ดินแดนแห่งถ้ำสวย
ปางมะผ้า เป็นชื่ออำเภอหนึ่งของแม่ฮ่องสอน อยู่ตรงกลางระหว่างอ.ปาย กับอ.เมืองแม่ฮ่องสอน ใครที่ขับรถเที่ยวโดยผ่านมาทางอ.ปาย เป็นต้องผ่านอ.ปางมะผ้า มีจุดแวะถ่ายภาพที่จุดชมวิวกิ่วลม ริมถนนที่ปางมะผ้าที่ทุกคนรู้จักดี ปางมะผ้ายังมีถ้ำสวยมาก ได้รับการยกย่องว่าเป็นอำเภอที่มีถ้ำสวยมากที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นยังมีรีสอร์ทที่ถูกออกแบบสร้างอยู่ริมน้ำอย่างสวยงาม เหมาะสำหรับการไปพักผ่อนหย่อนใจ และท่องเที่ยว ใครที่ชอบบรรยากาศสงบ งดงาม เหมาะที่จะมาที่นี่ และเป็นความจริงที่ว่าฝรั่งก็กำลังหลงใหลเมืองนี้จนบอกต่อกันปากต่อปาก เหมือนที่ครั้งหนึ่งปายเคยเป็น
ผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมผจญภัย อยากสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนหลากหลายเผ่าพันธุ์แบบใกล้ชิด ที่อ.ปางมะผ้า ดินแดนแห่งภูเขาสูง อุดมสมบูรณ์ด้วยป่าไม้ และลำห้วย ก็นับว่าเหมาะที่สุด หากคุณเดินทางมาจากเชียงใหม่และต้องการเที่ยวจ.แม่ฮ่องสอน คุณควรเลือกใช้เส้นทางเชียงใหม่-อ.ปาย แล้วจากนั้นก็ใช้เส้นทางอ.ปาย-อ.ปางมะผ้าต่อได้ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.เศษเท่านั้น
ปางมะผ้า ไม่เพียงมีวิวทิวทัศน์ของพืชไร่ทางการเกษตรทั้งข้าวไร่ ข้าวโพด ขิง แครอท มันฝรั่ง ถั่วแดง กะหล่ำปลีให้ชมเท่านั้น วิถีชีวิตชุมชนที่ประกอบด้วยชุมชนหลากหลายชนเผ่า ทั้งคนพื้นเมือง (ไทยญวณ) คนไต (ไทยใหญ่) ชาวเขาเผ่า ลีซอ เผ่ามูเซอดำ เผ่ามูเซอแดง เผ่ากระเหรี่ยง เผ่าเผ่าม้ง เผ่าลัวะ เผ่าปะโอ และไทยพื้นราบ ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีไว้คงเดิม หากคุณมาเที่ยวที่ปางมะผ้าในช่วงเทศกาลปีใหม่เมือง เทศกาลกินวอ หรือเทศกาลปีใหม่ของแต่ละชนเผ่า คุณจะได้ชมการละเล่นพื้นบ้าน การแต่งกายที่สวยงามและที่สำคัญก็คือประเพณีปอยส่างลอง ของชนชาวไทยใหญ่
กิ่วลม ชมวิวทะเลหมอก
Location : ริมทางหลวงหมายเลข 1095 กม.ที่ 158
หากเดินทางมาจากอำเภอปายมุ่งหน้าจะไปแม่ฮ่องสอน บนทางหลวงหมายเลข 1095 กม.ที่ 158 จะพบลานกว้างสำหรับจอดรถและเดินลงไปชมทิวทัศน์ได้
หากคุณขับรถจากปายจะไปเที่ยวแม่ฮ่องสอน หรือมาจากแม่ฮ่องสอนจะไปเที่ยวปาย จะพบจุดชมวิวที่นิยมมากที่สุดก็ว่าได้ชื่อว่า กิ่วลม ในช่วงเช้าจะเห็นทะเลหมอกไหลหนาเต็มหุบเขาสีขาวโพลน โดยเฉพาะฤดูหนาว หากมาในช่วงสายไปแล้วจะได้เห็นวิวทิวทัศน์ของของปางมะผ้ายาวไกลไปถึงแม่ฮ่องสอน บริเวณนี้จะมีร้านค้าชาวม้งจำหน่ายสินค้าที่ระลึกมากมาย ใครที่อยากถ่ายภาพคู่กับชาวเขาเผ่าม้งที่แต่งกายเต็มยศ ก็ต้องมอบสินน้ำใจให้ตามอัธยาศัย
เหตุที่ใครๆ ที่ขับรถผ่านมาต้องแวะก็เนื่องจากเส้นทางจากปายจะไปแม่ฮ่องสอนมีทางโค้งสูงชันตลอด จนเรียกได้ว่าเป็นช่วงที่โค้งมากที่สุดบนเส้นทางแม่ฮ่องสอนก็ได้ ผู้โดยสารจึงมักมีอาการเมารถ เมื่อพบจุดแวะพักต่างจึงพร้อมใจกันลงไปพักตั้งหลัก ถือได้ว่าพักทั้งคน พักทั้งรถนี่เอง
ถ้ำลอด
Location : ตำบลถ้ำลอด ห่างจากตัวเมืองปางมะผ้า ประมาณ 9 กม.
