เลียบหาดสุดทะเลตะวันออก ตราด

หาดแหลมงอบ ศูนย์กลางการเดินทางสู่หมู่เกาะทะเลตราด

เลียบถนนทางหลวงหมายเลข 318 จนถึงบ้านหาดเล็ก 

ตราด เป็นจังหวัดสุดท้ายของทะเลตะวันออก มีแนวชายหาดทอดยาวต่อเนื่องกันกว่าร้อยกิโลเมตร คุณจึงสนุกสนานได้กับการขับรถเลียบหาดไปเรื่อยๆ ผ่านหาดหลายบรรยากาศ จัดทริปเที่ยวในเมืองต่อเนื่องไปกับการเที่ยวหาดทรายสวยของจตราด ที่จะไปสุดชายแดนไทยที่บ้านหาดเล็ก ติดกับเกาะกงของประเทศกัมพูชา ด่านชายแดนที่ข้ามไปช้อปปิ้งสินค้าราคาย่อมเยาก่อนกลับไทยได้ด้วย โดยจะใช้ทางหลวงหมายเลข 3 ต่อเนื่องไปกับทางหลวงหมายเลข 318 หรือถนนเลียบหาดที่มีชื่อเสียงนั่นเอง  

ใครชอบความสงบเงียบงดงาม มาชายหาดตราดจะชอบใจ

ขับรถเที่ยวตัวเมืองตราด

วันแรก

Location จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 3 จากนั้นเลี้ยวซ้ายตัดเข้าทางหลวงหมายเลข 344 ชลบุรี-บ้านบึง-แกลง เมื่อถึงอ.แกลง จ.ระยอง ให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 3 อีกครั้ง เพื่อเข้าสู่จันทบุรีจนถึงตราด เมื่อเข้าสู่ตัวเมืองตราดใช้ทางหลวงหมายเลข 3 เป็นเส้นทางหลักในการเที่ยวเชื่อมที่เที่ยวในตัวเมืองตราดที่น่าสนใจได้

เกร็ดประวัติศาสตร์

ถนนหนทางในตัวเมืองตราดนั้นมีป้ายบอกทางไปยังที่เที่ยวสำคัญชัดเจน ภายในตัวเมืองตราดนั้นก็มีที่เที่ยวที่น่าสนใจให้แวะชมหลายแห่ง ทั้งวัดที่มีความสำคัญกับชาวเมืองตราด สถานที่ราชการสำคัญที่เป็นสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ ซึ่งคุณจะเข้าใจความเป็นมาของจังหวัดตราดได้เป็นอย่างดี 

จวนเรสิดังห์ กัมปอด

ที่เที่ยวเด่นส่วนใหญ่จะอยู่บนถ.หลักเมือง ที่ไม่ควรพลาดชมก็คือ จวนเรสิดังห์ กัมปอด อยู่ที่ถ.หลักเมือง จากตลาดเทศบาลเมืองตราด เลี้ยวซ้ายไปตามถนนหลักเมือง จากนั้นพยายามหาที่จอดรถไว้แล้วเดินตรงไปจะเห็นจวนเรสิดังห์ กัมปอด อยู่ตรงหัวมุมถนน เป็นอาคารสามชั้นในสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศสสมัยล่าอาณานิคม อดีตเคยใช้เป็นที่พำนักของข้าหลวงฝรั่งเศส ในระหว่างปี พ.ศ. 2453-2464 ต่อมาได้กลายเป็นจวนผู้ว่าราชการจังหวัดตราดเมื่อปี พ.ศ. 2450-2471 แต่ปัจจุบันได้เป็นสำนักงานคุมประพฤติกรมราชทัณฑ์ และได้มีการบูรณะซ่อมแซมให้คงสภาพเดิม สามารถเข้าชมได้ตามเวลาราชการ

