ภูเขียว ชัยภูมิ

Trips ชัยภูมิ

ภูคิ้ง ยอดเขาที่พิชิตได้แล้วรางวัลคือวิวสวยๆ

ขับรถท่องซาฟารีเมืองไทย

หากเอ่ยถึงภูเขียว หลายคนมักจะนึกถึงเขื่อนจุฬาภรณ์ด้วย นั่นก็เพราะทั้งสองแห่งนั้นเป็นที่เที่ยวที่อยู่ติดกัน และเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่ให้คุณได้มาชมสวนสัตว์เปิดอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ก็ยังมีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจหลายเส้นทาง โดยเฉพาะการพิชิตยอดภูคิ้งนั้น นักนิยมไพรหลายคนเคยกล่าวไว้ว่า “แม้คุณจะเคยเดินป่าพิชิตภูกระดึงมาแล้ว แต่ 4 ภูกระดึง ก็ยังไม่เทียบเท่า 1 ภูคิ้ง” จะจริงแค่ไหนคงต้องไปพิสูจน์กันเอง

Location: ด่านปางม่วง ตำบลทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร ริมทางหลวงหมายเลข 2055 ก่อนถึงเขื่อนจุฬาภรณ์ 3 กม.

จากตัวเมืองชัยภูมิ ใช้ทางหลวงหมายเลข 201 (ชัยภูมิ-ชุมแพ) ผ่านอ.ภูเขียว จนถึงสามแยกบ้านหนองสองห้อง จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 2055 ทางไปเขื่อนจุฬาภรณ์ ก่อนถึงเขื่อน 3 กม. ให้เลี้ยวซ้ายมือเข้าไปยังด่านปางม่วง ซึ่งเป็นทางเข้าสู่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว รวมระยะทางจากตัวเมืองชัยภูมิ 120 กม.

Day 1

ท่องเที่ยวทุ่งกะมัง

เนื่องจากเป็นพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าจึงมีข้อกำหนดที่อาจจะดูยุ่งยากกว่าการเข้าไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติ ดังนั้นคุณจึงต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้อง โดยต้องลงทะเบียนพร้อมแจ้งวัตถุประสงค์ในการเข้าไปทุกครั้ง รวมถึงแจ้งความต้องการสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางป่าศึกษาธรรมชาติ การร้องขอเจ้าหน้าที่เพื่อนำทาง หรือรายละเอียดอื่นๆ โดยสามารถติดต่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่ที่ด่านปวงม่วงได้โดยตรง หรือติดต่อล่วงหน้ากับทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว

Location: ปลายสุดของถนนลาดยาง ห่างจากด่านปางม่วง 24 กม.

เมื่อลงทะเบียนที่ด่านปางม่วงแล้ว ให้ขับรถตรงเข้าไปตามทางลาดยาง ระยะทาง 24 กม. จนสุดถนนจะถึงบริเวณบ้านพัก และพระตำหนักอยู่ปลายสุดถนน ซึ่งก็คือ ทุ่งกระมัง นั่นเอง

ชมสัตว์กันง่ายๆ ที่ทุ่งกะมัง

ทุ่งกะมัง ก็คือพื้นที่ทุ่งหญ้ากว้างที่ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นสวนสัตว์เปิดของป่าภูเขียว เพราะเป็นสถานที่ที่คุณจะได้เห็นสัตว์ป่า ทั้งเก้ง กวาง นกนานาชนิด ฯลฯ ได้ง่ายที่สุด ในเส้นทางลาดยางที่เข้าสู่ทุ่งกะมังนั้นยังมีอ่างเก็บน้ำซึ่งจะพบเห็นสัตว์ป่าออกมาหากินได้ด้วย การขับรถเข้าไปจึงควรใช้ความเร็วจำกัด และระมัดระวังสัตว์ป่าข้ามถนนด้วย

