ชุมชนอนุรักษ์ทรัพยากรดีเด่น
จากชุมชนที่เคยได้รับผลกระทบจากการตัดไม้ กลับมาเป็นชุมชนตัวอย่างด้านการอนุรักษ์การันตีด้วยหลายรางวัลจากภาครัฐ และเอกชน เที่ยวป่าท่องธรรมชาติ ศึกษาเกษตรเชิงนิเวศน์ ซึมซับวัฒนธรรมอันดีงาม ตกเย็นเข้าบ้านพักผ่อนในบรรยากาศสุดเป็นกันเอง ที่หมู่บ้านโฮมสเตย์ดีเด่นประจำจังหวัดลำพูน ซึ่งห่างจากตัวจังหวัดเพียง 20 นาทีโดยรถยนต์
Location: ตั้งอยู่บริเวณ หมู่ที่ 6 ต.ทาปลาดุก อ.แม่ทา จ.ลำพูน
จากตัวเมืองลำพูน ใช้ทางหลวงหมายเลข 11 (เชียงใหม่-ลำปาง) เลี้ยวซ้ายก่อนถึงด่านตรวจแม่ทา บริเวณตรงข้ามกับตลาดแม่ทา จากนั้นขับตรงไป 3 กม. ให้สังเกตุป้ายบอกทางเข้าหมู่บ้านที่อยู่ฝั่งขวามือ ทางเข้าสวยงามตลอดฟากฝั่ง เห็นภาพทุ่งนาเขียวขจีในฤดูฝน รวมระยะทาง 22 กม.
บ้านทาป่าเปา ชุมชนเชื้อสายไทลื้อหรือไทยองแห่งนี้ เป็นชุมชนเก่าแก่กว่า 200 ปี มีบรรพบุรุษเป็นชาวสิบสองปันนาซึ่งอพยพย้ายถิ่นมา ขนาดของหมู่บ้านในปัจจุบันก็ไม่ใหญ่ไม่เล็ก ประมาณสองร้อยกว่าหลังคาเรือน ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังมีอาชีพเกษตรกรรม มีวิถีชีวิตในแบบพื้นบ้านสงบเรียบง่าย อีกทั้งยังเป็นแหล่งเรียนรู้ในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และด้านการอนุรักษ์ป่าไม้และธรรมชาติ
แม้ในอดีตจะเคยเป็นพื้นที่ซึ่งมีปัญหาเกี่ยวกับการตัดไม้ทำลายป่ามาก่อน แต่ในระยะเวลาเพียงไม่นานหลังจากรับรู้และเข้าใจถึงผลกระทบที่ตามมาแล้ว ทุกคนต่างตั้งใจที่จะพลิกฟื้นผืนป่าและอนุรักษ์ป่าที่ยังเหลือให้อุดมสมบูรณ์มากที่สุด จนปัจจุบันความตั้งใจนั้นเป็นผล ชาวบ้านได้ป่าผืนใหญ่กลับคืน ความหลากหลายทางชีวภาพก็เพิ่มขึ้น ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะคนในชุมชนรู้จักใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า โดยอาศัยหลักความพอเพียงมาประยุกต์ใช้ และด้วยความโดดเด่นและเข้มแข็งเอาจริงเอาจังในการมุ่งอนุรักษ์ธรรมชาติรอบชุมชน ที่ให้เมืองเล็กๆ แห่งนี้ ได้รับรางวัลจากทั้งภาครัฐและเอกชนมากมาย เช่น รางวัลหมู่บ้านท่องเที่ยวดีเด่นประจำจังหวัด รางวัลโลกสีเขียว รางวัลคนรักป่า ป่ารักชุมชน และรางวัลแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ประจำปี 2551 เป็นต้น
