เที่ยวตากตอนล่าง บนทางหลวงหมายเลข 105
ทางหลวงหมายเลข 105 จากตากไปแม่สอด นับเป็นถนนสวยที่มีทิวทัศน์สวยงาม ระยะทาง 83 กม. มีอุทยานฯ ริมทางให้เที่ยวชม 2 แห่ง คือ อุทยานฯลานสาง และอุทยานฯตากสินมหาราช ทั้งสองแห่งมีน้ำตกสวยๆ ให้ไปเที่ยวชม พร้อมกับบ้านพัก และลานกางเต็นท์ที่มีให้บริการอย่างดีเช่นกัน จากนั้นหากขับรถต่อไปยัง อ.แม่สอด อำเภอนี้ยังมีที่เที่ยวอีกหลายแห่งที่คุณอาจจะต้องเพิ่มวันหยุด เพราะมีทั้งกิจกรรมล่องแก่ง เที่ยวน้ำตก ชมวัด และช้อปปิ้งตลาดริมเมย
Location วันแรก ช่วงเช้า ออกเดินทางจากตัวเมืองตาก ใช้ทางหลวงหมายเลข 105 ไปทางอ.แม่สอด ระยะทาง 15 กม. จะพบอุทยานแห่งชาติลานสาง เป็นจุดแวะเที่ยวแห่งแรก นับเป็นอุทยานแห่งชาติที่เด่นเรื่องน้ำตก เช่น น้ำตกลานสาง อันเป็นที่มาของชื่ออุทยานฯ ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ เพียง 150 ม.น้ำตกไหลลดหลั่นลงมา 3 ชั้น เดินเที่ยวชมสะดวกสวยงาม และร่มรื่น ในอดีตเป็นน้ำตกชื่อดังของตาก เรียกได้ว่าโด่งดังมาก่อนน้ำตกทีลอซูเสียอีก
จากน้ำตกลานสางยังเดินไปเที่ยวชมน้ำตกอื่นๆ ได้ด้วย เช่น น้ำตกผาผึ้ง ห่างจากน้ำตกลานสาง 600 ม. น้ำตกผาน้อย ห่างจากน้ำตกผาผึ้งประมาณ 100 ม. เป็นน้ำตกเล็กๆ ไหลลงซอกผา และน้ำตกผาเท เดินไกลสุดต้องผ่านทุกน้ำตก 2 กม. แต่มีความสวยงาม และอลังการที่สุดของอุทยานฯ เที่ยวชมครบหมดใช้เวลาถึงเที่ยงวัน รับประทานอาหารกลางวันที่อุทยานฯ จากนั้นขับรถไปทาง อ.แม่สอด ไม่ไกลจะพบอุทยานฯตากสินมหาราช
อุทยานฯตากสินมหาราช ตั้งอยู่กม.ที่ 32 บนทางหลวงหมายเลข 105 มีทางแยกเข้าไป 1.5 กม. สมัยก่อนใช้ชื่อว่า อุทยานฯต้นกระบากใหญ่ เพราะมีต้นกระบากใหญ่ให้ชม ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นตากสินมหาราช เพราะมีบันทึกว่าบริเวณนี้เคยเป็นเส้นทางเดินทัพโบราณ แนะนำว่าเมื่อถึงอุทยานฯ สิ่งแรกที่คุณไม่ควรพลาดไปชมก็คือ ต้นกระบากใหญ่ ที่เคยเป็นชื่อของอุทยานฯ ห่างจากที่ทำการฯ 2 กม. ลำต้นใหญ่ขนาด 12 คนโอบ สูง 50 ม. ชาวบ้านเรียกต้นกระบากพันปี
ส่วนคนชอบเดินป่า ภายในอุทยานฯ มี 2 น้ำตกให้ชมแต่ใช้เวลาเดินประมาณครึ่งวัน คือ น้ำตกปางอ้าน้อย ใช้เส้นทางเดียวกับการไปชมต้นกระบาก แต่เลยมาประมาณ 800 ม. ตัวน้ำตกสูง 20 ม. นิยมเดินมาชมกันต่อหลังจากชมต้นกระบาก ส่วนน้ำตกปางอ้าใหญ่ อยู่ไกลหน่อย ห่างจากน้ำตกปางอ้าน้อยถึง 20 กม. ตัวน้ำตกสูง 30 ม. บรรยากาศโดยรอบร่มรื่นสวยงาม