ทุ่งกะมังมีเนื้อที่รวมกว่า 1,500 ไร่ ตั้งอยู่ใจกลางผืนป่าภูเขียว เป็นแหล่งอาหารของสัตว์กินพืช และมีโป่งเทียมสำหรับสัตว์ หากคุณจะมาเที่ยวที่นี่แนะนำว่าควรมีกล้องส่องทางไกลติดตัวไว้จะได้ส่องดูสัตว์ได้สะดวก หากเป็นช่วงเช้าๆ จะมีนกออกมาหากินหลายชนิด จึงเป็นแหล่งดูนกที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ในช่วงหน้าหนาวระหว่างเส้นทางเข้าสู่ทุ่งกะมังยังมีทิวทัศน์ของป่าเต็งรังเปลี่ยนสีให้ชมอีกด้วย

เที่ยวทุ่งกะมังแล้วจะนอนที่นี่สักคืน หรือไปนอนบ้านพักเขื่อนจุฬาภรณ์ก็ได้ ที่พักดี อาหารอร่อย จอดรถง่าย สำหรับคนที่จะพักค้างแรมที่บ้านพักในทุ่งกะมัง ต้องติดต่อล่วงหน้าอย่างน้อย 15-30 วัน ที่หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว หรือผู้อำนวยการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

เส้นทางสะดวกสู่เขื่อนจุฬาภรณ์

เที่ยวเขื่อนจุฬาภรณ์

Location: ต.ทุ่งพระ ห่างจากด่านปางม่วง 3 กม.

จากด่านปางม่วงให้เลี้ยวซ้ายแล้วขับไปตามทางหลวงหมายเลข 2055 ตรงไปประมาณ 3 กม. จะถึงด่านตรวจเขื่อนจุฬาภรณ์

เขื่อนจุฬาภรณ์ เป็นเขื่อนหินทิ้งมีสันเขื่อนยาว 700 ม. เป็นเขื่อนเอนกประสงค์ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าและการเกษตร บริเวณรอบๆ โอบล้อมด้วยผืนป่าภูเขียวและยังมีสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดปี ส่วนใหญ่คนที่มาเที่ยวที่นี่จะมาชมทิวทัศน์ และมาล่องเรือกินข้าว นอกจากนี้ก็ยังมีศูนย์ทดลองปลูกพืชเมืองหนาวของมหาวิทยาลัยขอนแก่นด้วย ส่วนใครที่ชอบวิชาดาราศาสตร์ ภายในเขื่อนก็มีหอดูดาวให้สัมผัส รวมถึงมีบ้านพักรับรอง ลานกางเต็นท์พักแรม ห้องประชุมและกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์อีกด้วย หากต้องการจองบ้านพักรับรองให้ติดต่อโดยตรงที่ฝ่ายบ้านพักรับรอง

บ้านพักรับรองการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเขื่อนจุฬาภรณ์ โทร. 044 86 1 668-9, 043 384 969 

บ้านพักสถานีทดลองและฝึกอบรมเกษตรกรรมเขื่อนจุฬาภรณ์ (ไร่ มข.) โทร. 044 738 050

เส้นทางพิชิตภูคิ้ง

ภูคิ้ง

Location: บ้านบุ่งสิบสี่ ต.โนนทอง เหนือเขื่อนน้ำพรม อ.เกษตรสมบูรณ์

จากตัวเมืองชัยภูมิ ใช้ทางหลวงหมายเลข 201 (ชัยภูมิ-ชุมแพ) จนถึงอ.ภูเขียว ระยะทาง 80 กม. จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 2037 ไปอ.เกษตรสมบูรณ์ระยะทาง 22 กม. แล้วเลี้ยวขวาไปบ้านบุ่งสิบสี่อีกประมาณ 17 กม. จากนั้นเลี้ยวซ้ายทางเข้าเขื่อนน้ำพรมอีก 2 กม.

