เที่ยววัด ชมวิว แอ่วหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว
นักเที่ยวคนไทยเราจะคุ้นเคยคำว่า “วงกลมแม่ฮ่องสอน” กันดี นั่นคือเราสามารถไปเที่ยวแม่ฮ่องสอนได้โดยเริ่มจากเชียงใหม่ไปแม่ฮ่องสอนแล้วกลับเชียงใหม่โดยไม่ต้องย้อนกลับทางเดิม
Location ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ถือว่าเป็นที่ราบที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัด จึงถูกเลือกใช้เป็นที่ตั้งของอำเภอเมือง และวิธีที่จะมาเที่ยวเมืองแม่ฮ่องสอนมี 4 เส้นทางให้คุณเลือกเดินทาง
เส้นทางที่ 1 จากเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 107 ไปอำเภอแม่แตง ถึงแม่มาลัย แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 1095 เข้าสู่อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน จากนั้นเดินทางผ่านอ.ปางมะผ้า ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน รวมระยะทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ ประมาณ 245 กม.
เส้นทางที่ 2 จากเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 ผ่านอ.ฮอด จ.เชียงใหม่ เข้าสู่อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จากนั้นจะผ่านอ.แม่ลาน้อย อ.ขุนยวม และอ.เมืองแม่ฮ่องสอน ไปเชื่อมกับเส้นทางที่ 1 รวมระยะทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ ประมาณ. 349 กม.
เส้นทางที่ 3 เส้นทางสายที่ตัดจากอ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เข้าสู่อ.ขุนยวม (ทุ่งดอกบัวตอง) เลย นั่นคือทางหลวงหมายเลข 1263 เส้นทางสายนี้เหมาะสำหรับใครที่จะไปเที่ยวอ.แม่แจ่ม และดอยอินทนนท์ด้วย รวมระยะทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ ประมาณ 250 กม.
เส้นทางที่ 4 คือ นั่งเครื่องบินมา จากเชียงใหม่ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ก็มาเดินปร๋อในตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้แล้ว
วันแรก ที่มาถึงไม่ว่าคุณจะมาด้วยพาหานะใดก็ตาม เช็คอินน์เข้าที่พักกันก่อน ช่วงฤดูหนาวที่พักมักถูกจับจองเต็ม เพราะเป็นช่วงที่สวยที่สุดของปีก็ว่าได้ ฝรั่งก็มาก คนไทยก็เยอะ ที่พักในตัวเมืองแต่ละแห่งมีขนาดไม่ใหญ่นัก เพราะแต่ละปีจะมีแขกเข้าพักเต็มก็ช่วงฤดูหนาว ซึ่งก็มีเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น
ส่วนวัยรุ่น นักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่มีงบจำกัด แต่อยากเที่ยวได้ทั่วและนานวัน นิมนต์ไปนอนวัด เช่น ที่วัดจองกลาง วัดหัวเวียง ทางวัดจัดศาลาและมีเครื่องนอนเป็นอย่างดี ส่วนค่าที่พักนั้นแล้วแต่จะทำบุญกับวัด วิธีนี้สนุกและประหยัด โดยเหมาสองแถวจากเชียงใหม่มาเที่ยวกัน และนอนวัด ค่ารถหารกันแล้ว บวกค่าอาหาร ตกคนละไม่กี่บาท สองแถวคันหนึ่งนั่งกันไม่เกิน 8 คนกำลังดี
หลังจากพักผ่อนหายเหนื่อยจากการเดินทาง เริ่มไปเที่ยวในเขตตัวเมืองกันก่อน ซึ่งจุดเด่นจะอยู่ที่วัดไทยสไตล์พม่า จุดชมวิว บรรยากาศเมือง ตบท้ายด้วยถนนคนเดิน
วัดจองคำ วัดจองกลาง
Location : ถ.ชำนาญสถิตย์ กลางตัวเมืองแม่ฮ่องสอน
ไม่ว่าคุณจะเดินทางมาจากทางไหน ให้สังเกตสวนสาธารณะหนองจองคำ ที่เป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ วัดทั้งสองอยู่ด้านหลังบึงแห่งนี้
ที่แรกเลยจะต้องไปคือวัดจองคำและวัดจองกลาง วัดเก่าแก่นี้สร้างโดยชาวไทยใหญ่ ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2370 ยุคเดียวกับการสร้างเมืองแม่ฮ่องสอน ไปดูวิหารหลวงพ่อโต สถาปัตยกรรมแบบไทยใหญ่ผสมฝรั่ง ข้างในมีพระประธานคือหลวงพ่อโต จำลองมาจากพระศรีศากยมุนี วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพฯ
วัดจองกลาง ที่อยู่ใกล้กัน ไปดูเจดีย์ประธานทรงเครื่องแบบมอญ เจดีย์ทาสีทอง เวลาต้องแดดสุกใสมาก ส่วนพิพิธภัณฑ์มีตุ๊กตาไม้แกะสลักนำมาจากพม่า เมื่อพ.ศ. 2400 รวม 33 ตัว และยังมีข้าวของอื่นๆ ให้ชมหลายชิ้น
ดอยกองมู
Location : ดอยกองมู
ขับรถขึ้นดอยกองมูได้ที่จากทางแยกขวาของถ.ผดุงม่วยต่อ (ด้านข้างวัดพระนอน) ระยะทางเพียง 1.6 กม.