บ้านทาป่าเปา เปิดโฮมสเตย์เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่สนใจเรียนรู้วิถีชีวิต วัฒนธรรม รวมถึงหลักปรัชญาต่างๆ ของชาวบ้านที่ใช้ในการดำรงชีวิตร่วมกับธรรมชาติโดยมีการอาศัยพึ่งพากันและกัน หลังจากริเริ่มโครงการได้เพียงแค่ห้าปี โฮมสเตย์ก็ได้รับรางวัลหมู่บ้านท่องเที่ยวดีเด่นประจำจังหวัดไปครอง จุดเด่นของโฮมสเตย์บ้านทาป่าเปา นอกจากจะได้อยู่กินในแบบชาวบ้าน เรียนรู้การทำเกษตรพอเพียง สัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่น ยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมสนุกที่หลายคนมาแล้วต้องติดใจคือ กิจกรรมเดินป่า โดยต้องพักแรมในป่าหนึ่งคืน เพื่อเฝ้าศึกษาระบบนิเวศน์ ดูสัตว์ ดูนก และทำความรู้จักกับพืชต่างๆ
นอกจากกิจกรรมมากมายที่ทั้งสนุก และยังเสริมสร้างความรู้ให้กับผู้มาเยี่ยมเยือนแล้ว สิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนติดใจหมู่บ้านแห่งนี้ก็คือความโอบอ้อมอารีมีไมตรีจิต ทุกคนอัธยาศัยดีเป็นกันเอง และยังมีจิตใจที่รักในการบริการ พร้อมดูแลผู้มาเยือนด้วยความยินดีที่เป็นอีกหนึ่งเสนห์ของโฮมสเตย์บ้านทาป่าเปา
กิจกรรมท่องเที่ยว…
กิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งเลือกมาเยี่ยมเยือน และอยู่กินกับชาวบ้านทาป่าเปานั้นมีอยู่ด้วยกันหลายกิจกรรม ทั้งเกี่ยวกับการเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น การทำอาหารพื้นเมือง การศึกษาขนบธรรมเนียมประเพณีชาวเหนือ ชมการแสดงดนตรีพื้นบ้าน และชมการแกะสลักไม้เป็นต้น
กิจกรรมอีกส่วนมุ่งเน้นให้นักท่องเที่ยวรักและหวงแหนธรรมชาติ โดยมีการปลูกฝังสิ่งเหล่านี้ลงในทุกๆ กิจกรรมของโฮมสเตย์ เช่น เดินป่าศึกษาธรรมชาติ ชมการสาธิตการเก็บรังผึ้ง การทำนา การทำสวนลำไย และนั่งเกวียนชมสวนเศรษฐกิจพอเพียง เป็นต้น โดยกิจกรรมที่ค่อนข้างได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวในหลายๆ กลุ่มก็คือ กิจกรรมเที่ยวชมศูนย์เรียนรู้ชุมชน และกิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติ
ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน เป็นที่เที่ยวภายในหมู่บ้านซึ่งได้รับความนิยมอันดับต้นๆ ทั้งจากประชาชนทั่วไป และหน่วยงานราชการต่างๆ ที่ต้องการศึกษาดูงาน โดยภายในศูนย์มีการทำแปลงพืชสาธิต การทำปุ๋ยชีวภาพ คล้ายเป็นเกษตรแบบผสมผสาน โดยอาศัยแนวดำริของในหลวง ร.9 มาประยุกต์ปฎิบัติ เกิดเป็นเกษตรแบบพอเพียง เช่น การปลูกพืชแบบธรรมชาติ การไม่ใช้ยาฆ่าแมลงหรือสารเร่งการเจริญเติบโต
ผลพลอยได้ก็คือ ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมใกล้บริเวณหมู่บ้านไม่ถูกทำลาย จากพิษสารเคมี ยากำจัดแมลงและยากำจัดศัตรูพืชต่างๆ ใครมีความสนใจอยากลองลงมือทำด้วยตัวเองก็ได้ แต่ถ้าอยากเดินชมเฉยๆ ก็ไม่มีใครว่า ยิ่งถ้าใครรู้สึกเหนื่อยเกินไป หากต้องเดินกลางแดดชมจุดต่างๆ ทางชุมชนก็มีเกวียนให้นั่งเที่ยวชมรอบบริเวณ
