ฝนมาพากันไปล่องแก่งสนุกระดับประเทศ
ช่วงฤดูฝนพรำแบบนี้สำหรับคนชอบผจญภัยจะรู้ดีว่าพิษณุโลกในช่วงนี้เที่ยวสนุกที่สุด เพราะกิจกรรมล่องแก่งเรือยางบนลำน้ำเข็กได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ด้วยลักษณะของสายน้ำที่มีแก่งน้อยใหญ่ให้ฝ่าฟันกันตลอดทาง สายน้ำเข็กจึงถูกยกย่องให้เป็นเส้นทางล่องแก่งที่มีอัตราความสนุกติดอันดับต้นๆ ของประเทศไทย และไม่แปลกที่ผู้กล้าหลายคนอยากจะมาทดสอบฝีมือ ล่องแก่งน้ำเข็ก และเป็นหนึ่งในผู้พิชิตลำน้ำแห่งนี้
Location: ทางหลวงหมายเลข 12 (พิษณุโลก-หล่มสัก) อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 32 ผ่านอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ผ่าน อ.ตากฟ้า อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ และ อ.ทับคล้อ อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร เส้นทางนี้จะไปเชื่อมกับทางหลวงหมายเลข 12 ที่แยก อ.วังทอง
แม่น้ำเข็ก เป็นแม่น้ำที่ขนานไปกับทางหลวงหมายเลข 12 (พิษณุโลก-หล่มสัก) ที่มีต้นน้ำเชื่อมต่อมาจากเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เป็นลำน้ำขนาดไม่ใหญ่นัก ในช่วงฤดูฝนน้ำจะมาก และเป็นสีน้ำตาล ส่วนในช่วงฤดูแล้งน้ำจะน้อยเป็นสีเขียวใส มองเห็นแก่งหินต่างๆ
สำหรับเส้นทางล่องแก่งลำน้ำเข็กจะอยู่ในช่วง อ.วังทอง นับเป็นช่วงที่มีแก่งหินเล็กๆ และแก่งหินใหญ่ให้ล่องกันเป็นจำนวนมาก บางแห่งเป็นแก่งสูงเสมือนน้ำตก ส่วนบางแก่งเป็นโขดหินยาวกว่า 200 ม. ในช่วงฤดูฝนที่มีน้ำมากกิจกรรมล่องแก่งบนสายน้ำเข็กจึงมีแก่งให้ลุยสนุกตลอดทาง
- ระดับความยาก: 1-5 (ง่าย-ยากที่สุด)
- ระยะเวลา/ระยะทาง: 2-3 ชม./9 กม.
ในช่วงฤดูฝนแบบนี้หากใครคันไม้คันมืออยากล่องแก่งพิชิตลำน้ำเข็ก บนทางหลวงหมายเลข 12 ในช่วง อ.วังทอง คุณจะไม่ผิดหวัง เพราะตลอดสองข้างทางจะมีผู้ให้บริการล่องแก่งกันอยู่หลายเจ้า หรือจะติดต่อผ่านทางรีสอร์ต และร้านอาหารที่ตั้งอยู่สองฝั่งทางหลวงแห่งนี้ก็ได้
เมื่อได้ผู้ประกอบการที่ถูกใจแล้ว ก็ได้เวลาจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าหน้าผมเตรียมตัวสำหรับล่องแก่งให้พร้อม
จากนั้นผู้ประกอบการจะทำการซักซ้อมการพาย และทำความเข้าใจกับการล่องแก่งบนสายน้ำเข็ก เมื่อพร้อมกันแล้วก็จะนำคุณไปยังจุดเริ่มต้นการล่องแก่งที่สะพานบ้านท่าขาม
กิจกรรมล่องแก่งเรือยางแม่น้ำเข็ก คุณสามารถมาล่องแก่งได้ตั้งแต่มิถุนายนถึงพฤศจิกายนของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงที่แม่น้ำเข็กมีระดับน้ำสูงพอ เส้นทางช่วงแรกๆ จะเป็นสายน้ำนิ่งๆ เอื่อยๆ เพื่อให้คุณได้คุ้นเคยกับใช้ไม้พาย และชื่นชมบรรยากาศรอบด้านเสียก่อน
จากนั้นไม่นานก็จะเริ่มเข้าสู่ความสนุกของสายน้ำแห่งนี้กัน โดยจะเริ่มผ่านแก่งต่างๆ ได้แก่ แก่งท่าข้าม แก่งต้นไทร แก่งเวฟยาว แก่งพนาวัลย์ แก่งมรดกป่า แก่งปากยาง แก่งหินลาด และแก่งวังตะเยน
ในช่วงนี้แก่งจะมีความยากในระดับกลางๆ ประมาณระดับ 1-3 เรียกได้ว่าพอหอมปากหอมคอ วอร์มอัพก่อนจะไปเจอคลื่นใหญ่ๆ ชวนหวาดเสียว
เมื่อพ้นจากช่วงแรกจะเริ่มเข้าสู่ช่วงที่มีแก่งใหญ่ๆ ให้เร้าใจมากกว่าเดิม ได้แก่ แก่งสบยาง แก่งสวนรัชมังคลา แก่งซาง แก่งโสภาราม แก่งดงสัก แก่งนางคอย แก่งยาว และแก่งหิน แก่งสุดท้ายที่มีความยาวกว่า 200 ม. สายน้ำลาดเอียงลง 45 องศา มีความยากอยู่ในระดับ 4-5 นับเป็นแก่งที่มีความยากที่สุดของแม่น้ำเข็ก รวมแล้วใช้เวลาล่องแก่งประมาณ 2-3 ชม. ผ่านแก่งต่างๆ กว่า 15 แก่ง บนระยะทาง 9 กม. เศษ
หากคุณมากับคณะของ pop tour ก็จะถึงจุดขึ้นจากแม่น้ำที่ วนธารา เฮลท์ รีสอร์ท แอนด์ สปา อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า รับของว่าง และเครื่องดื่มให้หายเหนื่อย ก่อนจากอย่าลืมถ่ายภาพคู่กับป้าย ครั้งหนึ่งในชีวิต ข้าคือผู้พิชิตสำน้ำเข็ก เป็นที่ระลึกกลับไปด้วย
จบทริป ล่องแก่งน้ำเข็ก เที่ยวต่อเนื่องไปที่เขาค้อ สัมผัสบรรยากาศสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทยก็น่าประทับใจไม่น้อย ยิ่งหน้าฝน อากาศเย็นสบาย สดชื่น มองไปทางไหนก็เขียวสด แถมราคาที่พักยังลดพิเศษอีกด้วย