ชมทะเลหมอก ดอกกะหล่ำ ดาวบนฟ้า ดาวบนดิน
ภูทับเบิก เป็นจุดที่สูงที่สุดของจ.เพชรบูรณ์ สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 ม. อากาศที่นี่จึงเย็นสบายตลอดปี แถมยังมีทิวทัศน์ของแปลงกะหล่ำปลีที่กว้างใหญ่และสวยงามมากให้ชม ในฤดูหนาวหมอกจะไหลอบอวลทั่วภูทับเบิก
ส่วนยามค่ำคืนการได้ชมดวงดาวบนท้องฟ้ายังดูใกล้ชิดปานประหนึ่งจะเอื้อมดาวได้ และยังมีวิวดาวบนดินที่เกิดจากแสงไฟจากตัวเมืองหล่มเก่าให้ชมอย่างน่าอัศจรรย์อีกด้วย
Location อยู่ในเขตอุทยานฯภูหินร่องกล้า บริเวณบ้านทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า ห่างจากตัวเมืองเพชรบูรณ์ 97 กม.
จากตัวเมืองเพชรบูรณ์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 21 ระยะทาง 40 กม. ถึงสี่แยกหล่มสัก ไปต่อตามทางหลวงหมายเลข 203 ผ่านอ.หล่มสักถึงอ.หล่มเก่า ระยะทาง 17 กม. จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 2011 และทางหลวงหมายเลข 2331 อีก 40 กม.
จากตัวเมืองพิษณุโลก ใช้ทางหลวงหมายเลข 12 พิษณุโลก-หล่มสัก เมื่อถึงบริเวณกม.ที่ 69 จะพบสามแยกบ้านแยง เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 2013 ไปทางอ.นครไทย ก่อนถึงอ.นครไทย เลี้ยวขวาเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2331 ผ่านอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าประมาณ 24 กม.จากอุทยานฯภูหินร่องกล้า เดินทางไปตามสันเขาด้วยเส้นทาง 2331 อีกประมาณ 30 กม.จะถึงภูทับเบิก (เส้นทางนี้เหมาะสำหรับใครที่อยากเที่ยวภูหินร่องกล้าก่อนสักคืนแล้วจึงไปเที่ยวต่อที่ภูทับเบิก แล้วกลับทางเพชรบูรณ์)
เที่ยวได้ตลอดปี หน้าหนาวสวยสุดๆ
ภูทับเบิก มีความสูง 1,768 ม.จากระดับน้ำทะเล นับเป็นยอดดอยที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ แต่การไปเที่ยวชมนั้นสะดวกกว่าการไปเที่ยวดอยอื่นๆ เสียอีกเพราะถนนเข้าถึงสามารถขับรถไปแค้มปิ้งรับลมหนาวกันได้ทั้งครอบครัว ทริปนี้จะนิยมจัดเที่ยวควบคู่กับอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เพราะตั้งอยู่ใกล้กันและมีเส้นทางเชื่อมถึงภูทับเบิก
พื้นที่ของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จะครอบคลุมพื้นที่ทั้งในจ.พิษณุโลก เลย และจ.เพชรบูรณ์ ภูทับเบิก จึงเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานฯ รอบด้านบนยอดภูทับเบิกไม่มีต้นไม้ใหญ่สูงมาปิดบังทิวทัศน์ จากลานจอดรถเมื่อเดินขึ้นไปถึงยอดภูจึงสามารถชมทิวทัศน์ขุนเขาและไร่กะหล่ำของชาวม้งได้ทั่วดอย และด้วยพื้นที่ตามสันเขาอันกว้างใหญ่บนภูทับเบิกจึงมีจุดชมวิวสวยๆ ไม่ซ้ำกันหลายแห่ง แต่ละแห่งล้วนมีที่พักให้บริการเลือกกันตามใจชอบ
มาชมอะไรที่ภูทับเบิก?
