้าแห่งนี้ หนาวนี้เหมาะมากที่จะไปขับรถเที่ยวนครลำปาง
Location
น้ำตกแจ้ซ้อน จากตัวเมืองลำปาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 1035 (ลำปาง-วังเหนือ) จนถึงบริเวณกม.ที่ 58 ปากทางเข้าอ.แจ้ห่ม ให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1287 ผ่านอ.มืองปาน จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 1252 (ข่วงกอม-ปางแฟน) ระยะทาง 11 กม. จากนั้นจะมีทางแยกเข้าไปยังที่ทำการอุทยานฯระยะทางอีก 3 กม.
วัดพระธาตุลำปางหลวง จากตัวเมืองลำปาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ลำปาง-เถิน) ถึงหลักกิโลเมตรที่ 586 เลี้ยวขวาเข้าอำเภอเกาะคา จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1034 ประมาณ 3 กิโลเมตร จะพบวัดพระธาตุลำปางหลวงทางด้านซ้าย
กิ่วฝิ่น จากอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ขับตรงมายังบ้านป่าเหมี้ยง ระยะทางประมาณ 13 กม. และจากบ้านป่าเหมี้ยงถึงดอยล้านที่กิ่วฝิ่น ระยะทางอีก 6 กม.
Day 1
หากออกเดินทางจากกรุงเทพฯ แต่เช้า ช่วงบ่ายๆ เดินทางมาถึงอ.เมือง จ.ลำปาง หลังจากเก็บสัมภาระเข้าห้องพัก สถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกที่คุณควรไปชมคือ วัดพระธาตุลำปางหลวง นับเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง และเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของชาวลำปางตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พระธาตุลำปางหลวงตั้งอยู่บนยอดเขาขนาดย่อม มีแผงผังการจัดวางอาคารได้อย่างลงตัวสวยงาม นับเป็นสถาปัตยกรรมล้านนาฝีมือช่างชั้นครู
มีบันไดนาคนำขึ้นสู่ซุ้มประตูโขง ถัดจากนั้นเข้าไปจะพบวิหารหลวง มีองค์พระธาตุลำปางหลวงสีทองอร่ามตั้งอยู่ตรงกลางเป็นประธาน ภายในเป็นสถานที่ประดิษฐานพระเจ้าล้านทอง พระพุทธรูปตามแบบเชียงแสนผสมสุโขทัย และภาพเขียนสีโบราณบนไม้คอสองให้ชม
หลังจากชมภายในพระธาตุลำปางหลวงแล้ว ไม่ควรพลาดชมความมหัศจรรย์ของเงาพระธาตุกลับหัวภายในพระธาตุจอมปิงด้วย ซึ่งเกิดจากลำแสงที่ผ่านรูเล็กบนหน้าต่างของโบสถ์ และเกิดการหักเหเป็นภาพลงบนผ้าขาว
หากยังมีเวลาเหลือ เดินทางไปเที่ยวชมบ้านเสานัก บ้านไม้ที่สร้างจากไม้สักทั้งหลัง มีเสานับร้อยต้น ภายในแบ่งเป็นห้องต่างๆ จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้โบราณ โดยเฉพาะภาพเก่าของคนในตระกูล ที่บอกเล่าเรื่องราวในอดีตได้เป็นอย่างดี จากนั้นแดดร่มตกใช้บริการรถม้านั่งชมรอบตัวเมืองนครลำปาง เส้นทางส่วนใหญ่จะผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง เช่น วัดศรีชุม วัดป่าฝาง วัดประตูป่อง วัดพระเจ้าทันใจ วัดพระแก้วดอนเต้า อนุสาวรีย์ครูบาเกษม เขมโก และวัดเจดีย์ซาวหลัง
หากคุณมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน เย็นวันนี้เดินทางไปนอนบ้านพักอุทยานฯ เช้าจะได้ตื่นมาชมหมอกสวยๆ ผ่านบ่อน้ำพุร้อน ระยะทางห่างจากตัวเมืองลำปางเพียง 68 กม.เท่านั้น
ส่วนใครที่นอนในเมืองเย็นๆ ก็ไปเดินเที่ยวกาดกองต้าย่านชุมชนเก่าริมแม่น้ำวัง เชิงสะพานรัษฎาภิเษก ซื้อของพื้นเมือง สินค้าที่ระลึก ชิมอาหารท้องถิ่นที่ทำกันสดๆ ใหม่ๆ หน้าหนาวเดินกันสนุกน่าดู หรือแดดร่มลมตกจะนั่งรถม้าชมเมืองลำปางก็น่าสนใจ มีให้เลือกทั้งแบบรอบเล็กและรอบใหญ่
Day 2
