เที่ยวใกล้กรุงได้บรรยากาศเชียงใหม่
ด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์สวยงาม มีเทือกเขาตะนาวศรีส่วนหนึ่งและเทือกเขากระโจมส่วนหนึ่ง โอบล้อมพื้นที่ สวนผึ้ง ไว้ทำให้ที่นี่อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี เหมาะกับการพักผ่อนโดยเฉพาะคนกรุง ขับรถไม่ทันเหนื่อยก็ถึงแล้ว ที่สำคัญมีกิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย
Location อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
ขับรถไปเที่ยวเองจากกรุงเทพฯ-ราชบุรี
มี 2 เส้นทางที่จะไปสวนผึ้ง เส้นทางแรก ทางหลวงหมายเลข 4 (ถ.เพชรเกษม) หรือสายพุทธมณฑลผ่าน จ.นครปฐม แล้วเลี้ยวซ้ายผ่าน อ.โพธาราม ถึงตัวเมืองราชบุรี จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 3087 จะผ่าน อ.จอมบึง เข้า อ.สวนผึ้ง รวมระยะทางประมาณ 160 กม.
เส้นทางที่สอง จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 เส้นทางสายธนบุรี-ปากท่อ (ถ.พระราม 2) ผ่าน จ.สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เมื่อถึง อ.ปากท่อ ให้เลี้ยวขวาเข้าตัวเมืองราชบุรี จากนั้นเลี้ยวซ้ายตามทางหลวงหมายเลข 3208 ผ่าน อ.บ้านคา จนถึง อ.สวนผึ้ง
ทั้ง 2 เส้นทาง มีระยะทางพอๆ กัน แล้วแต่ว่าจะสะดวกใช้เส้นไหน ระหว่างทางจะมีที่เที่ยวให้แวะชมก่อนเข้าสวนผึ้ง ด้วยระยะทางขับรถเพียง 2-3 ชม. หากออกจากกรุงเทพฯ ไม่เกิน 9 โมงเช้า แวะเที่ยวรายทางแบบไม่รีบร้อน จะไปถึงช่วงบ่ายแก่ๆ เช็คอินเข้าที่พักแบบสบายๆ
ฤดูหนาวสวยสุด ฤดูฝนอากาศเย็นสบาย เขียวชะอุ่ม
สวนผึ้ง เป็นอำเภอชายแดนทางทิศตะวันตกสุดของจังหวัดราชบุรี เป็น 1 ใน 5 ของจังหวัดภาคตะวันตก แม้ว่าจะเป็นภาคที่มีสมาชิกน้อยที่สุด แต่กลับมีธรรมชาติและสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าตื่นตาไม่แพ้ภาคใดๆ เลย ในอดีตเป็นตำบลขึ้นอยู่กับ อ.จอมบึง มีพื้นที่กว้างขวาง เต็มไปด้วยป่าไม้ ภูเขา การเดินทางยุคนั้นไม่ง่าย หนทางทุรกันดาร ผู้คนท้องถิ่นสมัยนั้นส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง
ต่อมารัฐบาลเริ่มเข้ามาพัฒนาในด้านต่างๆ ช่วง พ.ศ.2511-2514 ในวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2517 กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศยกระดับขึ้นเป็น กิ่งอำเภอสวนผึ้ง อีก 9 ปีต่อมา วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2526 จึงเป็นอำเภอสวนผึ้ง ถึงปัจจุบัน แบ่งออกเป็น 4 ตำบล คือ ต.สวนผึ้ง ต.ป่าหวาย ต.ท่าเคย และ ต.ตะนาวศรี
แม้จะเป็นอำเภอที่ไกลสุดของราชบุรี แต่ก็ไปถึงได้รวดเร็ว บรรยากาศว่ากันว่าเหมือนเชียงใหม่ วันหยุดสัปดาห์ที่นี่จึงมีชาวกรุงที่มีเวลาจำกัดมาท่องเที่ยว มีรีสอร์ตสวยๆ มากมายให้เลือกพักผ่อน