ทะลหมอก
Location ชมทะเลหมอกได้จากที่พักบนภูทับเบิก เพราะอยู่บนระดับความสูงที่ไล่เลี่ยกัน
ภูทับเบิก เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ ประกอบกับภูเขารอบด้านภูทับเบิกไม่มีต้นไม้ใหญ่สูงมาปิดบังทิวทัศน์ เมื่อเดินขึ้นไปถึงยอดภู จึงสามารถชมทิวทัศน์ขุนเขา พระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกยามเช้าเบื้องล่างได้แบบ 360 องศา โดยมองเห็นได้ไกลทั้งหมู่บ้านม้งทับเบิก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ และขุนเขาน้อยใหญ่ทางฝั่งอ.ด่านซ้าย จ.เลย ที่มีพื้นที่ตั้งอยู่ติดกันกับภูทับเบิก สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการมาเที่ยวชมทะเลหมอกในยามเช้าก็คือ ช่วงปลายฝนต้นหนาวของทุกปีนั่นเอง
ปัจจุบันมีที่พักให้บริการมากมายหลายทำเลทั้งแบบบ้านพัก และเต็นท์โดม เต็นท์หลายขนาด ทุกที่ล้วนชมวิวทะเลหมอกได้ทั้งสิ้น เสน่ห์ของทะลหมอกที่ภูทับเบิกคือความหนาแน่นของหมอก และอยู่ใกล้จนบางวันแทบจะจับหมอกกันได้ แต่ถ้าคุณอยากจะไปชมวิวแบบสุดสุดในจุดสูงสุดก็ไปไม่ยาก
จากด่านเก็บค่าธรรมเนียมของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จะพบทางแยกขวาเข้าหมู่บ้านทับเบิกไปประมาณ 6 กม. จะพบป้ายบอกทางขึ้นไปยอดภูทับเบิก เลี้ยวขวาขึ้นไปไม่ไกลจะพบลานจอดรถ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และทางเดินสู่ยอดภูทับเบิกได้มองวิวกันแบบสุดสายตากันไปเลย
นอกจากทะเลหมอกแล้ว ยามค่ำ ณ ไม่ว่าคุณจะพักที่ไหนก็ยังชมดาวบนดิน หรือแสงไฟจากหมู่บ้านม้งทับเบิก และจากอ.หล่มเก่าได้อย่างสวยงามเสมือนดวงดาวยามราตรีที่ลดตัวลงมาส่องแสงอยู่บนพื้นพิภพด้วย จึงสมกับสโลแกนของภูทับเบิกที่ว่า นอนทับเบิก สัมผัสลมหนาว ดูดาวบนดิน
กิจกรรมยามค่ำอย่าเพิ่งหนีหนาวไปเข้านอน เพราะหลายที่พักเขามีหมูกะทะให้ปิ้งย่างไล่ลมหนาวกันอย่างสนุกสนาน นับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่นานๆ ที คุณจะได้มากินหมูกะทะกับเพื่อนฝูงญาติมิตรกันบนยอดเขา…
ไร่กะหล่ำปลีใหญ่สุดในโลก
Location: รอบภูทับเบิก
คุณสามารถชมไร่กะหล่ำปลีได้ตั้งแต่ ระหว่างทางหลวงหมายเลข 2331 สู่ภูทับเบิก จากนั้นจะพบทางแยกขวาเข้าหมู่บ้านทับเบิกไปประมาณ 6 กม.ระหว่างทางจะพบไร่กะหล่ำปลีให้ชมอีกมากมาย
จุดเด่นของภูทับเบิก นอกจากจะเหมาะสำหรับมาพักผ่อน กางเต็นท์แค้มปิ้งรับลมหนาว ชมทะเลหมอก และดาวบนดินแล้ว ภูทับเบิกยังเป็นไร่กะหลำปลีที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย เพราะตลอดทางขึ้นสู่ภูทับเบิก ตั้งแต่อ.หล่มเก่า จนถึงยอดภู จะโอบล้อมไปด้วยไร่กะหล่ำนับพันไร่ เรียกได้ว่าทุกตารางนิ้วแทบไม่มีพืชพรรณไม้อื่นๆ ให้พบเห็นเลยทีเดียว ไร่กะหล่ำของที่นี่จะเริ่มปลูกตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ใช้เวลาปลูก และเก็บเกี่ยวประมาณสามเดือน จากนั้นก็จะเริ่มปลูกกะหล่ำปลีกันใหม่หมุนเวียนตลอดทั้งปี
ไร่กะหล่ำปลีบริเวณภูทับเบิก ปลูกโดยชาวม้งในพื้นที่ ในช่วงกลางวันจะพบชาวบ้านคอยออกมาดูแลไร่ของตัวเอง และหากคุณไปเยือนในช่วงกะหล่ำปลีเก็บเกี่ยว คุณก็จะได้ของฝากติดไม้ติดมือที่ไม่เหมือนที่เที่ยวใดในประเทศไทย
หากอยากเที่ยวหมู่บ้านชาวม้งต่อก็ขับรถไปกันต่อเลย...
