ข้ามโขงด้วยสะพานมิตรภาพจากมุกดาหาร
สะพานมิตรภาพแห่งที่ 2
มุกดาหาร-สะหวันนะเขต
12 ปีหลังจากสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1 หนองคาย-เวียงจันทน์ เปิดให้พี่น้องชาวไทย-ลาวข้ามโขงไปมาหาสู่กันอย่างสะดวกสบาย บ้านพี่เมืองน้องสองฝั่งโขงก็ได้เชื่อมต่อความสัมพันธ์กันอีกครั้งด้วย สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 โดยในครั้งนี้ได้เลือกเชื่อมโยงเมืองมุกดาหารของไทย และเมืองสะหวันนะเขตของลาวเอาไว้ด้วยกัน แต่ในขณะเดียวกันสะพานแห่งนี้ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเชื่อมต่อไทย-ลาวเท่านั้น เพราะสะพานแห่งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของเชื่อมต่อการเดินทาง และการขนส่งสินค้าระหว่างพม่า ไทย ลาว และเวียดนามเอาไว้ด้วย
สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 ตั้งอยู่ที่บ้านสงเปือย ต.บางไทรใหญ่ ห่างจากตัวจังหวัดไปทางทิศเหนือ 7 กม. โดยข้ามแม่น้ำโขงไปลงที่ บ้านนาแก เมืองคันทะบูลี ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองสะหวันนะเขตไปทางทิศเหนือประมาณ 5 กม. ใช้งบในการก่อสร้างประมาณ 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยใช้เงินทุนก่อสร้างจากการกู้ยืมเงินดอกเบี้ยต่ำจากรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งจัดสรรแบ่งให้กับรัฐบาลลาว 4,011 ล้านเยน และให้กับทางรัฐบาลไทย 4,079 ล้านเยน รูปแบบสะพานเป็นสะพานคอนกรีต 2 ช่องจราจร กว้าง 8 ม.และยาวประมาณ 2,702 ม. เมื่อสร้างเสร็จได้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2549
ความสำคัญของสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 ไม่ได้มีเพียงเพิ่มช่องทางการคมนาคมของชาวไทย-ลาวเท่านั้น สะพานแห่งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขงของธนาคารการพัฒนาแห่งเอเซีย ซึ่งต้องการเชื่อมโยงการขนส่งตั้งแต่เมืองมะละแหม่งของพม่า ผ่านมายังอำเภอแม่สอด-มุกดาหาร ของประเทศไทย และข้ามโขงมายังแขวงสะหวันนะเขตของลาว จากนั้นไปสิ้นสุดตะวันออกที่เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม สะพานมิตรภาพแห่งนี้จึงมีความสำคัญต่อการขนส่งในระดับอาเซียนเลยทีเดียว
มุกดาหาร-สะหวันนะเขต
Location: บ้านสงเปือย ต.บางไทรใหญ่ อ.เมืองมุกดาหาร
จากตัวเมืองมุกดาหาร ใช้ทางหลวงหมายเลข 212 มุกดาหาร-หว้านใหญ่ เป็นเส้นทางเลียบแม่น้ำโขงระยะทางประมาณ 7 กม. จะพบสะพานตั้งอยู่ทางด้านขวา
เที่ยวฝั่งลาว ณ สะหวันนะเขต
แขวงสะหวันนะเขต เป็นเมืองริมแม่น้ำโขงที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของลาว ห่างจากเมืองท่าแขก แขวงคำม่วนประมาณ 80 กม. หากมองในแผนที่ของประเทศลาวก็จะพบว่าเป็นแขวงที่อยู่ใจกลางของลาวตอนใต้พอดี ด้วยพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของลาว จึงไม่แปลกที่ภายในแขวงนี้จะมีประชากรอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งหากคุณมาเที่ยวจังหวัดมุกดาหาร และอยากข้ามไปเที่ยวชมเมืองสะหวันนะเขตแห่งนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะคุณสามารถเดินทางข้ามไปเที่ยวชมได้ทั้งจากสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 และจากการนั่งเรือข้ามฟาก สำหรับที่เที่ยวส่วนใหญ่ตั้งอยู่ภายในตัวเมือง ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอาราม พิพิธภัณฑ์ ตลาด และพระธาตุ ใช้เวลาเที่ยวชมช้อปปิ้งเพียง 1 วันก็ครบแล้ว
ตลาดสิงค์โปร์
Location: ถนนศรีสว่างวงศ์ ตรงข้ามสถานีวิทยุกระจายเสียงสะหวันนะเขต
ตลาดสิงค์โปร์ เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นหลังจากประเทศสิงค์โปร์ให้เงินช่วยเหลือในการก่อสร้างแทนตลาดเก่า แต่สำหรับชาวลาวจะเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ตลาดใหญ่ เพราะตลาดแห่งนี้นับเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของแขวงสะหวันนะเขต ภายในอาคารมีสินค้าให้เลือกช้อปปิ้งกันอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ สินค้าส่วนใหญ่จะนำเข้ามาจากทางด้านเวียดนาม และจีน ตลาดสิงค์โปร์แห่งนี้จึงเป็นแหล่งการค้าที่สำคัญของลาวตอนใต้ ตลอดวันจึงคึกคักไปด้วยพ่อค้าแม่ค้า และนักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศ
วัดชัยภูมิมาราม
Location: ห่างจากด่านศุลกากรสะหวันนะเขตทางทิศเหนือประมาณ 500 ม.