Yutthanavy Monument

บนถ.หลักเมืองเยื้องกับฝั่งของ จวนเรสิดังห์ กัมปอด คุณจะพบ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เป็นศาลที่สร้างขึ้นในแบบเก๋งจีน มีเรื่องเล่ากันว่าเมื่อครั้งฝรั่งเศสยึดเมืองตราด ชาวฝรั่งเศสเห็นชาวเมืองตราดพากันไปไหว้เจ้าพ่อหลักเมืองกันอยู่เป็นประจำ จึงคิดจะถอนเสาหลักเมืองทิ้ง โดยสั่งให้คนไปขุด และลองเอาช้างมาดึงเสาหลักเมืองก็ไม่ล้มเพียงแต่เอนไปเล็กน้อย ในเวลาต่อมาชาวเมืองตราดร่วมแรงร่วมใจกันบูรณะให้คงสภาพดีเช่นเดิม โดยในวันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปีจะมีงานฉลองที่เรียกว่า “วันงานพลีเมือง” หรือที่ชาวจีนเรียกว่า “วันเซี่ยกงแซยิด” หมายถึงวันเกิดเจ้าพ่อหลักเมือง จะมีพิธีทำบุญตักบาตรแบบไทย และมีงานประจำปีศาลปุงเถ้าม้าแบบจีน ช่วงก่อน และหลังตรุษจีน 1 เดือน

วัดโยธานิมิต
วัดบุปผาราม

ห่างจากศาลหลักเมืองไปประมาณ 100 ม.จะพบ วัดโยธานิมิต หรือเรียกอีกชื่อว่า วัดโบสถ์ วัดแห่งนี้เป็นสถานที่ทำพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาของบรรดาข้าราชการตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สิ่งที่น่าสนใจคืออุโบสถหลังเก่านั้นมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องพระเวสสันดรชาดก อีกทั้งยังเป็นที่เก็บโบราณวัตถุ เช่นหนังสือใบลาน คัมภีร์เทศน์และรอยพระพุทธบาท และบนถนนหลักเมืองสายเดียวกันที่สุดถนนยังมี วัดไผ่ล้อม เป็นวัดที่มีบทบาทสำคัญที่สุดต่อการศึกษาของจ.ตราด วัดแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นที่พำนักของบิดาการศึกษาจ.ตราด คือท่านเจ้าคุณพระวิมลเมธาจารย์ วรญาณนุรักษ์ สังฆปราโมท ภายในวัดยังมีสวนพุทธธรรม เจดีย์พิพิธภัณฑ์สามท่านเจ้าคุณ และองค์พระเจดีย์ขนาดใหญ่ที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่น

วัดไผ่ล้อม ร่มรื่น ร่มเย็น

จากนั้นให้คุณกลับมาใช้ทางหลวงหมายเลข 3  ที่เที่ยวสุดท้ายนี้จะอยู่นอกตัวเมืองประมาณ 2 กม. จากทางหลวงหมายเลข 3 ตรงข้ามรพ.ตราด เลี้ยวซ้ายเข้าไป 2 กม.ก็จะถึง วัดบุปผาราม มีอีกชื่อเรียกว่า วัดปลายคลอง ตามประวัติสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าประสาททองประมาณ พ.ศ. 2195 สมัยอยุธยาตอนปลาย สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดได้แก่ พิพิธภัณฑ์ศาลา 350 ปี และโบสถ์ที่สร้างด้วยหินอ่อน หลังคาเป็นไม้สัก รอบๆ โบสถ์เป็นฐานหินศิลาแลงไล่ลงไปหลายชั้น และยังมีโบราณสถานอื่น ๆ เช่น หอสวดมนต์ วิหารหอระฆัง และกุฏิเล็กทรงไทย เป็นต้น

พระนอนเก่าแก่ วัดบุปผาราม

เท่านี้ก็เป็นอันครบถ้วนทริปขับรถเที่ยวตัวเมืองตราดแล้ว หาที่พักในตัวเมืองตราดได้ไม่ยาก หรือจะลองขับรถเชื่อมไปตามทางหลวงหมายเลข 318 ถนนเลียบหาดสายนี้ก็มีที่พักสวยมากมายรอบริการคุณ วันรุ่งขึ้นก็จะได้เริ่มทริปขับรถเลียบชายหาดได้ต่อเนื่องเลย 