จากเมืองเหมือง สู่เมืองท่องเที่ยว
ด้วยความที่เป็นอำเภอสุดชายแดนราชบุรีติดสันเขาตะนาวศรี นอกจากภูมิประเทศจะเต็มไปด้วยป่าเขาหุบห้วย มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์แล้ว ยังพบแร่ดีบุกตามสันเขาอีกหลายแห่ง จึงมีการขุดร่อนแร่มาตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ เมื่อก่อนสวนผึ้งเป็นเมืองกันดารขาดการติดต่อสัญจร หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เปิดการค้าเสรี มีสัมปทานทำเหมืองแร่เป็นล่ำเป็นสัน
เมื่อมีสัมปทานบัตรขุดแร่ดีบุก เหมืองก็ถูกพัฒนา ถนนตัดเข้าเหมืองเพื่อลำเลียงเครื่องจักรไอน้ำ เครื่องยนต์ดีเซล เครื่องกลหนักมาใช้ ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาเป็นประชากรของเหมืองมากมายนับร้อยนับพัน เกิดชุมชน ตลาด มีไฟฟ้า น้ำบาดาล มีวัด โรงเรียน สถานีอนามัย ร้านค้า แม้กระทั่งบาร์และบ่อนเพื่อความบันเทิงในยุคนั้น สวนผึ้งจึงคึกคักและเริ่มมีการคมนาคมติดต่อกับผู้คนภายนอก
ต่อมาเมื่อแร่ดีบุกหมด เหมืองก็ค่อยๆ ร้างราผู้คนที่ต่างอพยพไปอยู่ที่อื่น สวนผึ้งกลับสู่ความเงียบเหงา แต่ยังคงมีการค้าขายที่ชายแดน จนกระทั่งด่านปิดตัวลง ความซบเซาจึงเข้ามาปกคลุม
ภูมิประเทศ ของสวนผึ้งนั้นขนาบด้วยเทือกเขาตะนาวศรีเป็นพรมแดนตะวันตก มีทั้งป่าเขา น้ำตก แม่น้ำภาชีสายยาวหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คน ต้นไม้และสัตว์ป่า ในแนวป่าลึกติดชายแดนไทยกับพม่านั้น มีต้นไม้ใหญ่เป็นที่โปรดปรานของผึ้งและมิ้มมาทำรังอยู่มากมาย บางต้นเป็นร้อยๆ รัง
ชาวบ้านและชาวกะเหรี่ยงจะอาศัยตีรังผึ้งที่หวานหอมบริสุทธิ์จากดอกไม้ป่า ต้นไม้ที่ผึ้งมาอาศัยนี้ชาวกะเหรี่ยงเรียกว่า ไหมซ่าเลียง คนไทยเรียกว่า ต้นชวนผึ้ง หรือต้นยวนผึ้ง อันเป็นที่มาของชื่ออำเภอ
มีบทกลอนที่แสดงเอกลักษณ์ของสวนผึ้งว่า สาวกะเหรี่ยงเคียงถิ่นตะนาวศรี ลำภาชีแก่งส้มแมวหินผา ธารน้ำร้อนบ่อคลึงตรึงติดตา น้ำผึ้งป่าหวานซึ้งตรึงใจ
แม้ปัจจุบันน้ำผึ้งป่าที่บริสุทธิ์จะมีน้อยลงกว่าในอดีต แต่ก็ยังมีชาวบ้านที่นำน้ำผึ้งแท้จากป่ามาวางขายให้เห็นอยู่บ้าง หากคุณโชคดีไปพบก็อย่าให้หลุดมือไปเชียว
หลังจากสิ้นสุดกิจการเหมืองแร่ สวนผึ้งที่เงียบเหงา ก็เริ่มเป็นที่รู้จักของคนเมืองกรุงเมื่อยุคเศรษฐกิจเบ่งบาน ช่วงปีพ.ศ. 2530-2538 ความงามตามธรรมชาติที่แวดล้อมไปด้วยป่าเขา ทำให้ผู้คนนิยมมาท่องเที่ยว เกิดการจัดสรรที่ดิน มีที่พักสไตล์รีสอร์ตเกิดขึ้นมากมาย ร้านอาหารสองข้างทางตั้งแต่ อ.จอมบึงเรื่อยมาจนสุดชายแดน ได้รับความนิยมขนาดเป็นแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับขวัญใจคนกรุงเลยทีเดียว
เที่ยวอะไรในสวนผึ้ง?