หรือในชื่อ วัดใหญ่ นับเป็นวัดหนึ่งที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดของแขวงสะหวันนะเขต วัดสร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2439 จุดเด่นอยู่ที่ผนังด้านนอกพระอุโบสถ์ที่เป็นภาพปูนปั้นนูนต่ำรูปสัตว์ต่างๆ ส่วนภายในพื้นปูด้วยกระเบื้องแบบฝรั่งเศส และประตูวัดหันหน้ามาทางทิศใต้ตามแบบสถาปัตยกรรมในพุทธศาสนานิกายเถรวาท นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศสให้ชมอีกมาก รวมถึงจะเดินไปเที่ยวชมวิวแม่น้ำโขงก็ได้มองเห็นเมืองมุกดาหารสวยงามไปอีกแบบ
โบสถ์เซนต์เทเรซ่า
Location: ถนนสีเมือง
โบสถ์แห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมศิลปะแบบฝรั่งเศส โดดเด่นด้วยตึกทรงกลมคล้ายกับหอคอย ส่วนพื้นในโบสถ์ปูด้วยกระเบื้อง และกระจกแบบฝรั่งเศสเช่นกัน โดยมีรูปปั้นพระแม่มารีขนาดเล็กตั้งอยู่ด้านใน โบสถ์เซนต์เทเรซ่านับเป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวทางใจของชาวเวียดนามในลาวที่นับถือศาสนาคริสต์
พิพิธภัณฑ์แขวงสะหวันนะเขต
Location: ห่างจากด่านศุลกากรสะหวันนะเขตประมาณ 3 กม.ใกล้กับโรงพยาบาลประจำแขวง
หากคุณสนใจในเรื่องของประวัติศาสตร์ของเมืองที่มาเที่ยวชม มาเยือนแขวงสะหวันนะเขตคุณสามารถมาเรียนรู้ได้ที่นี่ พิพิธภัณฑ์แขวงสะหวันนะเขต ตัวอาคารโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศส ส่วนภายในจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับวีรชนลาวที่ร่วมกันต่อสู่ขับไล่ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และอเมริกาในสมัยสงครามปลดปล่อย และสงครามอินโดจีน
ภายในอาคารได้มีภาพ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ถูกค้นพบในสมัยนั้นให้ชมควบคู่กัน นอกจากนี้บริเวณภายนอกอาคารยังมีซากปืนใหญ่โบราณ 4 อัน และซากเครื่องบินรบลำเล็ก 1 ลำที่เคยใช้ต่อสู่ในสมัยสงครามให้ชมด้วย พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมทุกวันจันทร์-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 08.00-12.00 น. และ 14.00-16.00 น.
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์
Location: ห่างจากวัดชัยภูมิมารามประมาณ 500 ม.
ภายในเป็นสถานที่จัดเก็บกระดูกไดโนเสาร์ที่นักโบราณคดีลาว และนักโบราณคดีชาวฝรั่งเศสร่วมมือกันขุดค้นพบในแขวงสะหวันนะเขต โดยแบ่งเป็นกระดูก และรอยเท้าไดโนเสาร์ 2 ประเภท 4 สายพันธุ์ คือประเภทกินเนื้อ 1 สายพันธุ์ และประเภทกินพืช 3 สายพันธุ์ ส่วนชิ้นกระดูกไดโนเสาร์ที่สมบูรณ์ที่สุดคือ ส่วนหางของไดโนเสาร์พันธุ์ Saltasaurus ซึ่งค้นพบสมบูรณ์ครบทั้งหาง นอกจากนี้ภายในอาคารก็ยังมีกระดูกไดโนเสาร์สายพันธุ์อื่นๆ ให้ชมในตู้อีกกว่า 10 ตู้ พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 08.00-12.00 และ 13.00-16.00 น.
