ขับรถเที่ยวกับครอบครัว
ทริปนี้เป็นเส้นทางไปชมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของลพบุรี เป็นทริปขับรถเที่ยวสบายๆ ใช้เวลาเพียง 2 วัน 1 คืนเท่านั้น คุณก็จะได้สัมผัสทั้งความงดงามของพระปรางค์สามยอด พระราชวังนารายณ์ราชนิเวศ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และทุ่งทานตะวันบานสะพรั่ง
Location
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถ.พหลโยธิน) ผ่านจ.ปทุมธานี และสระบุรี ขับผ่านอ.เฉลิมพระเกียรติ์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 21 ไปอ.พัฒนานิคม จากนั้นเลี้ยวขวาตามทางหลวงหมายเลข 3017 ตรงไปจะถึงเขื่อน
จุดชมทุ่งทานตะวัน จากทางหลวงหมายเลข 1 ผ่านอ.พระพุทธบาท ก่อนถึงตัวเมืองลพบุรี เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 3017 จะพบทุ่งทางตะวันอยู่ตามสองข้างทาง
พระราชวังนารายณ์ราชนิเวศน์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ผ่านตัวเมืองลพบุรี จากนั้นใช้ถนนสรศักดิ์ จะพบพระราชวังนารายณ์ราชนิเวศน์
Day 1
ช่วงเช้า ออกจากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถ.พหลโยธิน) ขับรถประมาณชั่วโมงครึ่งถึงตัวเมืองลพบุรี เพื่อไปเที่ยวชม พระปรางค์สามยอด เดินเที่ยวชมความงดงามของโบราณสถานพร้อมกับลิงจ๋อจอมซนกัน การเดินชมควรระวังด้วยเพราะแต่ละตัวมือไวเป็นลิงของจริง
จากนั้นขับรถผ่านถ.นารายณ์มหาราช วนซ้ายไปชม เทวสถานปรางค์แขก และเลี้ยวซ้ายเข้าถ.สรศักดิ์มาชม พระนารายณ์ราชนิเวศน์ นำรถเข้าไปได้ในที่จอดรถด้านใน คุณอาจใช้เวลาเดินเที่ยวชมประมาณ 1-2 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่พระคลังศุภรัตน์ ตึกพระเจ้าเหา ตึกรับรองแขกเมือง ผ่านเข้าสู่พระราชฐานชั้นใน ชมพระที่นั่งสุทธาสวรรค์ พระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท ฯลฯ หลังเที่ยวชมเสร็จ หาร้านอาหารอร่อยกินในตลาดเมืองลพบุรี
ช่วงบ่าย ขับรถเที่ยวชมวัดกันต่อ โดยใช้ถ.สรศักดิ์ไปทางทิศใต้ เลี้ยวขวาตามถ.ประตูชัยจะผ่านวัดกวิศรารามราชวรวิหาร และวัดเชิงท่า หากตรงไปถ.พระรามจะผ่าน วัดเสาธงทอง และศาลลูกศร หากเลี้ยวเข้าถนนบนเมืองจะผ่าน วัดปืน และบ้านหลวงวิชาเยนทร์
หากคุณอยากไปนอนบ้านพักบนเขื่อนป่าสักฯ ให้ขับออกจากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 1 ผ่านวงเวียนสระแก้ว เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 3017 ไปเขื่อนป่าสักฯ ได้เลย หรือหากคุณไม่รีบร้อนคืนนี้จะนอนในตัวเมืองก็ได้
Day 2
ช่วงเช้า ขับรถไปเที่ยวเขื่อนป่าสักฯ หากเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ จะมีทุ่งทานตะวันให้แวะเที่ยว โดยเลี้ยวเข้าเส้นทางเดียวกับฟาร์มเห็ดขจรวิทย์ ตรงไปตามทางลาดยางจนสุดถนน จะเห็นทุ่งดอกไม้สีเหลืองอร่ามบานทั่วไป ด้านหลังคือเขาจีนและเป็นวัดที่ขึ้นไหว้พระ ชมฝูงนกยูงได้ด้วย
จากนั้นขับรถเพียง 20 นาที ถึงเขื่อน มีบริการรถรางนำเที่ยวชมวิวบนสันเขื่อนพร้อมไกด์ หรือจะเดินเที่ยวเองก็ได้ มีแผงขายอาหารปลาหน้าท่าน้ำ หากหิวมีร้านอาหารตามสั่งไก่ย่างส้มตำ รวมถึงร้านสวัสดิการเขื่อนให้บริการ หรือจะขับรถออกไปจากเขื่อนก็มีร้านอาหารริมทางร้านใหญ่หลายร้าน ชอบร้านไหนแวะได้ตามใจ ที่สำคัญต้องไม่พลาดไปชมวิวเส้นทางรถไฟลอยน้ำ ที่ด้านทิศตะวันตกของสันเขื่อน โดยขับรถอ้อมจากหน้าเขื่อนมาทางภัทรประภา รีสอร์ท มองเห็นทางรถไฟทอดยาวเหนือทะเลสาบสวยงาม ช่วงที่สุดสวยที่สุดคือ ช่วงน้ำเต็มเขื่อน ประมาณเดือนสิงหาคม-ตุลาคมของทุกปี
หลังจบเที่ยวเขื่อน หากคุณยังไม่กลับกรุงเทพฯ มีเส้นทางลัดไปเที่ยวอ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 2089 ผ่านอ.วังม่วง อุโมงค์ต้นไม้ เข้าสู่มวกเหล็กโดยใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง หรือจะขับรถไปเที่ยวน้ำตกวังก้านเหลือง และแหล่งโบราณคดีบ้านโป่งมะนาวด้วยก็ได้