ก่อนถึงสวนผึ้ง จะผ่านที่เที่ยวมากมายหลายแห่งให้แวะเที่ยวรายทางได้ตั้งแต่ตลาดน้ำดำเนินสะดวก ถ้ำฤาษีเขางู ถ้ำเขาบิน ถ้ำจอมพล ถึงสวนผึ้งบ่ายแก่ๆ หรือเย็นๆ ก็เข้าพักผ่อนในรีสอร์ตที่คุณได้จับจองไว้
รีสอร์ตที่พักในสวนผึ้งมีนับร้อย หลายแห่งถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปด้วยในตัว เพราะมีกิจกรรมดึงดูดอื่นๆ ด้วย เช่น ฟาร์มแกะ สวนกล้วยไม้ บ่อน้ำร้อนธรรมชาติ พิพิธภัณฑ์ ฯลฯ นักท่องเที่ยวไม่น้อยเลือกมาพักผ่อนแบบสบายๆ ได้บรรยากาศเชียงใหม่โดยไม่ต้องขับรถไกล
จุดชมวิวห้วยคอกหมู
Location จาก อ.สวนผึ้ง ใช้ทางหลวงชนบท 4007 ทางไปบ้านบ่อหวี ระยะทาง 24 กม. เลยฟาร์มตัวอย่างบ่อหวีไปจะพบทางแยกขวามือพร้อมป้ายบอกทางอีก 8 กม. ถึงฐานตชด.137 จอดรถแล้วเดินไปชมวิวได้เลย
จุดชมวิวห้วยคอกหมู เป็นแนวหน้าผาชายแดนไทย-พม่า อยู่ในแนวเทือกเขาตะนาวศรี มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 867 ม. ลักษณะเป็นภูเขาแหลมลึกเข้าไปในแดนพม่า บริเวณยอดเป็นที่ตั้งของหน่วยตชด.137 ที่ร่วมกับอบต.ตะนาวศรี เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้ขึ้นมาชมวิวทิวทัศน์ทะเลหมอก มองเห็นป่าไม้เขตเมืองมะริด ระหว่างทางขึ้นบริเวณกม.ที่ 6 จุดพักรถก็มีจุดชมวิวได้สวยเช่นกัน
ใครอยากแค้มปิ้งที่นี่ก็ติดต่อเจ้าของพื้นที่ได้เลย มีห้องน้ำให้บริการ เตรียมเสบียงไปให้พร้อม
แก่งส้มแมว
Location ใช้เส้นทางเดียวกับทางไปจุดชมวิวห้วยคอกหมู ตามทางหลวงชนบทรบ. 4007 ห่างจากตัว อ.สวนผึ้ง 26 กม. จะเห็นป้ายป่าสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ด้านซ้ายมือ ขับรถเข้าไปด้านในจะถึงแก่งส้มแมว
แก่งส้มแมว มีลำน้ำภาชีไหลผ่าน เหมาะกับการพักผ่อนเล่นน้ำ นำอาหารเข้าไปปิกนิกได้ นอกจากนี้ยังมีศูนย์จำหน่ายเซรามิค หอทอดพระเนตร และเรือนประทับให้ชมด้วย
ใกล้กับแก่งส้มแมวเป็นที่ตั้งของอ่างเก็บน้ำห้วยอะนะ จากแก่งส้มแมวใช้เส้นทางชนบท รบ.4007 ต่อไปอีก 10 กม. เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าแม่น้ำภาชี
นับเป็นอ่างเก็บน้ำที่ใหญ่ที่สุดของอ.สวนผึ้ง จะไปชมทิวทัศน์ ตกปลา ติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนทุกครั้ง ทุกปีที่แห่งนี้จะมีเยาวชน นักศึกษา มาจัดกิจกรรมเข้าค่ายค้างแรมกันเป็นประจำ
เขากระโจม
Location ห่างจากตัวอำเภอ 23 กม. เส้นทางช่วงแรกเป็นทางลาดยางไปจนถึงตีนเขาตามทางหลวงหมายเลข 3087 ระยะทาง 14 กม. จากนั้นทางจะเริ่มขึ้นเขาไปอีก 10 กม. ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ และฝีมือในการขับ วิธีที่ดีที่สุดคือใช้บริการรถนำเที่ยวท้องถิ่น ปลอดภัย บริการดี ติดต่อได้จากรีสอร์ตที่คุณเข้าพัก