หมู่บ้านม้ง
Location: บ้านทับเบิก ต.วังบาล เส้นทางไปหมู่บ้านม้งทับเบิก ห่างจากยอดภูทับเบิกประมาณ 6 กม.
หมู่บ้านม้งทับเบิก เป็นที่ตั้งของชาวเขาเผ่าม้งที่อพยพมาอาศัยอยู่บริเวณบ้านทับเบิกมาช้านาน ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของศูนย์พัฒนาสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดเพชรบูรณ์ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมขั้นบันไดตามเชิงเขา หรือไร่กะหล่ำปลีนับพันไร่ที่เราเห็นตลอดทางบริเวณภูทับเบิกนั่นเอง นอกจากจะเป็นแหล่งพักพิงของชาวม้งแล้ว บริเวณหมู่บ้านม้งทับเบิกแห่งนี้ยังมีบ้านพัก และลานกางเต็นท์ของชาวบ้านให้บริการนักท่องเที่ยวด้วย
รู้จักเจ้าบ้าน ม้ง
ภูทับเบิก เป็นหมู่บ้านม้ง หลายคนบอกว่าม้งหน้าตาละม้ายคล้ายคนจีน ซึ่งก็ถูก ม้ง มีความหมายว่าอิสระชน เดิมอาศัยอยู่ในประเทศจีน ต่อมามีการมาปราบปราม เป็นเหตุให้อพยพลงมาถึงตอนใต้ของจีน และเขตอินโดจีน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และตอนเหนือของประเทศไทย ประมาณพ.ศ. 2400
ม้งมีสองกลุ่มได้แก่ ม้งน้ำเงิน และม้งขาว ประชากรของม้งในประเทศไทย มีมากเป็นอันดับ 2 รองจากกะเหรี่ยง ตั้งถิ่นฐานอยู่ตามภูเขาสูง หรือที่ราบเชิงเขาในเขตพื้นที่จ.เชียงราย พะเยา น่าน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน แพร่ ลำปาง กำแพงเพชร เลย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย และตาก
มาเที่ยวภูทับเบิกคุณจะได้เห็นงานศิลปะสีเขียวจากการปลูกกะหล่ำปลี กลายเป็นทิวทัศน์สวยงามและสร้างชื่อให้กับภูทับเบิก หมู่บ้านที่มีสีสันของวิถีชีวิตชาวเขาเผ่าม้ง ที่ประกอบอาชีพทำการเกษตรแบบขั้นบันได เมื่อยืนอยู่บนจุดสูงสุดของบ้านเผ่าม้งน้ำเพียงดินจะสามารถมองเห็นแปลงกะหล่ำปลีกว้างใหญ่มองไปไกลถึงเชิงเขางดงามมาก
ปัจจุบันภูทับเบิกมีที่พักให้บริการมากมาย จะนอนบ้าน จะนอนเต็นท์ ชอบใจมุมไหน บรรยกาศแบบไหนเลือกได้ตามใจชอบ จากระเบียงบ้านพัก และเต็นท์ล้วนหันหน้าไปยังทะเลภูเขาที่ยามเช้าหมอกก็จะไหลมาทักทายจนจับหมอกกันได้ ตื่นเช้าหน่อยได้ชมตะวันขึ้นทอแสงสวยๆ ยิ่งหน้าหนาวฟ้าแจ่มใส อากาศเย็นสบายอย่างกับไปสวิสเซอร์แลนด์ ผู้คนคึกคัก เป็นช่วงเวลาที่มีสีสันมาก
แม้จะมีที่พักให้บริการมาก แต่นักท่องเที่ยวก็มากขึ้นทุกปี ดังนั้นรีบจับจองที่พักกันแต่เนิ่นๆ แล้วการเดินทางของคุณจะอุ่นใจได้ว่าได้กินอิ่ม นอนอุ่นที่ภูทับเบิกแน่นอน…
ทะเลหมอกคืออะไร?