ชมโขงจากฝั่งลาว
Location: ถนนเลียบแม่น้ำโขง
เมืองสะหวันนะเขต เป็นเมืองอีกแห่งของลาวตอนใต้ที่มีอาณาเขตทางฝั่งตะวันตกขนานไปกับแม่น้ำโขง ตลอดถนนเลียบโขงในเมืองสะหวันนะเขตจึงเป็นแหล่งที่มีโรงแรม ที่พัก และร้านค้ามาตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก ในช่วงเย็นเมื่อแดดร่มอากาศเย็นสบายถนนเลียบโขงแห่งนี้จึงมีทั้งคนลาว แลนักท่องเที่ยวมานั่งพักผ่อนชมวิวกันเป็นประจำ ซึ่งมองกลับไปฝั่งตรงข้ามก็จะพบกับวิวเมืองมุกดาหารของไทยเรานั่นเอง
พระธาตุอิงฮัง
Location: บ้านโพนสิม ห่างจากตัวเมืองสะหวันนะเขตตามทางหลวงหมายเลข 13 ประมาณ 13 กม.
พระธาตุอิงฮัง นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดังของแขวงสะหวันนะเขต แม้จะไกลจากตัวเมืองเล็กน้อย แต่ก็คุ้มค่าแก่การมาสักการะสักครั้ง เพราะพระธาตุอิงฮังแห่งนี้นับเป็นพระธาตุคู่แฝดของพระธาตุพนมของไทย องค์พระธาตุมีความสูงประมาณ 25 ม.ตัวประตูทั้งสี่ด้านมีภาพสลักแนวกามาวิจิตรของฮินดูเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ภายในประดิษฐานพระบรมสาริกธาตุ ส่วนฐานเบื้องล่างองค์พระธาตุเจาะเป็นช่องประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ และในบริเวณรอบกำแพงทั้งสี่ทิศมีพระปางประดิษฐานถึง 160 องค์ โดยพระธาตุอิงฮังจะมีงานประจำปีแห่เทียน และฟ้อนรำถวายองค์พระธาตุในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี
ดีทั้งคู่
อำเภอเมืองมุกดาหาร นับเป็นศูนย์กลางของที่พัก และร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็น โรงแรมหรู โรงแรมราคาย่อมเยา และเกสต์เฮ้าส์ ในตัวเมืองมีให้เลือกพักกันมากมาย ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใกล้ตลาดอินโดจีน และถนนเลียบแม่น้ำโขง ยามเย็นจึงออกมาเดินเล่นช้อปปิ้ง และรับประทานอาหารได้อย่างสะดวกสบาย สำหรับอำเภออื่นๆ มีเพียงโรงแรมขนาดเล็กๆ ให้บริการเท่านั้น แต่หากคุณมีจุดหมายอยู่ที่การไปท่องธรรมชาติในอุทยานฯ ภายในที่ทำการอุทยานฯ มีบ้านพัก และเต็นท์ให้บริการ
สำหรับที่พัก และร้านอาหารภายในเมืองสะหวันนะเขตของฝั่งลาว แน่นอนว่าโรงแรม และร้านอาหารส่วนใหญ่ก็ตั้งอยู่ริมโขงเช่นกัน โรงแรมบางแห่งยังคงอาคารสไตล์ฝรั่งเศสไว้ได้อย่างสวยงาม ภายในห้องก็สะดวกสบายไม่แพ้ฝั่งไทย แต่หากชอบประหยัดถัดเข้าไปภายในเมืองหน่อยก็จะมีที่พักดีๆ ราคาประหยัดให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือก แต่ในช่วงเย็นไม่ควรพลาดมานั่งรับประทานอาหารริมแม่น้ำโขง เพราะมีร้านให้เลือกมากมายทั้งอาหารลาว ไทย เวียดนาม แถมยังได้ชมวิวพระอาทิตย์ตกไปทางฝั่งมุกดาหารของไทยด้วย