คอคอดกระ น้ำตก บ่อน้ำร้อน ป่าชายเลน แหลมสน
จังหวัดที่ฝนตกหนักมากที่สุดในประเทศไทยคือ ระนอง ฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ถึงเดือนธันวาคม และช่วงที่ปลอดฝนมีเพียง 4 เดือนเท่านั้น คือเดือนมกราคม ถึงเดือนเมษายน ณ ช่วงเวลาแดดสี่เช่นนี้ จึงควรรีบไปเที่ยวระนอง
ระนอง ห่างจากกรุงเทพฯ568 กม. แม้ระยะทางจะไกลเสียหน่อยแต่หากชื่นชอบการขับรถท่องธรรมชาติ ตลอดสองข้างทาง บนทางหลวงหมายเลข 4 ที่ทอดยาวผ่านจ.ระนองนั้น มีที่เที่ยวน่าสนใจให้แวะเที่ยวชมกันมากมาย เลือกพักในตัวเมืองระนองที่มีรีสอร์ตสวยบรรยากาศสบายให้เลือกพักหลายแห่ง ใช้เวลาเที่ยวชมเพียง 2 วัน 1 คืนกำลังดี
Location จากกรุงเทพฯ มีเส้นทางไปจังหวัดระนอง 2 เส้นทาง
1 ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ไปทางจ.นครปฐม ผ่านจังหวัดราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร จากนั้นมุ่งหน้าเข้าสู่จ.ระนอง ทางอ.กระบุรี
2ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนธนบุรี-ปากท่อ) ผ่านจ.สมุทรสาคร สมุทรสงคราม จากนั้นเข้าสู่ถนนทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ที่จ.เพชรบุรี ผ่านประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และเข้าสู่จ.ระนอง รวมระยะทาง 568 กม.
ทำไมฝนตั้ง 8 เดือน ??
เพราะระนองได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ จากมหาสมุทรอินเดียในช่วงเดือนพฤษภาคม-เดือนตุลาคม และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจากอ่าวไทยในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนเมษายน ทำให้พื้นที่ในจ.ระนองมีฝนตกมากที่สุดถึงปีละ 8 เดือน ระนองจึงได้ชื่อว่าเป็น เมืองแห่งฝนแปดแดดสี่
ระนอง นับเป็นจังหวัดแรกทางฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทย หากมองดูในแผนที่จะพบว่าภูมิประเทศมีลักษณะเรียวยาว และแคบจากเหนือสู่ใต้ ชายฝั่งตะวันตกจะขนานไปกับทะเลอันดามัน ส่วนทางฝั่งตะวันออกมีพื้นที่ติดกับจ.ชุมพร และจ.สุราษฏร์ธานีของฝั่งทะเลอ่าวไทย สำหรับสภาพภูมิประเทศของระนองส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อน คิดเป็นร้อยละ 86 ของเนื้อที่จังหวัด และมีเกาะแก่งน้อยใหญ่ในทะเลอีกประมาณ 62 เกาะ รวมมีพื้นที่ในเขตปกครองประมาณ 3,298.045 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 2,061,281 ไร่ มากเป็นอันดับ 60 ของประเทศ
ระนองในอดีต
ในอดีตระนองได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ เพราะเป็นเมืองที่อุดมไปด้วยป่าไม้ และสินแร่เป็นจำนวนมาก ระนองจึงเป็นจังหวัดที่มีเหมืองแร่เกิดขึ้นมากมาย จนได้ชื่อว่าเมืองแร่นองเลยทีเดียว ซึ่งสินแร่ที่มีคุณค่า และสร้างรายได้มากที่สุดนั่นก็คือ ตะกั่วดำหรือดีบุก นับเป็นสินแร่ที่สร้างรายได้ให้กับเมืองระนอง และประเทศไทยอย่างมหาศาล จนกระทั่งต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 ระนองยังเป็นเมืองแรกที่มีนายเหมืองเป็นนายภาษีอากร และเป็นเจ้าเมืองรวมอำนาจการปกครอง จนเกิดเป็นระบบการปกครองใน ระบบเหมาเมือง ขึ้นมาด้วย
