เที่ยวสุดสัปดาห์ในหน้าฝน
จุดเด่นของทริปนี้ นอกจากจะได้สนุกสนานกับกิจกรรมล่องแก่งหินเพิงที่ อ.นาดี แล้ว ยังสามารถขับรถเที่ยวต่อเนื่องไปชมป่าต้นลานที่ใหญ่ที่สุด และมีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย มีน้ำตกสวยให้ชมต่ออีกหลายแห่ง ใช้เวลาเพียงวันหยุดสุดสัปดาห์ 3 วัน 2 คืนก็มาเที่ยวได้ทั้งครอบครัว
Day 1
Location จากตัวเมืองปราจีนบุรี ขับรถตามทางหลวงหมายเลข 33 ปราจีนบุรี-สระแก้ว เลย อ.กบินทร์บุรี ไปจะเจอสี่แยกกบินทร์บุรีใหม่ ให้เลี้ยวซ้ายแล้วไปต่อตามทางหลวงหมายเลข 304 สายกบินทร์บุรี-นครราชสีมา บริเวณ กม.ที่ 201 จะมีทางเลี้ยวเข้าถนนข้างปั๊มน้ำมันตรงเข้าไปตามทางหลวงหมายเลข 3290 มุ่งหน้าไป อ.นาดี ระยะทางประมาณ 25 กม. จะถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ขญ. 9 (แก่งหินเพิง)
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะจองที่พักที่ อ.นาดี เพราะสะดวกสบายกว่าการเข้าไปกางเต็นท์นอนที่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ
ส่วนรีสอร์ตที่ อ.นาดีส่วนใหญ่จะมีแพ็กเกจ รวมราคาห้องพัก อาหาร และทริปล่องแก่งหินเพิง ไว้เสร็จสรรพ แค่เพียงเก็บสัมภาระไว้ในห้องพักให้เรียบร้อย ช่วงบ่ายรีสอร์ตก็จะพาไป หน่วยพิทักษ์อุทยาน ขญ.9 ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สะดวกสบาย
เมื่อถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ต้องลงเดินเท้าเข้าไปยังต้นน้ำ หรือบริเวณที่เรียกว่า แก่งหินเพิง ที่มาของชื่อล่องแก่งสายนี้ ระยะทางประมาณ 2.5 กม. ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 45 นาที เส้นทางเดินชมวิวสวยได้เพลิดเพลิน ทางเดินง่ายไม่ลำบาก จากนั้นจะเริ่มการล่องแก่งกลับไปยังจุดเริ่มต้นที่เดินเข้ามา
เมื่อมาถึงแก่งหินเพิง ทีมงานล่องแก่งจะเริ่มเตรียมเรือยาง ต่อด้วยสาธิตวิธีการพายเรือ เรือยางหนึ่งลำสามารถนั่งได้ 8-10 คน พร้อมหมวกและชูชีพ จุดเริ่มต้นแก่งหินเพิง จะผ่านแก่งวังบอน บริเวณนี้มีโขดหินสองฝั่งขวางกระแสน้ำอยู่ บีบให้กระแสน้ำเข้าหากันเป็นรูปตัววี ลุ้นระทึกดี
แก่งถัดไปเป็น แก่งลูกเสือ สนุกสนานตื่นเต้นไม่แพ้แก่งหินเพิง และแก่งสุดท้าย แก่งงูเห่า หลังล่องแก่งแล้ว บางแห่งจะให้นั่งรถกลับรีสอร์ต บางแห่งจะให้ล่องเรือต่อไปขึ้นที่รีสอร์ตเลย แก่งหินเพิงจะมีสายน้ำให้ล่องสนุกได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม มีระดับความยากในระดับ 3-5 (ปานกลาง-ยาก)
Day 2
หลังมื้อเช้าที่รีสอร์ต และเช็คเอาต์แล้ว เส้นทางท่องไพรต่อไป จะได้ขับรถชื่นชมทิวทัศน์ผ่านป่าเขา ตั้งแค้มป์กลางป่าใบลานด้วย
จาก อ.นาดี ให้ย้อนกลับมาที่ทางหลวงหมายเลข 304 สายกบินทร์บุรี-นครราชสีมา ไปต่อไม่ไกลมากแล้ว ก็จะพบที่ทำการอุทยานแห่งชาติทับลาน มีจุดท่องเที่ยวสองแห่ง คือ ป่าลานบริเวณที่ทำการฯ และ ป่าลานบริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยาน ทล.13 มีลานกางเต็นท์ และบ้านพักอุทยานฯ ให้เลือก
หลักจากติดต่อเจ้าหน้าที่เรื่องที่พักแล้ว เดินสำรวจชมป่าลานต่อ ต้นลานเป็นพรรณไม้ดึกดำบรรพ์ในวงศ์ปาล์มที่พบได้ยากในประเทศไทย ลำต้นสูงและใบใหญ่เป็นรูปพัดคล้ายใบตาล ปัจจุบันมีให้ชมเพียงบริเวณบ้านทับลาน บ้านขุนศรี บ้านบุพราหมณ์ และบ้านวังมืด จ.ปราจีนบุรีเท่านั้น
นอกจากที่ทำการอุทยานฯ ยังมีต้นลานที่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ทล.13 บ้านสวนห้อม ลักษณะเป็นเนินเขาสูงที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม ส่วนที่พักก็มีบ้านพักอุทยานฯ ลานกางเต็นท์ ห้องน้ำให้บริการเช่นกัน
ช่วงเย็นยังไม่ควรพลาดชมวิวพระอาทิตย์ตกผ่านเหล่าต้นลานแสนสวยงามและน่าอัศจรรย์
Day 3
จากบ้านพักอุทยานฯ และลานกางเต็นท์ หน่วยพิทักษ์ทล. 13 ช่วงเช้ามืดวันนี้ให้ตื่นเช้าเสียหน่อย เพราะเพียงแค่ออกมายืนหน้าบ้านพักก็จะได้เฝ้ารอชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น ช่วงฤดูหนาวอาจจะมีสายหมอกสวยๆ ผ่านป่าอันอุดมสมบูรณ์ให้ชมด้วย
ช่วงสาย ไปชมน้ำตกสวยๆ กันต่อ ได้แก่ น้ำตกสวนห้อม น้ำตกห้วยขมิ้น และน้ำตกห้วยใหญ่ ลักษณะของน้ำตกทั้งสามแห่ง เป็นหน้าผาสูงประมาณ 50 ม. กว้าง 30 ม. มีน้ำในช่วงฤดูฝนถึงหนาว นับเป็นจุดท่องเที่ยวเด่นอีกแห่งหนึ่งของทับลานเลย
บ่ายแก่ๆ ขับรถกลับมาตัวเมือง หากยังพอมีเวลา สำหรับสายสุขภาพอาจไปแวะซื้อสมุนไพรจาก ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ที่มีชื่อเสียงของปราจีนบุรี