เที่ยวหมู่เกาะแสนงาม ท่ามกลางความสะดวกสบายบนอ่าวนาง
จุดศูนย์กลางของการท่องเที่ยวกระบี่ต้องยกให้ อ่าวนาง เพราะบริเวณอ่าวนี้ เดินทางสะดวกมีทั้งเรือเหมาให้ไปเที่ยวกันเอง และบริการนำเที่ยวแสนสะดวกของทัวร์ต่างๆ มีทริปให้เลือกเยอะ ทั้งเที่ยวหมู่เกาะ และเที่ยวบนฝั่ง ทุกทริปเที่ยวง่ายไม่ต้องค้างแรม ออกเดินทางจากอ่าวนางในช่วงเช้า ช่วงเย็นๆ กลับมานอนอ่าวนางเหมือนเดิม ตลอดแนวหาดมีรีสอร์ต ร้านค้า ร้านอาหาร ให้เลือกมากมายสะดวกสบายที่สุด
Location จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถ.เพชรเกษม) ผ่านเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ถึงชุมพรใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ผ่าน อ.หลังสวน อ.ไชยา จากนั้นถึงสี่แยกพุนพิน จ.สุราษฏร์ธานี ให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 415 ไปจนถึงทางแยกทางหลวงหมายเลข 4 จากนั้นเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าสู่ อ.อ่าวลึก และเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4 อีกครั้ง จะถึงตัวเมืองกระบี่ จากนั้นเดินทางสู่อ่าวนาง ด้วยทางหลวงหมายเลข 4023 ห่างจากตัวเมืองกระบี่ 20 กม.
ไม่อยากขับรถเหนื่อย นั่งรถนาน ใช้บริการสายการบินต่างๆ ชั่วโมงเดียวก็เที่ยวได้แล้ว
ช่วงน่าเที่ยวอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายน – เมษายน
วันแรก
อ่าวนาง นับเป็นประตูสู่การท่องเที่ยวหมู่เกาะในทะเลกระบี่ เพราะไมไกลจากหาดนี้ใช้บริการแพกเกจทัวร์ไปเที่ยวกันได้หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น หมู่เกาะปอดะ ที่มีทะเลแหวก (เกาะไก่ เกาะทับ เกาะหม้อ) เป็นไฮไลท์ควบคู่กับการเที่ยวเกาะปอดะ หรือจะเลือกไปเที่ยวหมู่เกาะพีพี ก็นับเป็นทริปที่ยังคงนิยมกันอยู่ไม่น้อย ซึ่งทั้งสองทริปใช้เวลาเที่ยวชมในแบบเช้ากลับเย็น หากคุณต้องการไปเที่ยวทั้งสองทริปก็ควรมีเวลาอย่างน้อย 3 วัน 2 คืน และหากใครที่มีเวลาเที่ยวถึง 4 วัน 3 คืนยังมีทริปเที่ยวบนฝั่ง ให้ไปชมสระมรกตแสนสวยกัน
ช่วงเช้าในวันแรก หากคุณจับจองทัวร์ไปเที่ยวหมู่เกาะปอดะไว้แล้ว รถของทัวร์จะมารอรับคุณถึงรีสอร์ต เพื่อพาไปยังท่าเรือ จากนั้นออกเดินทาง เรือจะพาคุณไปเที่ยวชมอ่าวไร่เลย์ตะวันออกเป็นแห่งแรก เดินชมวิวทะเลสวยๆ ได้ตลอดแนวหาด หรือไปชมฝรั่งเขาปีนหน้าผาสูงชันกัน โดยกิจกรรมปีนหน้าผาบนอ่าวไร่เลย์นั้นนับเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของอ่าวแห่งนี้เลยทีเดียว จากนั้นเดินทางต่อไปยังถ้ำพระนาง หน้าถ้ำมีชายหาดสวยให้เดินชม และเล่นน้ำทะเลได้เป็นอย่างดี