หมอก และทะเลหมอกนั้น มีพื้นฐานการเกิดขึ้นเหมือนกัน คือเกิดจากอุณหภูมิของอากาศที่ลดลงมากจนต่ำกว่าจุดน้ำค้าง ทำให้ไอน้ำเกิดการกลั่นตัวเป็นละอองน้ำขนาดเล็ก ในบรรยากาศใกล้ผิวโลก หมอกก็คือเมฆที่เกิดในระดับใกล้พื้นโลก ส่วนหมอกที่เกิดสูงขึ้นไปหน่อยเรียกว่า หมอกน้ำค้าง (Mist) หรือทะเลหมอกเป็นจุดที่อากาศสามารถพยุงให้ลอยอยู่ได้ แต่เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นละอองน้ำเหล่านี้จะกลับไปเป็นไอน้ำใหม่ ทำให้หมอกหายไป ปกติแล้วหมอกมักเกิดขึ้นในขณะที่ลมสงบในช่วงฤดูหนาวและตามหุบเขา
แต่สำหรับทะเลหมอกนั้นจะต่างกับหมอกทั่วไปตรงที่การเกิดทะเลหมอกต้องอาศัยปัจจัยสำคัญสองส่วนนั่นก็คือ การเกิดหมอก และทัศนะวิสัยในระดับสายตาค่อนข้างชัดเจน
หากมีทั้งสองข้อนี้คุณก็ไม่สามารถชมทะเลหมอกได้อย่างสวยงาม จะชมได้ก็เพียงหมอกที่คละคลุ้งอยู่รอบด้านเท่านั้น โดยทะเลหมอก เกิดจากการเย็นตัวของไอน้ำในอากาศอย่างรวดเร็ว อุณหภูมิที่มวลอากาศชื้นควบแน่นเป็นละอองน้ำหรือหยดน้ำ เรียกว่า จุดน้ำค้าง (Dew Point) คือการที่อากาศรับไอน้ำไว้ไม่ได้อีกแล้ว เกิดภาวะอิ่มตัว ความชื้นส่วนเกินจะควบแน่นกลายเป็นละอองน้ำและหยดน้ำ ทำให้เห็นเป็นสายหมอก และอาจเปียกโชกได้หากยืนอยู่บริเวณนั้น
ปัจจัยที่สองของการเกิดทะเลหมอก คือทัศนะวิสัยของผู้มองต้องค่อนข้างชัดเจน หมายความว่าในระดับสายตาของผู้มองต้องมีหมอกเบาบางกว่าระดับล่าง (เช่น หุบเขา) หรือไม่มีหมอกเลย ซึ่งจะทำให้มองเห็นเป็นทะเลหมอกขาวโพลนกว้างไกลออกไป
ปัจจัยที่ทำให้ระดับสายตาไม่มีหมอก ก็คือปัจจัยที่ทำให้หมอกสลายตัว ได้แก่ แสงแดด สายลมแรง และเมฆคลุมฟ้า ความร้อนจากแสงแดดทำให้หมอกระดับตัวผู้มองสลายไปก่อน จึงมองเห็นทำเลหมอกเบื้องล่าง หรือลมแรงที่พัดผ่านยอดเขาก็ทำให้หมอกระดับตัวผู้มองสลายไปก่อนเช่นกัน และการมีเมฆคลุมฟ้าหมายถึงมีการลอยตัวของไอน้ำขึ้นไปยังชั้นเมฆ หมอกชั้นบนก็จะสลายตัวก่อนหมอกชั้นล่างนั่นเอง