เมืองแห่งกาหยูทะเล
อาชีพที่สร้างรายได้ให้แก่ชาวระนองไมได้มีแต่เพียงด้านการท่องเที่ยว ประมง สวนยางพารา และสวนมะพร้าวเท่านั้น ระนองยังมีพืชเศรษฐกิจที่สำคัญอีกอย่างก็คือ สวนกาหยู หรือ สวนมะม่วงหิมพานต์ นั่นเอง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ของระนองขึ้นชื่อว่ามีเนื้อหวาน หอม กรอบ หากนำมาคั่วไฟ กินได้อย่างเอร็ดอร่อย โดยเฉพาะพันธุ์ที่ปลูกบนเกาะพยามอันเป็นแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญนับเป็นพันธุ์ที่มีรสชาติอร่อยที่สุด กาหยูของระนองจึงเป็นกาหยูทะเลที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนที่ไหน ใครมาเยือนระนองก็สามารถนำไปเป็นของฝากขึ้นชื่อจากระนองได้เป็นอย่างดี
เมืองแห่งขุนเขา และท้องทะเล
ภูมิประเทศของระนองอุดมสมบูรณ์ไปด้วยขุนเขา และท้องทะเล ระนองจึงเป็นเมืองเด่นที่เที่ยวได้ทั้งภูเขา น้ำตก และเที่ยวหมู่เกาะอันงดงาม สำหรับคนรักการท่องไพรจะรู้กันดีว่าเทือกเขาในระนองนั้นมีเส้นทางเดินป่าน่าสนใจอยู่หลายแห่ง เช่น เส้นทางตามหาต้นน้ำน้ำตกหงาว เส้นทางตามรอยสินแร่เขาเหมืองโชน เส้นทางพิชิตยอดเขาพ่อตาโชงโดงดูดอกบัวผุด และเส้นทางเขาพระหมีตามหาน้ำตกพันเมตร แต่ละเส้นทางจะมีความยากง่ายแตกต่างกัน ขุนเขาเมืองระนองจึงน่ามาเที่ยวไม่แพ้ทะเล
สำหรับคนรักทะเล ระนองมีทั้งหาดทรายบรรยากาศเงียบสงบเลียบชายฝั่ง และหมู่เกาะงามให้ไปเที่ยวกันหลายแห่ง หากคุณชอบขับรถเที่ยวหาดบนฝั่ง ภายในอุทยานแห่งชาติแหลมสนมีชายหาดให้ไปชมวิวเล่นน้ำหลายแห่ง เช่น หาดบางเบน หาดแหลมสน หาดประพาส และหาดอ่าวเคย ทั้งหมดเป็นชายหาดทอดยาวติดต่อกัน ขับรถเที่ยวชมได้ในวันเดียว นอกจากนี้ยังนั่งเรือไปเที่ยวหมู่เกาะกำที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงได้ด้วย ส่วนคนรักการเที่ยวเกาะสวยของทะเลอันดามัน ระนองยังมีหมู่เกาะอันงดงามให้ไปเที่ยวชมอีกหลายแห่งในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะพยาม มีเกาะพยาม และเกาะช้าง เป็นที่เที่ยวยอดนิยม หรือหากยังไม่หนำใจจะข้ามไปเที่ยวเกาะสนของฝั่งประเทศพม่าก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
Day 1
เที่ยวระนองตอนบน (เหนือ)
ภูมิประเทศของระนองมีความเรียวยาว และมีอ.เมืองตั้งอยู่ใจกลาง จุดเริ่มต้นของการขับรถท่องเที่ยวระนองจึงเริ่มต้นได้จากอ.กระบุรี ซึ่งเป็นอำเภอแรกของจ.ระนอง จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ขับลัดเลาะเที่ยวชมที่เที่ยวต่างๆ จนกระทั่งมาถึงตัวเมืองระนอง คุณก็จะเที่ยวระนองตอนบนโดยไม่ต้องขับรถย้อนกลับไปอีกครั้ง จากนั้นหลังพักในตัวเมืองระนองกันหนึ่งคืน วันที่สองก็ขับรถลงใต้ไปเที่ยวระนองตอนล่างกันต่อได้เลย