ถัดจากเที่ยวชมถ้ำพระนาง หากเป็นช่วงวันเวลาที่น้ำทะเลลดลงในช่วงเช้าของวัน ไกด์จะพาคุณไปเที่ยวชมทะเลแหวกกันต่อ ทะเลแหวกนับเป็น Unseen in Thailand ของ จ.กระบี่ เป็นสันทรายขาวสะอาดสวยงามที่เกิดขึ้นมากลางทะเลโดยเชื่อมเกาะสามเกาะเข้าไว้ด้วยกัน ได้แก่ เกาะไก่ เกาะทับ เกาะหม้อ โดยปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นทุกวัน ส่วนใหญ่จึงนิยมนั่งเรือจากอ่าวนางมาชม และนอนพักผ่อนเล่นน้ำทะเลบริเวณทะเลแหวกกันทั้งวัน
ช่วงเที่ยง เดินทางจากทะเลแหวกสู่ถึงเกาะปอดะ เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน และพักผ่อนเล่นน้ำตามอัธยาศัย เกาะปอดะห่างจากอ่าวนางประมาณ 8 กม. มีชายหาดทอดยาวตั้งแต่ทางด้านทิศเหนือจนถึงทิศใต้ ยกเว้นทางด้านทิศตะวันตกที่เป็นภูเขาหินปูนทำหน้าที่คอยเป็นกำบังลม ตลอดแนวหาดร่มรื่นไปด้วยทิวสน เล่นน้ำได้อย่างดี
เกาะปอดะ นับเป็นเกาะสุดท้ายของทริปเที่ยวชม 4 เกาะสวย ช่วงเวลาประมาณบ่ายสอง ไกด์จะเรียกขึ้นเรือเพื่อเดินทางกลับสู่ท่าเรือ จากนั้นมีรถคอยบริการส่งถึงรีสอร์ตที่พัก ช่วงเวลาที่เหลือหากไม่พักผ่อนเล่นน้ำในสระว่ายน้ำของรีสอร์ต จะมาเดินเล่นชมบรรยากาศอ่าวนาง จนถึงช่วงพระอาทิตย์ตกก็ได้ แถมช่วงค่ำๆ บริเวณหาดยังมีร้านอาหารให้เลือกชิมกันหลายร้านด้วย
วันที่ 2
หลังอาหารเช้า หากคุณจับจองทริปเที่ยวหมู่เกาะพีพีไว้ตั้งแต่เมื่อวาน เช้านี้จะมีรถมารถรับคุณเหมือนเช่นเคย เดินทางถึงท่าเรือลงเรือเร็วเพื่อมุ่งหน้าสู่เกาะพีพี ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ถึงเกาะพีพีเลเป็นแห่งแรก เกาะพีพีเล เป็นเกาะหินปูนขนาดใหญ่ที่โอบล้อมอ่าวมาหยาอันขึ้นชื่อไว้อยู่ด้านใน ทำให้น้ำทะเลในบริเวณอ่าวนิ่งสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนเล่นน้ำ ส่วนชายหาดมีความขาวสะอาดทอดยาว มองออกไปเห็นวิวภูเขาหินปูนอันสวยงาม
ใช้เวลาเล่นน้ำทะเล เก็บภาพประทับใจกันประมาณ 1 ชม. ได้เวลาเดินทางไปเที่ยวอ่าวปิเละไปชมทะเลใน สระสีเขียวมรกตที่โอบล้อมไปด้วยหน้าผาหินปูนสูงชัน ส่วนถ้ำไวกิ้ง เป็นถ้ำสัมปทานรังนก บางช่วงเวลาสามารถขึ้นไปเที่ยวชมภาพเขียนสีโบราณได้