วัดพระธาตุดอยกองมู อยู่ใจกลางเมือง มีทางรถขึ้นดอยจากทางแยกถนนผดุงม่วยต่อ ดอยไม่สูงแต่เห็นวิวแม่ฮ่องสอนได้กว้างไกล เป็นจุดเด่นที่ใครๆ ก็ไม่พลาด มองเห็นสนามบินได้ชัดเจน ส่วนจุดเด่นตัววัดอยู่ที่พระเจดีย์องค์ใหญ่ สร้างโดยพ่อค้าชาวไทยใหญ่ เมื่อพ.ศ. 2403 เจดีย์องค์เล็กนั้น พญาสิงหนาทราชา ผู้ครองเมืองแม่ฮ่องสอนคนแรกสร้างขึ้นเมื่อพ.ศ. 2417
วัดพระนอน
Location : เชิงดอยกองมู ถ.ผดุงม่วยต่อ
ขับรถลงจากดอยกองมูแล้วแวะเที่ยวต่อได้เลย อยู่ตรงข้ามกับวัดก้ำก่อ
ชมวิวแล้วลงจากดอย จะเห็นวัดพระนอน อยู่ตีนดอยกองมู ไปชมพระพุทธรูปปางไสยาสน์ ศิลปะพม่า มีความยาวองค์พระ 12 ม.บนแท่นสูง 3 ม. สันนิษฐานว่าสร้างสมัยพญาสิงหนาทราชา ยังมีโบสถ์หลังเก่าที่น่าชม สร้างเมื่อพ.ศ. 2469 สถาปัตยกรรมไทยใหญ่ที่งดงาม และยังมีของดีน่าชมอื่นๆ อีกเช่น ในพิพิธภัณฑ์มีพระพุทธรูปปางต่างๆ รูปปั้นสิงห์คู่ด้านหลังวัด เชิงบันไดขึ้นดอยกองมู ฯลฯ
วัดก้ำก่อ
Location : เชิงดอยกองมู ถ.ผดุงม่วยต่อ
เป็นอีกวัดหนึ่งที่อยู่ในย่านนี้เชิงดอยกองมู ตรงข้ามวัดพระนอน เป็นวัดเก่าตั้งแต่โบราณ สร้างตั้งแต่พ.ศ. 2433 จุดเด่นอยู่ที่หลังคาคลุมทางเดินสถาปัตยกรรมไทยใหญ่ เด่นกว่าวัดอื่นๆ หลังคาเล่นระดับลดหลั่นตามความลาดชันของพื้นดิน
วัดหัวเวียง
Location : ใกล้สี่แยกไฟแดงถ.สิงหนาทบำรุง กลางเมืองแม่ฮ่องสอน
ภาษากลางเรียกว่าวัดกลางเมือง อยู่ใกล้สี่แยกถนนสิงหนาทบำรุง ไปชมพระเจ้าพาละแข่ง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย โดยช่างชาวมัณฑะเลย์ พม่า เป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยทองเหลือง เป็นพระคู่บ้านคู่เมือง ส่วนวิหารพระเจ้าพาลาละแข่ง เป็นสถาปัตยกรรมไทยใหญ่ ใช้ไม้ หลังคาเป็นเรือนยอดซ้อนห้าชั้น บนสุดประดับฉัตรซึ่งทำจากโลหะ หลังคามุงกระเบื้องไม้ฉลุลายอย่างงดงาม
ถนนคนเดินหนองจองคำ
Location : บริเวณหนองจองคำ ถนนริมฝั่งด้านหน้าของวัดจองกลางและวัดจองคำ
ช่วงเย็น หลังอิ่มหนำสำราญแล้วไปเดินออกกำลังกายลดพุงกันที่ถนนคนเดิน อยู่กลางเมืองทางไปวัดจองคำ ใกล้บึงน้ำใหญ่ ช้อปปิ้งสินค้าที่ระลึกซึ่งเป็นของจากแม่ฮ่องสอน
ถนนคนเดินที่นี่ไม่เหมือนถนนคนเดินที่อื่นๆ เขาสงวนสิทธิเอาไว้ให้คนเมืองแม่ฮ่องสอนเท่านั้น สินค้าที่ได้จึงรับรองได้ว่าเป็นสินค้าพื้นเมืองจริงๆ ไม่ได้ส่งมาจากกรุงเทพฯ