มาเที่ยวภูทับเบิก ไฮไล้ท์ของภูนี้คือการมาจับหมอก หยอกลมหนาว คราวนี้คุณก็รู้แล้วว่า ทะเลหมอกคืออะไร? มาจับหมอกอย่างเพื่อนรู้จักกันที่ภูทับเบิกกันเลย…
*เที่ยวต่อเนื่อง ภูหินร่องกล้า พิษณุโลก
หลังจบทริปภูทับเบิกแล้ว บนสันเขาเดียวกันคุณยังขับรถไปเที่ยวภูหินร่องกล้า ซึ่งอยู่ในเขตจ.พิษณุโลกได้ง่ายๆ ด้วย หลังจากเที่ยวภูหินร่องกล้าแล้ว เดินทางลงเขากลับจ.พิษณุโลกได้เลย
ภูหินร่องกล้า ระยะทางห่างจากภูทับเบิกเพียง 30 กม.เท่านั้น ช่วงเย็นกลับมานอนที่เดิม มารอชมดาวบนดินหรือแสงไฟจากหมู่บ้านม้งทับเบิกจากบนยอดภูทับเบิกกันต่อก็ยังได้
หากคุณมีเวลาน้อย ก็เดินทางกลับโดยใช้เส้นทางเดิมที่ผ่านอ.หล่มเก่า ขากลับยังมีที่เที่ยว ที่ชิม ที่ช้อปให้สนุกต่อโดยใช้เวลาไม่มาก ที่พลาดไม่ได้เลยคือต้องแวะชิมขนมจีนทั้งที่อ.หล่มเก่า และอ.หล่มสัก
อร่อยกับขนมจีนเส้นสดที่อ.หล่มเก่า อ.หล่มสัก
เพชรบูรณ์ มีความหมายว่าเมืองแห่งพืชพันธุ์ธัญญาหาร ในบรรดาอาหารของจังหวัดนี้ที่ถือว่าเป็นต้นตำรับความอร่อยที่ใครๆ ก็รู้จักคือ ไก่ย่างวิเชียรบุรี และยังมี ขนมจีนเมืองหล่ม ซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านที่หากินได้ทั่วไปทั้งในอ.หล่มเก่า (ทางขึ้นภูทับเบิก) และอ.หล่มสัก
ร้านขนมจีนที่ได้รับการยกย่องในเรื่องรสชาติทั้งจากชาวเพชรบูรณ์และนักท่องเที่ยวทั่วไปคือร้านบุญมีขนมจีน และร้านขนมจีนเจสัน (เจ๊สั้น) ที่หล่มสัก เที่ยวภูทับเบิกแล้ว ขากลับหากใช้เส้นทางลงผ่านอ.หล่มเก่า อ.หล่มสัก อย่าพลาดที่จะแวะไปอร่อยกัน
ร้านบุญมีขนมจีน ตั้งอยู่ตรงข้ามอบต.นาแซง อ.หล่มเก่า ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 3 กม.