จากนั้นเดินสู่เกาะพีพีดอน บริเวณอ่าวโละดาลัม ทางฝั่งตะวันตกของเกาะ รับอาหารกลางวัน และพักผ่อนกันตามอัธยาศัย หากคุณไม่พักผ่อนเล่นน้ำทะเลบริเวณอ่าวโละดาลัม จากอ่าวนี้ยังมีเส้นทางเดินเท้าไปยังอ่าวต้นไทร เป็นอ่าวทางด้านทิศตะวันออกของเกาะ นอกจากจะเป็นท่าเรือหลักของเกาะพีพีดอนแล้ว ยังเป็นแหล่งอันคึกคักไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และร้านทัวร์ดำน้ำหลายแห่ง เหมาะสำหรับเดินมาชมบรรยากาศ ชมทิวทัศน์สวยๆ ก่อนเดินกลับไปอ่าวโละดาลัมเพื่อเดินทางกันต่อ เวลาที่เหลือไกด์จะพาไปดำน้ำชมปะการังกันบริเวณที่เรียกว่า หินกลาง และพาไปเที่ยวเกาะไผ่ เกาะๆ ใกล้เกาะพีพีดอน ที่มีหาดทายขาวสะอาดให้พักผ่อนเล่นน้ำทะเลเป็นจุดสุดท้าย จากนั้นช่วงเวลาประมาณ 17:00 น. เดินทางกลับท่าเรือบนฝั่ง โดยมีรถพร้อมส่งคุณถึงรีสอร์ตเช่นเดิม
วันที่ 3
หากคุณไม่มีเวลาเที่ยวอีกหนึ่งคืน หลังอาหารเช้าวันนี้ก็ได้เวลาแพ็กสัมภาระคืนห้องพัก และเดินทางกลับบ้านกัน ส่วนใครที่ยังมีเวลาเหลืออีกหนึ่งคืน และอยากเปลี่ยนบรรยากาศเที่ยวบนฝั่งบ้าง วันนี้ยังมีทริปเที่ยวสระมรกต แช่ธารน้ำตกร้อนให้ไปเที่ยวชมกัน ช่วงเช้ารถมารับ และนำคุณสู่ อ.คลองท่อม ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. ถึงน้ำตกร้อน เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยว Unseen in Thailand ของกระบี่ นอนแช่น้ำผ่อนคลายร่างกายผ่านชั้นน้ำตกหินปูนเล็กๆ ได้อย่างสบายใจ ใช้เวลาแช่น้ำประมาณ 15 นาทีก็เพียงพอแล้ว จากนั้นไปดูวิถีเกษตรกร ชมการกรีด และการแปรรูปยางพารา ชมการสาธิตเสร็จพักรับประทานอาหารกลางวัน ท่ามกลางบรรยากาศอันร่มรื่น
ช่วงบ่าย เดินทางสู่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประบางคราม เที่ยวชมป่าดิบชื้นผืนสุดท้ายของประเทศไทย และนกแต้วแล้วทองดำ นกหายากที่เคยคิดกันว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว แต่กลับมาพบที่ป่าแห่งนี้อีกครั้งหนึ่ง จากนั้นเข้าไปเที่ยวชมความมหัศจรรย์ของ สระมรกต สระน้ำกลางป่าที่มีสีเขียวมรกตสมชื่อ นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้ตามอัธยาศัย เสมือนสระว่ายน้ำขนาดใหญ่กลางธรรมชาติอันร่มรื่นเลยทีเดียว
และหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งตัวให้แห้งกันเรียบร้อยแล้ว ยังมีรายการไปเที่ยว วัดถ้ำเสือ เป็นรายการปิดท้ายให้ไปชมต้นไม้พันปีในหุบเขาคีรีวงศ์ เจ้าแม่กวนอิม ศาลหลวงปู่ทวด วัดถ้ำเสือ จนกระทั่งเวลา 14:00 น. เดินทางกลับอ่าวนาง รถส่งถึงโรงแรมที่พัก
ช่วงเวลาที่เหลือเหมาะสำหรับเดินเที่ยวชมอ่าวนาง ช้อปปิ้ง หรือชมพระอาทิตย์ตกสวยๆ เป็นการสั่งลาอ่าวนาง วันรุ่งขึ้นเก็บสัมภาระ เดินทางกลับกรุงเทพฯ