ช่วงเย็น ภายในอุทยานฯ มีบ้านพัก ลานกางเต็นท์ ห้องน้ำให้บริการอย่างดี ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย
วันที่สอง
ช่วงเช้า เดินทางออกจากอุทยานฯตากสินมหาราช ไปยัง อ.แม่สอด เมื่อถึงตัวอำเภอคุณอาจจะเริ่มต้นเที่ยวที่ตลาดริมเมยกันก่อนก็ได้ เป็นตลาดริมแม่น้ำเมยที่มีสินค้าจากต่างประเทศข้ามมาให้เลือกซื้อหลายชนิด แต่ส่วนใหญ่เป็นประเภทพลอยสีต่างๆ งานไม้แกะสลัก และเครื่องใช้ไฟฟ้าจากจีน หลังช้อปปิ้งเสร็จไปเที่ยวชมวัดวาอารามสไตล์พม่าในตัวเมืองกันต่อ
ส่วนใหญ่ตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 105 ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น วัดโพธิคุณ วัดไทยวัฒนาราม วัดพระธาตุดอยดินจี่ วัดชุมพลคีรี วัดมณีไพรสณฑ์ ในบรรดาวัดทั้งหมดนี้คุณอาจจะเลือกเฉพาะที่สนใจก็ได้ ส่วนใหญ่นิยมไปวัดไทยวัฒนาราม และวัดพระธาตุดอยดินจี่ ที่มีเจดีย์บนชะง่อนผา ให้ชมวิวได้อย่างสวยงาม ซึ่งการเที่ยวชมสองวัดนี้ก็ใช้เวลาครึ่งวันแล้ว
หลังมื้อเที่ยง ช่วงบ่ายมี 2 ทริปให้เลือก ได้แก่ เที่ยวน้ำตกขุนพระวอ และล่องเรือยางลำน้ำแม่ละเมา หากอยากไปชมน้ำตกขุนพระวอ จากตัวเมืองแม่สอดใช้ทางหลวงหมายเลข 105 ถึง กม.ที่ 35-36 เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1175 ประมาณ 16 กม. คุณจะพบอุทยานฯขุนพระวอ จุดเด่นของอุทยานฯ นี้อยู่ที่ น้ำตกขุนพระวอ เดินเที่ยวชมง่าย มีระยะทางเพียง 1.5 กม. เท่านั้น เป็นน้ำตกสูงราว 100 ม. สวยงามมาก
ใครที่ชื่นชอบกิจกรรมผจญภัย จะมาล่องเรือยางลำน้ำแม่ละเมาแทนก็ได้ ลำน้ำแม่ละเมามีต้นน้ำมาจากลำห้วยหลายสายจากเทือกเขาในเขตพม่าติดต่อกับ อ.พบพระ และ อ.อุ้มผาง ไหลไปทางทิศเหนือผ่านบ้านแม่ละเมา อ.แม่สอด จากนั้นไหลไปรวมกับแม่กระสา แล้วไปบรรจบกับแม่น้ำเมยที่บ้านวังผา อ.แม่ระมาด ล่องเรือยางเหนือลำน้ำแม่ละเมา มีความยากเพียงระดับ 1-2 เท่านั้น จุดเริ่มล่องแก่งอยู่ที่กิโลเมตรที่ 57 บนทางหลวงหมายเลข 105 สายน้ำไหลขนานไปกับถนนประมาณ 7 กม. มีแก่งเล็กๆ และวิวสวยๆ ให้ชมตลอดทาง ใช้เวลาล่องประมาณ 2 ชั่วโมง
รายละเอียดการล่องแก่งเพิ่มเติม สอบถามได้ที่ แม่ละเมาอีโคทัวร์ โทร. 089 267 2002
หากล่องเรือยางยังไม่หนำใจ ยังมีกิจกรรมเดินป่า ขี่ช้าง ให้สัมผัสความสนุกเพิ่มขึ้นด้วย จากนั้นช่วงเย็นเดินทางกลับที่พักใน อ.แม่สอด มีร้านอาหารทะเลที่นำมาจากพม่าให้ไปลองชิมกัน