จากตัวเมืองปางมะผ้า ใช้เส้นทางไปยังอำเภอปาย ระยะทาง 1 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายไปตามป้ายบอกทางอีก 8 กิโลเมตร ถึงถ้ำลอด
ที่เที่ยวสำคัญที่คุณไม่ควรพลาดชมเลยนั่นก็คือ ถ้ำน้ำลอด หรือถ้ำลอด ใช้เวลาเที่ยวเพียง 1 วัน เดินทางสะดวกเพราะอยู่ห่างจากตัวอ.ปางมะผ้าเพียง 9 กม. ถ้ำลอด เป็นถ้ำใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีลำห้วยน้ำลาง ไหลลอดภูเขาไปทะลุออกอีกด้านหนึ่ง ทำให้เกิดเป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม จากการพบเครื่องมือเครื่องใช้โบราณในถ้ำ สันนิษฐานได้ว่ามีอายุประมาณ 2,000 ปีมาแล้ว การเดินชมถ้ำจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกจะเป็นการชม 2 ถ้ำใหญ่ คือ ถ้ำเสาหินหลวง ถ้ำตุ๊กตา และช่วงที่สองจะนำชมถ้ำผีแมน
ภายในถ้ำมีความยาวประมาณ 1 กม. ประกอบด้วยห้องโถงใหญ่อีก 3 ห้อง เรียกชื่อต่าง ๆ กันคือ ถ้ำเสาหินหลวง จุดเด่นคือ เสาหินปูนขนาดใหญ่เกิดจากแท่งหินงอกหินย้อยหลายต้น บางเสาสูงถึง 20 ม. ต่อมาเป็น ถ้ำตุ๊กตา มีหินงอกคล้ายตุ๊กตาเรียงรายอยู่มากมาย ผนังถ้ำยังปรากฏภาพเขียนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ถ้ำนี้เป็นถ้ำที่กว้างและยาวที่สุดในถ้ำลอด ถ้ำสุดท้ายอยู่ด้านทางออกคือ ถ้ำผีแมน เป็นจุดที่ค้นพบเศษภาชนะดินเผา เมล็ดพืช เครื่องมือหิน กระดูกของมนุษย์ และโลงผีแมน เป็นท่อนไม้ที่ถูกขุดตรงส่วนกลางออก มีหลากขนาดให้ชมได้ตื่นตาตื่นใจ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเที่ยวถ้ำลอดด้วยตัวเอง คุณต้องใช้บริการผู้นำทางพร้อมตะเกียงเจ้าพายุ โดยจะเสียค่าบริการต่อผู้นำทาง
ถ้ำแม่ละนา
Location : บ้านแม่ละนา ต.ปางมะผ้า ห่างจากตัวเมืองปางมะผ้าไปทางแม่ฮ่องสอน 12 กม.
จากตัวเมืองปางมะผ้า ไปทางอ.เมืองแม่ฮ่องสอน แยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1226 ที่ กม. 152 ผ่านหมู่บ้านม้งและด่านตรวจทหาร เลี้ยวขวาเข้าหมู่บ้านแม่ละนา และขับไปยังถ้ำแม่ละนาอีก 4 กม.