ส่วนอีกหนึ่งกิจกรรมที่ดูแล้วเด่นที่สุดของโฮมสเตย์แห่งนี้ก็คือ กิจกรรมเดินป่า พร้อมค้างคืน กิจกรรมนี้ได้รับความนิยมมากในหมู่วัยรุ่นที่รักการผจญไพร รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวที่นิยมเสพธรรมชาติเป็นพิเศษ โดยในการเดินทางนั้นจะมีมัคคุเทศน์ผู้ชำนาญทาง ซึ่งเคยเป็นพรานป่ามาก่อนคอยเป็นคนนำเที่ยว ผืนป่าที่คุณจะได้สัมผัสนั้น เป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีเนื้อที่กว่าหมื่นไร่ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มีจุดหมายที่จะไปดูนก เฝ้าดูสัตว์ป่า ชื่นชมพันธุ์พืช รวมถึงอยากที่จะเรียนรู้วิธีการดำรงชีวิตในป่า ที่ต้องหุงข้าวโดยกระบอกไม้ไผ่เพื่อยังชีพ ส่วนมากกิจกรรมนี้เหมาะสำหรับคนที่มีเวลามากหน่อย เพราะจะต้องนอนกลางป่าเป็นเวลาหนึ่งคืน
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างเป็นกิจกรรมเกี่ยวกับภูมิปัญญาชาวบ้าน และด้านวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งจะมีการแสดงโชว์ให้กับนักท่องเที่ยวชม เช่น ฟ้อนยาว ตีกลองสะบัดชัย และฟ้อนเจิง ซึ่งเป็นการแสดงเด่นที่หาชมได้ยาก การฟ้อนซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาวเหนือหรือชาวล้านนา และเกือบจะหายไปถ้าไม่ได้หมู่บ้านแห่งนี้ร่วมกันรักษาไว้ โดยการฟ้อนนั้นจะมีลักษณะคล้ายมีการต่อสู้ระหว่างหญิงชาย ไม่มีอุปกรณ์ใดประกอบการฟ้อน ใช้เพียงมือเปล่าสองข้างวาดไปตามจังหวะของกลองสะบัดชัย
หากพอมีเวลาอยากให้ลองแวะซื้อยาสมุนไพร หมูทุบ สาหร่ายโรยงา รวมถึงน้ำตาลสดจากไร่ ซึ่งเป็นสินค้าที่ผลิตเองในชุมชน ติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของฝากของที่ระลึกสักหน่อย
ด้วยความที่ยังเปิดบริการได้ไม่นาน และค่อนข้างเข้มงวดกับบ้านที่ต้องการเข้ามารวมอยู่ในกลุ่มโฮมสเตย์ ทำให้ภายในชุมชนแห่งนี้มีบ้านเพียง 9 หลังเท่านั้นที่ผ่านเกณฑ์ตามมาตรฐานซึ่งชุมชนตั้งไว้
คุณจึงมั่นใจได้เลยว่า บ้านทุกหลังที่เปิดให้คุณเข้าไปร่วมอยู่อาศัยนั้น จะถูกสุขลักษณะ สะอาดสะอ้านปลอดภัยแน่นอน ส่วนบ้านที่มีให้เลือกนอนนั้นจะมีทั้งบ้านปูน และบ้านไม้ เจ้าของบ้านทุกหลังผ่านการอบรมมาอย่างดี อีกทั้งยังมีอุปนิสัยที่เป็นกันเอง เรียบง่าย และมีใจรักงานบริการ ถ้ามีโอกาสอยากให้ลองมาพักกันดู เพราะโฮมสเตย์ที่นี่มีการจัดการที่ดีเยี่ยมจริงๆ แถมห้องน้ำ ห้องนอนยังสะอาดไม่แพ้โรงแรงกลางเมืองเลยทีเดียว
ส่วนอาหารจะเป็นอาหารประจำถิ่น แต่ถ้าใครไม่สะดวกที่จะรับประทาน ทางชาวบ้านก็ยินดีที่จะปรับเปลี่ยนเมนูให้สามารถทานกันได้ทุกคน โดยจะมุ่งเน้นให้นักท่องเที่ยวได้ทดลองทำอาหารพื้นเมืองด้วยตัวเอง เพื่อจะได้เข้าถึงวิถีชีวิตในแบบของชาวไทลื้ออย่างแท้จริง