เมื่อขับรถเข้าสู่เขตอ.กระบุรี กม.ที่ 545 คุณจะพบที่เที่ยวแห่งแรกคือ คอคอดกระ อยู่ริมทางหลวงหมายเลข 4 ในเขตต.ละมุ คอคอดกระ เป็นส่วนที่แคบที่สุดของแหลมมลายูกว้างเพียง 44 กม. กินพื้นที่เขตอ.กระบุรี จ.ระนอง และอ.สวี จ.ชุมพร ในอดีตสมัยรัชกาลที่ 4 ฝรั่งเศสต้องการขุดลอกคลองคอคอดกระเพื่อย่นระยะทางในการเดินทางจากทะเลอันดามัน ข้ามมายังอ่าวไทย แต่ต้องยกเลิกไปเพราะขัดแย้งผลประโยชน์กับอังกฤษเสียก่อน คอคอดกระ มาชมวิวแม่น้ำกระบุรี และทิวทัศน์ฝั่งพม่าได้อย่างสวยงาม และไมไกลจากคอคอดกระยังใกล้หมู่บ้านซาลาเปาทับหลีด้วย เหมาะสำหรับแวะไปซื้อมาชิมติดรถระหว่างเดินทางกัน
จากนั้นไมไกลบริเวณกม.ที่ 545 ตรงข้ามโรงเรียนบ้านจปร. คุณจะพบ อนุสาวรีย์ศิลาสลักพระปรมาภิไธย นับเป็นอนุสรณ์สำคัญของจ.ระนองที่บอกเล่าเรื่องราวของพระมหากษัตริย์ไทย และเป็นที่ตั้งของหินสลักพระปรมาภิไธยย่อ จปร. ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ครั้งเสด็จประพาสที่พลับพลา ดอนวังทู้ ต.ปากจั่น เพื่อไประนองเมื่อปีพ.ศ. 2433 รวมถึงพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. สก. และ สธ. ของพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ถัดจากนั้นขับรถลงใต้มาอีกไม่ไกล บริเวณตีนเขาแหลมเนียง ต.ลำเลียง บริเวณนี้มีถ้ำพระขยางค์ให้เข้าไปเที่ยวชม จากทางหลวงหมายเลข 4 เลี้ยวขวาซอยโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 9 และขับต่อไปอีก 1 กม.จะพบ ถ้ำพระขยางค์ ภายในเป็นถ้ำมีไฟฟ้าประดับ และทางเดินให้เที่ยวชมหินงอกหินย้อยอันสวยงาม และภาพเขียนสีของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์
ส่วนใครไม่ชอบเที่ยวถ้ำจะขับรถเลยไปเที่ยวชม น้ำตกบกกราย แทนก็ได้ถึงบริเวณกม.ที่ 557 เลี้ยวซ้ายเข้าไปอีก 13 กม. ถึงสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งระยะ-นาสัก จากนั้นเดินเท้าเข้าไปชม น้ำตกบกกราย สูง 11 ชั้น ต้องอาศัยการเดินป่าศึกษาธรรมชาติพร้อมกับเจ้าหน้าที่นำทาง เพราะแต่ละชั้นตั้งห่างกันพอสมควร หากไม่ชอบเดินไกลจะเที่ยวชมเพียงแค่ชั้นแรกก็ได้
สำหรับคนชอบชมวิวสวย ให้ขับรถลงมาอีกหน่อย ถึงกม.ที่ 580 เลี้ยวขวาไปตามป้ายศูนย์โทรคมนาคมเขาฝาชี 3 กม.คุณจะพบ เขาฝาชี เป็นยอดเขาสูงจากระดับน้ำทะเล 259 ม. มีลักษณะคล้ายฝาชีคว่ำจากจุดนี้ชมวิวแม่น้ำกระบุรีไหลมาบรรจบกับลำน้ำละอุ่น รวมถึงทัศนียภาพเกาะต่างๆ ของไทย และเกาะฝั่งพม่าได้อย่างสวยงาม หากคุณชอบชมวิวพระอาทิตย์ตกสวยๆ บริเวณเขาฝาชีนับเป็นจุดที่ชมได้อย่างสวยงามที่สุดอีกแห่งหนึ่งของระนอง
หากคุณไม่มีเวลามากพอมารอชมถึงช่วงเย็น หลังเก็บภาพประทับใจเรียบร้อยแล้ว ขับรถกลับสู่ทางหลวงหมายเลข 4 กันต่อ จนกระทั่งถึงกม.ที่ 583 จะพบป้ายบอกทางไป สุสานรถไฟโบราณ ทางด้านซ้าย ภายในคุณจะได้ชมรถไฟโบราณสายคอคอดกระที่ทหารญี่ปุ่นเคยใช้ขนอาวุธยุทโธปกรณ์ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และหลุมหลบภัยที่ขุดเข้าไปในเนินเขาประมาณ 20 ม.