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่ผุดจากใต้ดินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของจ.ลำปาง และยังเป็นที่ตั้งของน้ำตกแจ้ซ้อน ทั้งสองแห่งจัดทริปเที่ยวคู่กันได้อย่างดี เพราะตั้งอยู่ภายในที่ทำการอุทยานฯ จากลานจอดรถเข้าที่ทำการอุทยานฯ คุณจะพบบ่อน้ำพุร้อนเป็นอันดับแรก
ลักษณะเป็นบ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่มีทั้งหมด 9 บ่อ บ่อน้ำมีอุณหภูมิประมาณ 73 องศาเซลเซียส นักท่องเที่ยวชอบนำไข่ไก่ และไข่นกกระทามาแช่เป็นไข่ต้มกินกัน หากมาเที่ยวชมในยามเช้าบรรยากาศรอบด้านจะปกคลุมไปด้วยหมอกควันขาว และดูงดงามท่ามกลางอากาศอันเย็นสบาย
จากบ่อน้ำร้อนเดินเข้าไปภายในจะพบ น้ำตกแจ้ซ้อน ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 1 กม. เป็นน้ำตกที่เกิดจากลำน้ำแม่มอญ มีความสูงทั้งหมด 6 ชั้น สามารถเดินเที่ยวชมได้ทุกชั้น เพราะมีเส้นทางเดินอย่างดี ในบางชั้นมีแอ่งน้ำไม่ลึกให้นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้ด้วย และหากยังอยากเที่ยวชมน้ำตกอื่นๆ ในอุทยานฯ ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติไปเที่ยวชม น้ำตกแม่เปียก น้ำตกแม่มอญ และน้ำตกแม่ขุน
เย็นนี้นอนบ้านพักอุทยานฯ อีกวัน ช่วงเวลาที่เหลือพักผ่อนให้เต็มที่ ทางอุทยานฯ มีห้องอาบน้ำแร่ให้นอนแช่น้ำคลายความเหนื่อยล้า
Day 3
หลังรับประทานอาหารเช้า วันนี้หากคุณยังมีเวลาเหลือ จากอุทยานฯ ขับรถไปเที่ยวดอยล้าน หรือกิ่วฝิ่น โดยระหว่างทางก่อนถึงดอยล้านคุณยังสามารถแวะเที่ยวหมู่บ้านป่าเหมี้ยง เพื่อชมทิวทัศน์ไร่ชาอันสวยงาม และหากมาเยือนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ บริเวณบ้านป่าเหมี้ยงยังมีดอกเสี้ยวป่าบานสะพรั่งให้ชมด้วย
จากนั้นขับรถไปเที่ยว ดอยล้าน เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนที่ จซ.7 (ดอยล้าน) ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 19 กม. นับเป็นรอยต่อระหว่างจ.ลำปางกับจ.เชียงใหม่ และเป็นยอดดอยที่มีความสูง 1,528 ม. จากระดับน้ำทะเล จึงมีภูมิอากาศอันเย็นสบายตลอดปี สามารถชมทิวทัศน์ได้ไกลถึง 4 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ และเชียงราย
หากคุณยังมีเวลาเหลืออีกคืน และชื่นชอบการพักแรมแบบแค้มปิ้ง บริเวณกิ่วฝิ่นสามารถกางเต็นท์พักแรมชมิทวทัศน์อันสวยงามได้เป็นอย่างดี
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่มีวันว่างแล้ว หลังชมวิวในช่วงกลางวันเสร็จ เดินทางกลับตัวเมืองลำปาง ขากลับยังสามารถแวะช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์เซรามิกตราไก่สวยๆ เป็นของฝากได้ที่อินทรา เอาท์เลท เซรามิก หรือจะไปเลือกเดินช้อปปิ้งถนนกาดกองต้าก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
จบทริปลำปางแล้วจะไปต่อที่ลำพูนและเชียงใหม่ก็ขับรถขึ้นไปอีกชั่วโมงกว่าก็ถึงแล้ว…
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน
ภายในอุทยานฯ ครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น บ้านพักขนาดเล็ก บ้านพักขนาดกลาง และบ้านพักขนาดใหญ่ ค่ายเยาวชน และบ้านพักหลังใหญ่ ลานกางเต็นท์ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ร้านอาหาร ร้านค้าสวัสดิการ ห้องอาบน้ำแร่ และห้องอาบน้ำแบบตักอาบ แยกชาย-หญิง
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน โทร 054 380 457, 054 380 000