หาดบานชื่น สวยที่สุดของหาดทั้งหมด

วันที่สอง

ออกนอกเมืองเลียบหาดไปชายแดนไทย-กัมพูชา

หากคุณเลือกค้างแรมกับที่พักในตัวเมืองตราด ตอนเช้าก็เริ่มเที่ยวชายหาดทะเลตราดได้เลย วันนี้จะขับรถออกนอกเมือง ไปตามทางหลวงหมายเลข 318 ถนนเลียบหาดที่ยาวที่สุดในภาคตะวันออก มีความยาวถึง 165 กม. จะผ่านหาดทรายงาม จนกระทั่งไปจรดที่บ้านหาดเล็กติดชายแดนเกาะกงทางฝั่งประเทศกัมพูชา

หาดแหลมสน

ขับรถตามทางหลวงหมายเลข 318 ไปไม่ไกล คุณก็จะพบ 3 ชายหาดดังที่อยู่ใกล้ตัวเมืองตราดมากที่สุด นั่นก็คือ หาดทรายงาม หาดทรายเงิน และ หาดมุกแก้ว ทั้งสามชายหาดนั้นไม่เพียงมีชายหาดที่ขาวสะอาดน่าเล่นน้ำสมชื่อ ยังขึ้นชื่อว่าเป็นถนนเลียบหาดช่วงที่มีวิวสองข้างทางสวยงามมาก บรรยากาศร่มรื่นไปด้วยทิวสนเคียงคู่ไปตลอดแนวชายหาด ที่นี่จึงเหมาะสำหรับการขับรถชมวิวและแวะมาปิกนิกพักผ่อนหย่อนใจ

หาดไม้รูด

ถัดจากหาดมุกแก้ว คุณจะพบแนวชายหาดที่เหมาะกับการทำกิจกรรมริมหาดทรายขาวละเอียด และเล่นน้ำทะเลสวยใสมาก ไล่ไปตั้งแต่ หาดทับทิม หาดราชการุณย์ หาดไม้รูด หาดบานชื่น และ หาดสน หาดสวยเหล่านี้ได้รับการยกย่องว่ามีเม็ดทรายละเอียดที่สุด และยังเป็นชายหาดที่มีประวัติศาสตร์น่าสนใจ ในช่วงปี พ.ศ. 2522 ชายหาดแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของศูนย์อพยพชาวกัมพูชานับแสนคน คุณสามารถแวะเข้าไปเที่ยวชมเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ได้ที่ศูนย์ราชการุณย์ สภากาชาดไทยเขาล้านบริเวณกม.ที่ 48

หาดราชการุณย์

หากคุณตัดสินใจค้างแรมในรีสอร์ตเลียบชายหาดฝั่งตราดอีกสักคืน ยามเย็นคุณยังจะได้เฝ้ารอชมความงามยามพระอาทิตย์อัสดงลาลับขอบฟ้าได้อย่างสวยงามที่บริเวณหน้าของที่พักคุณ

หาดทับทิม

เที่ยวเกาะกง กัมพูชา

เช้าวันรุ่งขึ้น คุณยังมีเวลาเหลือเฟือพอที่จะไปช้อปปิ้งที่เกาะกง ขับรถไปต่อตามทางหลวงหมายเลข 318 ไปจดสุดทางที่บ้านหาดเล็ก จะเป็นด่านชายแดนบ้านหาดเล็ก-เกาะกง บริเวณนี้คุณจะเห็นชาวไทย และชาวกัมพูชามาช้อปปิ้งซื้อสินค้าอุปโภค และบริโภคกันตลอดทั้งวัน นอกจากนี้บ้านหาดเล็กยังเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานนาวิกโยธิน และศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชด้วย 

หากสนใจจะข้ามไปท่องเที่ยวทางฝั่งเกาะกง ประเทศกัมพูชา เพียงคุณมีพาสปอร์ตหนึ่งเล่ม ก็ข้ามไปสัมผัสความงามของชายหาดที่ทอดยาวประมาณ 1 กม.ได้อย่างไม่ยากเย็น นอกจากนี้เกาะกงยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น เกาะกง ซาฟารี เวิล์ด, ตลาดเกาะกง, ท่าเรือเสาธง, อนุสรณ์สถานสงคราม, วัดเขาน้อย, สะพานเสาธง และน้ำตกคะไต

บ้านหาดเล็ก ได้บรรยากาศกัมพูชา