ใครคิดจะมาเที่ยวถ้ำนี้ต้องสวมวิญญาณนักผจญภัยสักหน่อย เพราะต้องลุยน้ำลุยท่า แต่รับรองได้ว่าสนุกสุดแสน เพราะคุณจะได้ท่องไปในถ้ำที่ยาวที่สุดในเอเซีย มาเที่ยวแล้วกลับไปโม้ได้เป็นปีทีเดียว
ความยาวตลอดเส้นทางที่ลำน้ำแม่ละนาลอดผ่านไปในถ้ำประมาณ 12 กม.แต่ไม่อาจเดินทะลุทะลวงถ้ำได้หมดแน่ ดังนั้นเขาจึงจัดแบ่งเส้นทางให้เที่ยวถ้ำได้อย่างเหมาะสมคือ แบ่งเป็น 2 เส้นทาง
เส้นทาง 2.5 กม. เริ่มแรกก็ตะลุยน้ำกันเลย คุณจะได้พบกับหินงอกหินย้อยอันงดงามและสมบูรณ์สุดสุด เรียกว่าแหงนคอดูจนเมื่อยกันเลย ไปสิ้นสุดที่อ่างน้ำขนาดใหญ่ที่ซ่อนอยู่ในถ้ำอย่างน่าพิศวงงงงวย เส้นทางนี้ใช้เวลาไม่เกินครึ่งวัน
เส้นทาง 5 กม. เส้นทางนี้โหดกว่าเส้นแรก เพราะนอกจากจะลุยน้ำแล้ว ยังต้องฝ่าความมืดเดินไปให้ถึงน้ำตกที่ซ่อนอยู่ในถ้ำ และด้วยความมืดชั่วนาตาปีแบบนี้ ทำให้สัตว์ที่อาศัยอยู่ในถ้ำต้องปรับตัวให้อยู่ได้ เช่น การที่มีปลาที่ไม่มีตาอาศัยอยู่ในถ้ำ ซึ่งเคยเป็นข่าวครึกโครมใหญ่โตเมื่อหลายปีที่มีการค้นพบปลาชนิดนี้ ใครอยากลุยต้องเตรียมเวลามาให้เต็มวัน และไม่เหมาะสำหรับคนที่กลัวความมืด เพราะที่นี่จะมืดสนิท ชนิดที่เรียกได้ว่ามืดตึ๊ดตื๋อเลยทีเดียว
สำหรับบ้านแม่ละนานี่ก็แปลกตรงที่เป็นหมู่บ้านแห่งถ้ำ นอกจากถ้ำที่ว่านี้แล้ว ยังมีถ้ำอีกหลายแห่ง เช่น ถ้ำปะการัง มีความลึกของถ้ำ 800 ม. หินงอกหินย้อยคล้ายกับปะการังในทะเล เลยได้ชื่อว่าถ้ำปะการัง
ถ้ำเพชร ลึก 300 เมตร ที่มาของถ้ำคือเมื่อคุณฉายไฟไปที่หินงอกหินย้อย จะเกิดประกายระยิบระยับคล้ายกับมีกากเพชรเคลือบอยู่
ถ้ำข้าวแตก หรือถ้ำข้าวตอก มีกลุ่มหินที่เกาะกันคล้ายข้าวตอก ที่น่าอัศจรรย์คือข้างในถ้ำมีปล่องใหญ่ให้แสงส่องลงมาได้ และแน่นอนว่าเป็นช่องระบายอากาศที่ดีเยี่ยมอีกด้วย
ถ้ำหินไข่มุก แม้จะเป็นถ้ำเล็ก แต่คุณจะได้เห็นหินปูนที่มีลักษณะเป็นก้อนกลมๆ คล้ายไข่มุก ถ้ำนี้คับแคบหน่อย ใครที่ไม่ชอบที่แคบคงต้องสละสิทธิ์
หากอยากชมถ้ำเหล่านี้ที่อยู่ในเขตบ้านแม่ละนา ติดต่อได้ที่กลุ่มชาวบ้านแม่ละนา นอกจากจะนำเที่ยวถ้ำอย่างสนุกแล้ว ยังมีโฮมสเตย์ราคาประหยัด พร้อมทำอาหารอร่อยให้คุณเอ็นจอยอีกต่างหาก
ถ้ำผาแดง
Location : ต.นาปู่ป้อน อ.ปางมะผ้า ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน 50 กม.