ภูคิ้ง เป็นเทือกเขาส่วนหนึ่งของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จุดเด่นของเทือกเขานี้ก็คือ ยอดภูคิ้ง มีความสูง 1,158 ม.จากระดับน้ำทะเล สูงเป็นอันดับ 5 ของภาคอีสาน รองจากภูหลวง ภูเรือ เขาแหลม และภูกระดึง ทำให้ที่นี่มีสภาพอากาศที่เย็นสบาย และมีอากาศหนาวในช่วงกลางคืน การเที่ยวชมภูคิ้งเป็นการเดินป่าท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งต้องเดินเท้าเป็นระยะทางกว่า 2.9 กม. เส้นทางเดินค่อนข้างชันดังนั้นจึงรู้สึกว่าเดินเหนื่อยกว่าภูกระดึง จนได้รับการกล่าวขานว่า “4 ภูกระดึง ไม่เท่า 1 ภูคิ้ง”

เส้นทางช่วงแรก คุณจะผ่านป่าไผ่ จากนั้นจะเข้าสู่เขตป่าดงดิบ จะมีจุดนั่งพักเป็นระยะๆ พอถึงช่วงสุดท้ายจะต้องออกแรงปีนบันไดกันหน่อย พ้นแล้วก็จะถึงสันเขา จากนั้นเดินเลาะหน้าผาไปทางซ้ายมือจะถึงยอดภูคิ้ง หลังจากนั้นก็เดินเที่ยวชมบนสันเขาโดยจะมีจุดที่น่าสนใจคือ แหลหินเงิบ อยู่ทางทิศตะวันตกของยอดภูคิ้ง ระยะทาง 1.5 กม.

กลุ่มหินบนภูคิ้ง

เดินต่อไปอีก 3 กม.จะถึงกลุ่มหิน แหลหินจ้อง ระหว่างทางเดินจะเป็นทุ่งหญ้าสะวันน่า และมีพืชพื้นล่าง เช่น หม้อข้าวหม้อแกงลิง และหยาดน้ำค้างให้ชมมากมาย จากแหลหินจ้อง จะมีทางเดินตัดลงเขากลับลงมาอีกทางหนึ่งโดยไม่ต้องย้อนกลับไปทางยอดภูคิ้ง ส่วนใครที่จะค้างแรมแค้มปิ้งกัน จะมีจุดพักแรมอยู่ชายป่า ควรจะหายาทากันแมลงกัดไปด้วย พร้อมกับเตรียมเต็นท์ และอาหาร น้ำดื่ม ให้พร้อม

หากจะติดต่อเดินป่าเที่ยวภูคิ้ง ติดต่อได้ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ทางเขตฯจะวิทยุแจ้งมายังหน่วยย่อยที่เขื่อนน้ำพรม หรือติดต่อที่ศูนย์ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน อบต.โนนทอง โทร. 044 822 926 เพื่อหาคนนำทางก็ได้

Tips เที่ยวภูคิ้ง ไปได้ทั้งฝน และหนาว

ฤดูกาลเดินป่าชมธรรมชาติบนยอดภูคิ้งที่คุณจะได้เห็นต้นไม้ใบหญ้าแปลกๆ หลากหลายต้องมาเดินในช่วงหน้าฝน แม้ว่าจะเปียกมากหน่อย แต่รับรองว่าได้ภาพต้นไม้เล็กๆ เช่น หม้อข้าวหม้อแกงลิง พวกหยาดน้ำค้างเยอะมาก และทุ่งหญ้าสีเขียวท่ามกลางสายหมอกสวยที่สุด

หากชอบถ่ายภาพเตรียมเลนส์มาโครไปด้วย รับรองได้ภาพดอกไม้สวยๆ กลับไปเยอะ ส่วนหน้าหนาวหมอกน้อย แต่หญ้าเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลสวยงามไปอีกแบบ เดินง่าย ไม่เปียกเหมือนหน้าฝน สรุปแล้วมาเที่ยวภูคิ้งได้ทั้งฝน และหนาว