โทร. 089 643 2775
ร้านขนมจีนเจสัน (เจ๊สั้น) ตั้งอยู่ซอย 13 วจี ต.หล่มสัก อ.หล่มสัก
โทร. 056 704 219
ตัวอย่างทริปขับรถเที่ยวภูทับเบิก
Day 1
ภูทับเบิก ตั้งอยู่ในเขตต.วังบาล ห่างจากอำเภอหล่มเก่าประมาณ 40 กม.และห่างจากอ.เมืองเพชรบูรณ์ประมาณ 97 กม. แต่อย่างไรก็ตามภูทับเบิกสามารถเดินทางมาได้ทั้งจากทางฝั่งจ.พิษณุโลก และจ.เพชรบูรณ์ เมื่อขับรถมาใกล้ภูทับเบิก คุณจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์สวยๆ ตลอดสองข้างทางทั้งวิวไร่กะหล่ำปลีของชาวม้ง และวิวภูเขาสลับซับซ้อนอันงดงาม หากมาเยือนในช่วงปลายปีก็จะได้ชมความงดงามของต้นซากุระ หรือพญาเสือโคร่งกันด้วย
และไม่ว่าคุณจะเดินทางมาจากเส้นทางไหน ก็จะมาถึงภูทับเบิกประมาณช่วงเที่ยงวัน ก็ตรงเข้าไปเช็คอินน์กับที่พักที่คุณจับจองไว้ จากนั้รับประทานอาหารกลางวัน
หลังอาหารกลางวันจะพักผ่อนสบายๆ ในที่พักที่คุณจองไว้ หรือ จะเลือกไปเที่ยวหมู่บ้านทับเบิกต่อก็ได้ ห่างจากยอดภูทับเบิกประมาณ 6 กม. เป็นที่ตั้งของชาวเผ่าม้งที่อพยพมาอาศัยอยู่บริเวณบ้านทับเบิกมาช้านาน ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของศูนย์พัฒนาสงเคราะห์ชาวเชาจ.เพชรบูรณ์ ประกอบอาชีพเกษตรกรรมขั้นบันไดตามเชิงเขา ซึ่งก็คือวิวกะหล่ำปลีอันสร้างชื่อให้ภูทับเบิกนั่นเอง
บ่ายแก่ๆ กลับเข้าที่พัก อาบน้ำอุ่นๆ เตรียมชุดกันหนาวแล้วต้องไม่พลาดกับรายการหมูกะทะ บางที่พักเขาจัดไว้ที่ระเบียงบ้าน เรียกว่านั่งกันยาวๆ ไปเลย
ช่วงค่ำจะได้ชม ดาวบนดิน หรือแสงไฟฟ้าจากบ้านเรือนในอ.หล่มเก่าที่อยู่เบื้องล่าง สมกับสโลแกนของภูทับเบิกที่ว่า นอนทับเบิก สัมผัสลมหนาว ดูดาวบนดิน
Day 2
ไม่ว่าคุณจะเลือกพักที่ไหน ช่วงเช้าตรู่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ต้องไม่พลาดตื่นมาชมทะเลหมอกยามเช้า เรียกได้ว่าชมได้จากระเบียงบ้านพักคุณเลย แต่ละที่เขาออกแบบที่พักให้หันไปชมทะเลหมอกได้ง่ายๆ ไม่ต้องเดินไปไหน เป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของภูทับเบิกก็ว่าได้ที่ชมทะเลหมอกได้สะดวกมาก แถมเป็นทะเลหมอกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย
หลังฟ้าเปิดยิ่งมองเห็นวิวได้ไกลตั้งแต่หมู่บ้านม้งทับเบิก ไปจนถึงขุนเขาทางฝั่งอ.ด่านซ้าย จ.เลย ใครที่ขยันตื่นและขับรถขึ้นไปบริเวณผาหัวสิงห์ ก็จะได้วิวพิเศษเพราะสูงกว่าจุดอื่น งามแบบกว้างไกลสุดสายตา
อิ่มกับทะเลหมอกกันแล้ว ก็มาอิ่มกับมื้อเช้า แทบทุกที่พักเขาจะรวมอาหารเช้าไว้กับที่พักด้วย จึงสะดวกสบายไม่ต้องหิ้วท้องออกไปหากินข้างนอก หลังมื้อเช้า หากคุณมีเวลาเพียงเท่านี้ก็ได้เวลา เก็บข้าวของให้เรียบร้อยเตรียมลงจากภูทับเบิก
หากเมื่อวานยังไม่ได้ไปเที่ยวชมหมู่บ้านม้งทับเบิก วันนี้ค่อยแวะไปเที่ยวก็ได้ หรือหากยังมีวันเที่ยวเหลือ อยากเที่ยวชมธรรมชาติใกล้กับภูทับเบิก ก็สามารถใช้ทางหลวงหมายเลข 2331 ไปทางอ.นครไทย จ.พิษณุโลก เพื่อเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้ากันต่อก็เป็นทริปต่อเนื่องที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
หากติดใจบรรยากาศภูทับเบิกอยากจะพักผ่อนชิวๆ ต่ออีกสักคืนสองคืนก็ตามอัธยาศัย…