จากตัวเมืองปางมะผ้า ไปทางอ.เมืองแม่ฮ่องสอน ถึงกม.ที่ 167 เลี้ยวขวาไปบ้านนาปู่ป้อน บ้านปางคอง และดอยหลักแต่ง ตรงไปยังหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ถ้ำปลาผาเสื่อที่ 4 อีก 10 กม.
เหมาะกับคนชอบผจญภัย เริ่มต้นก็ต้องเดินเท้าก่อน 500 ม.จากลานจอดรถ จากนั้นเข้าถ้ำที่มีความลึกกว่า 1 กม. เป็นอีกถ้ำที่มีน้ำไหลผ่าน ถ้าเป็นหน้าฝน ไม่อาจเที่ยวได้ ต้องรอให้น้ำลดก่อนในหน้าหนาว และเที่ยวได้เฉพาะช่วงปากถ้ำเท่านั้น
จุดเด่นของถ้ำนี้คือผลึกแคลไซต์ที่ผนังถ้ำมีสีแดงเป็นแนวกว้าง ก็เลยเป็นที่มาของชื่อถ้ำผาแดง บางส่วนเป็นผลึกสีขาว ดูงดงามและเลอค่ามาก ส่วนในสายน้ำที่ไหลผ่านถ้ำ ใครโชคดีอาจได้เห็นปลาไม่มีตา และกุ้งตัวใสๆ อย่างน่าอัศจรรย์
ด้านในสุดของถ้ำนี้ยังพบโลงผีแมนที่ยาวถึง 6 ม.นับว่าเป็นโลงผีแมนที่ยาวที่สุดอีกด้วย
หากคุณต้องการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้าน ได้สนุกสนานกับกิจกรรมเดินป่า นั่งช้าง ล่องแพ และค้างแรมแบบโฮมสเตย์ ที่บ้านแม่ละนา ชุมชนหมู่บ้านไทยใหญ่ และบ้านบ่อไคร้ ชุมชนหมู่บ้านชาวมูเซอก็พร้อมพาคุณไปสัมผัสความงามอีกด้านหนึ่งของอำเภอปางมะผ้าที่คุณคาดไม่ถึง
ก่อนมุ่งหน้าไปตัวเมืองแม่ฮ่องสอนคุณต้องไม่พลาดแวะซื้อผ้าทอพื้นบ้านที่มีลวดลายของแต่ละชนเผ่า ย้อมสีฝ้ายทอด้วยสีธรรมชาติเป็นของฝากชั้นเยี่ยม แต่ถ้าคุณเปลี่ยนแผนเลือกค้างแรมที่อ.ปางมะผ้า 1 คืน แล้วค่อยเดินทางเช้าวันถัดไป ระหว่างทางจากอ.ปางมะผ้า-ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ยังมีหมู่บ้านลีซู เดิมที่ชาวลีซูมาจากจีน โดดเด่นที่การแต่งกายหลากสีสันให้คุณแวะชม ต่อมาก็เป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าลาหู่ ที่แต่เดิมมาจากประเทศธิเบต และยังคงอยู่ดำรงชีวิตตามประเพณีดั้งเดิมอยู่อย่างเคร่งครัด
มาเที่ยวปางมะผ้าแล้ว คุณจะอยากกลับมาอีกในหน้าหนาวปีหน้า จากปางมะผ้าจะไปเที่ยวเมืองแม่ฮ่องสอน ขับรถไปตามทางหลวงหมายเลข 1095 อีกเพียง 75 กม.เท่านั้น
โลงผีแมนคืออะไร?
แม้นักโบราณคดีพยายามหาที่มาของโลงผีแมน แต่ก็ยังไม่รู้คำตอบที่แท้จริง ได้แต่สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นโลงศพของคนโบราณ สำหรับชาวบ้านเชื่อว่าบรรดาถ้ำที่พบโลงผีแมนนี้ เป็นที่อยู่ของอมนุษย์ ลักษณะของโลงนั้นเป็นไม้ซุงผ่าครึ่งแล้วนำมาขุดให้ด้านในเป็นโพรง ว่ากันว่าโลงที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุกว่า 2,100 ปี