จากนั้นกลับสู่ทางหลวงหมายเลข 4 ก่อนถึงตัวเมืองระนองเพียง 15 กม. คุณจะพบ น้ำตกปุญญบาล ทางด้านซ้าย เป็นน้ำตกสูง 3 ชั้น เดินเที่ยวชมได้ทุกชั้นเพราะระยะทางถึงชั้น 3 เพียง 300 เมตรเท่านั้น ด้านหน้าน้ำตกมีร้านอาหาร และห้องน้ำให้บริการด้วย
จากนั้นกลับตัวเมืองระนองก็คงจะเป็นช่วงเวลาบ่ายแก่ๆ หลังจากเก็บสัมภาระเข้าห้องพักในรีสอร์ตกันแล้ว ช่วงเวลาที่เหลือหากยังพอมีเวลา ภายในอ.เมืองระนองยังมีทริปเที่ยวสุขภาพให้คุณได้ไปสัมผัสกันด้วย สถานที่แรกก็คือ บ่อน้ำพุร้อนรักษะวาริน ห่างจากตัวเมืองระนอง 2 กม. เป็นจุดที่มีบ่อน้ำแร่ธรรมชาติให้บริการนักท่องเที่ยวจำนวน 3 บ่อ มีให้เลือกทั้งห้องอาบน้ำแร่ และแช่เท้า ขับรถมาเหนื่อยๆ หากได้มาแช่น้ำแร่ที่นี่น่าจะช่วยผ่อนคลายร่างกายได้มากเลยทีเดียว หรือจะไปเลือกใช้บริการของ เจ้าเรือน สปา ก็ได้ที่นี่คุณจะได้แช่น้ำแร่ธรรมชาติ และผ่อนคลายไปกับนวดแผนไทยตามหลักสูตรเฉพาะของโรงพยาบาลระนองเลยทีเดียว
Day 2
เที่ยวระนองตอนล่าง (ใต้)
วันนี้ขับรถเที่ยวในตัวเมืองระนอง และขับรถลงใต้ไปที่เที่ยวเด่นๆ ทางใต้กันต่อ หลังอาหารเช้าเริ่มต้นจากที่เที่ยวเด่นในอ.เมือง ได้แก่ พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) จากศาลหลักเมืองระนอง ขับรถไป 200 ม. และเลี้ยวซ้ายเข้าถนนกำลังทรัพย์ ตรงไปอีก 600 ม.จะพบพระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) ทางด้านขวา พระราชวังนี้สร้างด้วยไม้สัก และไม้ตะเคียนทอง แบ่งเป็นอาคารต่างๆ อาคารทรงแปดเหลี่ยม อาคารท้องพระโรง และสะพานไม้เชื่อมอาคารที่ประทับทรงงาน ส่วนภายในจัดแสดงห้องบรรทมของรัชกาลที่ 6 ภาพเก่าของเมืองระนอง และข้าวของเครื่องใช้สำคัญในสมัยรัชกาลที่ 5
จากนั้นขับรถไปเที่ยว จวนเจ้าเมืองระนอง กันต่อ ใช้ถ.เรืองราษฏร์ ถึงแยกเปลี่ยนไปใช้ถ.กิจผดุง ไมไกลจะพบจวนเจ้าเมืองทางซ้าย จวนแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พักแก่เจ้าเมืองระนองคนแรก คือ พระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี หรือ คอซู้เจียง ภายในคุณจะพบจวนเก่าที่สร้างด้วยดิน และกำแพงขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่เก็บของมงคลต่างๆ ของตระกูล ณ ระนอง และเมื่อมาชมที่นี่คุณก็ต้องไม่พลาดไปเที่ยวชม สุสานเจ้าเมืองระนอง กันต่อด้วย จากตัวเมืองใช้ทางหลวงหมายเลข 4004 ระนอง-ปากน้ำ ห่างจากตัวเมืองระนองเพียง 1 