เขากระโจม เป็นหนึ่งในเทือกเขาชายแดนไทย-พม่า อยู่แนวเทือกเขาตะนาวศรี เป็นจุดชมทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดของสวนผึ้ง มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,045 ม. พื้นที่แถบนี้เป็นที่อยู่อาศัยของชุมชนกะเหรี่ยงที่อพยพมาจากเมืองทวายของพม่า ชาวกะเหรี่ยงเรียกยอดเขานี้ว่า เขาลันดา หมายถึงภูเขาที่มีที่ราบ ส่วนคนไทยรุ่นที่เข้าไปทำเหมืองดีบุกในอดีตเห็นว่ารูปร่างของยอดเขามองดูคล้ายกับกระโจมอินเดียนแดง จึงได้เรียกชื่อใหม่ว่า เขากระโจม
บนเขากระโจมเป็นที่ตั้งของหน่วยตชด.1000 ชาวบ้านบางคนจึงเรียกเขากระโจมว่า เนิน 1000 ลักษณะเป็นเนินกว้างโล่งๆ รอบด้าน ชมวิวสวยงามของเทือกเขาตะนาวศรีฝั่งพม่า วิวอาทิตย์ขึ้น มีอากาศเย็นสบาย หน้าหนาวเหมือนยืนอยู่บนดอยที่เชียงใหม่ทีเดียว ใครอยากแค้มปิ้งที่นี่ก็ทำได้
ไม่ว่าคุณจะตั้งเต็นท์แถบนี้หรือพักในรีสอร์ต ต้องตื่นกันแต่ตีสี่เพื่อเดินทางโดยรถขับเคลื่อนสี่ล้อขึ้นมาบนเขา เฝ้ารอชมแสงแรกแห่งอรุณรุ่ง จนสายๆ นั่นล่ะค่อยลง
น้ำตกเก้าชั้น
Location จาก อ.สวนผึ้ง ใช้ทางหลวงหมายเลข 3087 จนถึงภูผาผึ้งรีสอร์ท เลี้ยวซ้ายตามทางไปบ่อน้ำร้อนบ่อคลึง-น้ำตก 9 ชั้น ไปจนถึงลานจอดรถน้ำตก รวมระยะทางประมาณ 18 กม.
น้ำตกเก้าชั้น หรือเรียกอีกชื่อว่า น้ำตกเก้าโจน หมายถึงมีน้ำกระโจนลงมาเป็นชั้นๆ ทั้งหมด 9 ชั้น ต้นน้ำมาจากเทือกเขาตะนาวศรี เป็นน้ำตกหินแกรนิตขนาดใหญ่มีน้ำตลอดปี แต่สวยงามที่สุดคือช่วงปลายฝนต้นหนาว
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมไปพักผ่อนเล่นน้ำที่น้ำตกชั้น 1 และ 2 ซึ่งมีแอ่งให้ลงเล่น ใครไหวก็เดินไปชมวิวน้ำตกชั้น 4 แล้วกลับ เนื่องจากมีเส้นทางเดินเท้าที่ชัดเจน ไม่มีหลง
หากต้องการพิชิตน้ำตกชั้นสูงขึ้นไปต้องติดต่อผู้ชำนาญทาง เตรียมเสบียงน้ำดื่มไปให้พร้อม จากชั้น 1 ไปจนถึงชั้น 9 ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง น้ำตกชั้นที่ 6 เป็นชั้นที่สวยที่สุด
ธารน้ำร้อนบ่อคลึง
Location จากน้ำตก 9 ชั้น ย้อนกลับมาทางเดิมที่เพิ่งผ่านไป น้ำพุร้อนบ่อคลึงอยู่ห่างจากน้ำตกเพียง 1 กม. เท่านั้น
ธารน้ำร้อนบ่อคลึง มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาตะนาวศรี น้ำผุดตลอดปี อยู่ที่บ้านห้วยผาก เขตที่ดินของเอกชน มีคุณประยูร โมนยะกุล ได้เข้ามาบุกเบิกและขุดค้นพบตาน้ำร้อนนี้เมื่อ พ.ศ. 2468 ต่อมาได้พัฒนาพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปได้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวมีชื่อของสวนผึ้ง