ช้อปปิ้งกลางลมหนาวจนพอใจแล้ว กลับไปนอนอุ่นใต้ผ้าห่มที่รีสอร์ต รับรองได้ว่าไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศ พรุ่งนี้มีทริปสนุกๆ รออยู่อีกเพียบ
เหตุที่คุณควรเที่ยวแม่ฮ่องสอนอย่างน้อย 2 คืนก็เพราะว่า คืนแรกผ่านไปแล้วหลังเที่ยวตัวเมือง ส่วนวันที่สองออกนอกเมืองไปหน่อย ไปเที่ยวหลายที่ ก่อนที่จะกลับมาพักในตัวเมืองอีกคืนหนึ่ง หรือจะนอนที่นอกเมืองก็ได้ หลายแห่งมีที่พักพร้อมบริการ เช่น บ้านรักไทย ปางอุ๋ง ฯลฯ
ทริปที่พลาดไม่ได้คือไปเที่ยวหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของแม่ฮ่องสอน ทั้งไทย ฝรั่งเป็นไม่พลาด หมู่บ้านกะเหรี่ยงนี้มีอยู่ 3 หมู่บ้านให้เลือก คือบ้านน้ำเพียงดิน บ้านห้วยเสือเฒ่า และบ้านในสอย
บ้านน้ำเพียงดิน
Location : ต.น้ำเพียงดิน อ.มืองแม่ฮ่องสอน
จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 ไปทางอ.ขุนยวม เมื่อผ่านศูนย์ราชการแล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1025 ประมาณ 600 ม. พบสามแยกเลี้ยวซ้ายไปอีก 1.5 กม.แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนรพช.อีก 4 กม. ถึงบ้านห้วยเดื่อ จอดรถแล้วเตรียมลงเรือหางยาวที่นี่ นั่งเรือไปประมาณ 1 ชม. ถึงหมู่บ้านกะเหรี่ยงน้ำเพียงดิน
บ้านน้ำเพียงดิน สนุกตั้งแต่เริ่มเดินทาง เพราะต้องนั่งเรือหางยาวไป ซึ่งเป็นชายแดนไทย-พม่า ยิ่งหน้าหนาวฟ้าสวย น้ำใส สองฟากฝั่งก็สวยงาม แค่นั่งเรืออย่างเดียวก็คุ้มแล้ว ใช้เวลาชั่วโมงเศษ ชาวหมู่บ้านน้ำเพียงดินนี้เป็นกะเหรี่ยงคอยาวกลุ่มแรกที่เข้ามาเมืองไทย ชุมชนของพวกเขาอยู่กันแบบเรียบง่าย ขายของที่ระลึกให้นักท่องเที่ยว วันหนึ่งๆ จะมีผู้คนจากทั่วโลก จะเดินทางมาเยี่ยมพวกเขา แม้จะคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยว จึงไม่น่าแปลกใจที่กะเหรี่ยงคอยาวพูดได้หลายภาษา
ใช้เวลาเดินเที่ยวสัก 2 ชม.กำลังดี จากนั้นเดินทางกลับทางเรือเช่นเดิม จะไปเที่ยวบ้านกะเหรี่ยงต่อ หรือไปที่อื่นก็ยังมีเวลาอีกกว่าครึ่งวัน
บ้านห้วยเสือเฒ่า
Location : บ้านห้วยเสือเฒ่า ต.ผาบ่อง ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนเพียง 12 กม.
จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 ไปทางอ.ขุนยวม เมื่อผ่านศูนย์ราชการแล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1025 ไป 600 ม. พบสามแยกให้เลี้ยวซ้ายไปยังบ้านห้วยเสือเฒ่า
อยู่ใกล้กับตัวเมืองแม่ฮ่องสอนมากที่สุด จึงได้รับความนิยมมากที่สุดเช่นกัน เป็นชุมชนเล็กๆ น่ารัก การสร้างบ้านก็เหมือนที่บ้านน้ำเพียงดิน บ้านยกพื้น หลังคามุงใบตองตึง ขายของที่ระลึกเช่นกัน จุดเด่นอีกอย่างของหมู่บ้านนี้คือมีบริการนั่งช้างด้วย ซึ่งฝรั่งจะนิยมมากกว่าคนไทย
บ้านในสอย
Location : บ้านในสอย ต.ปางหมู ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน 33 กม.
จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ใช้ทางหลวงหมายเลข 1095 ไปทางอ.ปางมะผ้า 2 กม. ถึงกม.ที่ 206 เลี้ยวซ้ายไปตามถนนเลียบแม่น้ำปายอีก 2 กม.เมื่อข้ามสะพานแม่น้ำปายแล้ว ถึงสามแยกเลี้ยวซ้ายไปบ้านในสอยอีก 11 กม.
ทางไปบ้านในสอยจะผ่านบ้านขุนกลาง ได้ชมวิวสวยๆ ในช่วงเลียบแม่น้ำปายจนข้ามสะพานแม่น้ำปาย แม้จะอยู่ไกลหน่อย แต่ได้รับความนิยมไม่น้อย หญิงสาวชาวปาดองเหมือนกันกับที่สองหมู่บ้านแรก ชาวกะเหรี่ยงกลุ่มนี้อพยพมาจากบ้านน้ำเพียงดินนั่นเอง
3 หมู่บ้านกะเหรี่ยงนี้ คุณอาจเลือกไปที่ใดที่หนึ่งก็พอ ตามความสนใจของตัวเอง แต่ถ้าจะไปทั้ง 3 หมู่บ้าน ต้องใช้เวลาทั้งวัน ส่วนใหญ่จะไปใกล้ๆ เพื่อจะมีเวลาเหลือไปเที่ยวที่อื่นต่อ ซึ่งก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวนอกเมือง เช่น น้ำตกผาเสื่อ บ้านรักไทย น่าสนุกทั้งนั้น
หากช่วงเช้าไปเที่ยวบ้านกะเหรี่ยงแห่งเดียว ก็หมายความว่ามีเวลาเหลืออีกแยะ ใกล้เที่ยงแล้วไปกินอาหารจีนยูนนานที่บ้านรักไทย แวะเที่ยวน้ำตกผาเสื่อ
น้ำตกผาเสื่อ
Location : ต.หมอกจำแป่ ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน 25 กม.
จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ใช้ทางหลวงหมายเลข 1095 ไปทางอ.ปางมะผ้า เลี้ยวซ้ายที่ กม. 191 ผ่านบ้านหมอกจำแป่ ต่อด้วยถนนรพช. บ้านหมอกจำแป่-ห้วยขาน ถึงตัวน้ำตก
น้ำตกผาเสื่อ เป็นหนึ่งในสุดยอดน้ำตกสวยของภาคเหนือก็ว่าได้ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ จึงดูไม่น่ากลัว บางช่วงของปีเขามีกิจกรรมไต่หน้าผาลงน้ำตกด้วย แต่ได้ชมวิวอย่างเดียวก็คุ้มค่าแล้ว ร่มรื่นด้วยป่าเบญจพรรณ หากชอบน้ำตก ยังมีอีกแห่งอยู่ท้ายเขื่อนแม่สงา ชื่อน้ำตกแม่สะงา ไปทางเดียวกับน้ำตกผาเสื่อ แยกขวาทางเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำแม่สะงา เดินเท้าสัก 200 ม.
น้ำตกนี้สูง 15 ม.ลำน้ำเดียวกับน้ำตกผาเสื่อ บรรยากาศร่มรื่น คนไม่ค่อยมาเที่ยว เลยดูลึกลับสักหน่อย
จากน้ำตกผาเสื่อ หากคุณขับรถขึ้นเขาไปอีก 5 กม.จะถึงพระตำหนักปางตอง อยู่ทางด้านซ้าย พระตำหนักนี้เป็นที่ตั้งของโครงการพัฒนาที่สูงปางตอง ตามพระราชดำริ อยู่ในระดับความสูง 800 ม. อากาศเย็นสบายตลอดปี สิ่งที่น่าชมคือ เรือนประทับแรม เป็นหมู่เรือนไม้ 6 หลัง สร้างติดหน้าผา เป็นที่ประทับของในหลวงร.9 นอกจากนี้ยังมีสวนพรรณไม้เมืองหนาว เรือนเพาะชำกล้าไม้ พื้นที่เลี้ยงปศุสัตว์ เช่น ม้า แกะ และสัตว์ป่าขนาดเล็กอีกหลายชนิด
บ้านรักไทย
Location : ต.หมอกจำแป ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน 44 กม.
จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ใช้ทางหลวงหมายเลข 1095 ไปทางอ.ปางมะผ้า เลี้ยวซ้ายที่กม. 191 ผ่านบ้านหมอกจำแป่ ต่อด้วยถนนรพช.บ้านหมอกจำแป่-ห้วยขาน ผ่านน้ำตกผาเสื่อ ผ่านพระตำหนักปางตอง เข้าเขตบ้านรักไทย เส้นทางจะไปสุดที่อ่างเก็บน้ำในหมู่บ้าน
มาเที่ยวที่นี่เหมือนได้ไปเที่ยวเมืองจีน บ้านบางหลังใช้ดินสร้าง สีน้ำตาล แต่ละบ้านสไตล์จีนทั้งนั้น ภาษาจีนมีให้เห็นตัวโตๆ ไปทั่วหมู่บ้าน ส่วนใหญ่มาเที่ยวที่นี่จะไปชิมชา และอาหารจีน โดยเฉพาะขาหมูหมั่นโถว อิ่มแล้วไปชมวิวไร่ชาที่กว้างไกล จะซื้อหากลับบ้านก็มีให้เลือกหลายเกรด ตามรสนิยมและกำลังทรัพย์
ปางอุ๋ง
โครงการในพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) ใกล้กับบ้านรักไทย
จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ใช้ทางหลวงหมายเลข 1095 ทางไปอ.ปางมะผ้า 10 กม.เลี้ยวซ้ายไปบ้านรวมไทย ผ่านน้ำตกผาเสื่อ พระตำหนักปางตอง จากนั้นสังเกตุทางแยกซ้าย มีป้ายบอกทางไปบ้านรวมไทย เลี้ยวซ้ายแล้วขับตรงไปต่อจนถึงหมู่บ้านมะเขือส้ม จะมีทางแยกให้เลี้ยวขวา จากนั้นตรงไปไม่ไกลจะถึงบ้านรวมไทย หรือปางอุ๋ง
หมู่บ้านรวมไทย เป็นหมู่บ้านภายในโครงการในพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) ในพระบรมราชินูปถัมภ์ในสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ที่ทำให้ผืนป่าอันเคยเสื่อมโทรมจากการทำไร่เลื่อนลอยมาก่อน พลิกฟื้นกลายมาเป็นป่าต้นน้ำที่อุดมสมบูรณ์ นับเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่บนยอดเขาสูง รอบๆ อ่างเก็บน้ำยังสะพรั่งไปด้วยดอกไม้เมืองหนาวนานาชนิด ริมอ่างเก็บน้ำมีแนวสนปลูกเรียงรายอย่างสวยงาม ยามพระอาทิตย์ขึ้นส่องผิวน้ำที่อบอวลไปด้วยไอหมอกเกิดเป็นความมหัศจรรย์ที่สวยงาม จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่เรียกนักท่องเที่ยวให้ดั้นด้นเดินทางมาค้างคืนกันในเต็นท์ใต้ป่าสนแห่งนี้
ถ้ำปลา
Location : เขตอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-ผาเสื่อ ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน 17 กม.
จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ใช้ทางหลวงหมายเลข 1095 ทางไปอ.ปาย กม.ที่ 192-193 ถึงลานจอดรถ
จุดเด่นอยู่ที่ไปชมฝูงปลาพลวง ที่ปากถ้ำซึ่งมีธารน้ำไหลออกมาจากใต้เขา เป็นวังน้ำกว้าง ปลาตัวโต บรรยากาศคึกคักในฤดูท่องเที่ยว มีร้านค้าเต็มไปหมด
จบไปอีกวัน สำหรับเที่ยวอ.เมืองแม่ฮ่องสอน เย็นนี้ใครจะไปเดินช้อปปิ้งสินค้าที่ระลึกที่ถนนคนเดินอีกรอบก็น่าสนุก พรุ่งนี้เช้าหากใครหมดเวลาก็บินกลับเชียงใหม่ แล้วกลับกรุงเทพฯ หรือใครจะไปเที่ยวทุ่งดอกบัวตองที่ดอยแม่อูคอ อ.ขุนยวม ซึ่งอยู่ห่างออกไปอีก 60 กม.ก็น่าสนุก หรือใครจะเดินทางไปเที่ยวอ.ปายต่อก็ตามอัธยาศัย