กม. นับเป็นสุสานแบบจีนขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนเนินริมถนน พบเห็นได้ง่าย บริเวณสุสานเป็นที่ดินพระราชทานจากรัชกาลที่ 5 สำหรับพื้นสุสานสร้างด้วยศิลาที่นำมาจากประเทศจีน รอบด้านมีรูปปั้นแกรนิตรูปขุนนาง แพะ สิงโต และม้า ตั้งตามศาสตร์ความเชื่อของจีน เมื่อมาเที่ยวชมถึงสุสานเจ้าเมืองคงใช้เวลาประมาณครึ่งวันแล้ว รับประทานอาหารกลางวันในตัวเมืองช่วงบ่ายค่อยขับรถไปเที่ยวต่อ
ช่วงบ่าย ไม่ไกลจากตัวเมืองระนองยังมีที่เที่ยวเด่นที่ไม่ควรพลาดเลยอีก 2 แห่ง ได้แก่ น้ำตกหงาว และภูเขาหญ้า ทั้งสองแห่งตั้งอยู่ไมไกลจากกันมากนัก จะเริ่มต้นเที่ยวน้ำตกหงาวกันก่อนก็ได้ จากตัวเมืองระนองใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ระยะทาง 13 กม.จะพบน้ำตกหงาวอยู่ทางซ้าย ตั้งอยู่ภายในที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สายน้ำไหลลงมาจากสันเขาสูงชันมองเห็นได้แต่ไกล ช่วงที่สวยที่สุดคือช่วงเดือนมิถุนายน
สำหรับภูเขาหญ้าตั้งอยู่เยื้องกับน้ำตกหงาว นับเป็นบริเวณที่มีภูเขาเล็กๆ วางสลับซับซ้อนสวยงาม มีเส้นทางรถให้ถึงเนินตรงกลาง จากนั้นเดินเท้าสู่สันเขาคุณจะพบจุดชมวิวในแบบ 360 องศา อันกว้างไกลสุดสายตา หากมาในฤดูฝนก็จะเป็นภูเขาหญ้าสีเขียวขจี แต่หากคุณมาชมในช่วงฤดูร้อนก็จะเปลี่ยนเป็นสีทองอร่ามสวยงาม
และจากน้ำตกหงาวขับรถไปตามทางหลวงหมายเลข 4 จากนั้นเลี้ยวขวาบริเวณที่ทำการเทศบาลต.หงาว คุณจะพบศูนย์วิจัยป่าชายเลนหงาว เป็นทางลาดยางประมาณ 6 กม. ภายในศูนย์วิจัยมีเส้นทางเดินชมศึกษาธรรมชาติให้คุณเที่ยวชมพรรณไม้ป่าชายเลนได้อย่างดี สำหรับคนชอบเที่ยวหาดทรายบรรยากาศสงบเงียบ ต้องไม่พลาดขับรถไปเที่ยว ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแหลมสน จากตัวเมืองระนองใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ถึงกม.ที่ 657 เลี้ยวขวาเข้าไป 10 กม. สุดทางจะพบที่ทำการอุทยานฯ และหาดบางเบน พักผ่อนเล่นน้ำได้ตามอัธยาศัย ทางอุทยานฯ มีร้านอาหาร บ้านพัก และลานกางเต็นท์ให้บริการด้วย หากไม่เล่นน้ำจะขับรถไปเที่ยวหาดอื่นๆ ใกล้เคียงก็ได้ มีหาดแหลมสน หาดประพาส และหาดอ่าวเคยให้ไปชม จากนั้นช่วงเย็นหลังชมพระอาทิตย์ตกค่อยเดินทางกลับไปนอนรีสอร์ตในตัวเมืองระนอง
หากคุณต้องการเที่ยวหมู่เกาะกำใหญ่ และหมู่เกาะกำนุ้ยในเขตอุทยานแห่งชาติแหลมสน ติดต่อเรือหางยาวเหมาไปเที่ยวแบบเช้ากลับเย็นได้จากที่ทำการอุทยานฯ