จากลานจอดรถเดินไปเพียง 100 ม. ก็จะพบกับบ่อน้ำร้อนกลางแจ้งธรรมชาติ (บ่อดิน) ขนาดเท่ากับสระว่ายน้ำขนาดกลาง มีการปรับปรุงพื้นที่โดยรอบให้เข้าไปแช่น้ำแร่น้ำอุ่นได้ แยกเป็นบ่อรวมชาย-หญิง
หลังจากแช่น้ำร้อนในบ่อแล้ว แวะเดินไปอีก 200 ม. ตามป้ายบอกทางสู่ต้นธารน้ำร้อนบ่อคลึง ระหว่างทางจะเห็นธารน้ำร้อนเล็กๆ ที่ค่อยๆ ไหลเอื่อยลงบ่อน้ำร้อนด้านล่าง เมื่อใกล้ถึงต้นน้ำ จะเป็นลำธารกว้าง มีก้อนหินกระจายอยู่ทั่วไป
อุณหภูมิสูงสุดของต้นธารน้ำร้อนบ่อคลึง ประมาณ 56 องศาเซลเซียส ด้านหน้าทางเข้าน้ำพุร้อน มีรีสอร์ตชื่อ เจดับบลิวบ่อคลึง บริการห้องพักและอ่างแช่นำ้แร่ภายในห้องให้บริการ
สำหรับนักนิยมธรรมชาติที่อยากจะมีพักผ่อนที่ร่มรื่นร่มเย็นกับการตั้งเต็นท์ริมน้ำใสไหลเย็นของลำน้ำภาชีที่น่าลงเล่น ต้องที่นี่เลย บ้านสวนปองทองแคมปิ้ง&ฟิชชิ่ง
Location เดินทางจากหน้าที่ว่าการอ.สวนผึ้ง เข้าบ้านสวนระยะทางเพียง 4 กม.
ที่พักแนวบ้านสวนธรรมชาติ อยู่ติดห้วยน้ำลำภาชีอันเงียบสงบ เป็นลำธารน้ำที่ไหลมาจากเทือกเขาตะนาวศรี เดินทางสะดวก อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งใน อ.สวนผึ้ง
จะมาแนวครอบครัว กลุ่มเพื่อนฝูง หรืออยากจะมาจัดกิจกรรมกับหน่วยงาน ที่นี่มีความพร้อมต้อนรับทุกความต้องการเสมอ
The Scenery Vintage Farm Resort
Location จากสวนผึ้ง ใช้ทางหลวงหมายเลข 3087 (ทางไปน้ำตกเก้าชั้น) ระยะทาง 5 กม. เลี้ยวซ้ายเข้าไปอีก 4 กม. โทร. 081 000 7070
จากเมื่อก่อนเปิดเป็นรีสอร์ตเพื่อการพักผ่อน พร้อมกับการเลี้ยงแกะเพื่อเป็นสีสัน เมื่อนักท่องเที่ยวมาเที่ยวต่างบอกต่อเป็นเสียงเดียวกันว่าน่ารัก น่าไป ทำให้ที่นี่เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมมากมาย โดยยังมีแกะเป็นพระเอกรอต้อนรับผู้มาเยือนอย่างกับเป็นเพื่อนสนิท
รีสอร์ตยังมีอาหาร ขนม มุมถ่ายภาพถูกใจคนรุ่นใหม่ยิ่งนัก ใครอยากได้ของที่ระลึกที่นี่ก็มีทั้งรูปปั้นตุ๊กตา แกะ หมวก ฯลฯ ให้ซื้อกลับกันได้ทุกคน
Location ใช้ทางเดียวกับทางไปแก่งส้มแมว ห่างจากที่ว่าการ อ.สวนผึ้ง 2 กม. ข้ามสะพานที่ 2 ไปจะเห็นพิพิธภัณฑ์ภโวทัยด้านซ้ายมือ
พิพิธภัณฑ์ภโวทัย หรือสวนภูมิปัญญาชาวบ้าน เป็นพิพิธภัณฑ์เรือนไทยประยุกต์ตั้งอยู่บนเนื้อที่ราว 20 ไร่ มีการจัดแสดงวัตถุโบราณของสยามในอดีต รวมทั้งมีรถม้า พันธุ์ไม้ดอก ไม้ประดับของไทยชนิดต่างๆ เช่น ดอกมณโฑ เป็นต้น มาเที่ยวกันได้ทั้งครอบครัว สำหรับกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษาที่จะเข้ามาดูงานเป็นหมู่คณะ ติดต่อมาล่วงหน้า
มีบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย
หลังจากเที่ยวสวนผึ้งมาจนครบแล้ว ยังมีอีกที่หนึ่งปิดท้ายได้เหมาะมาก นั่นคือ บ้านหอมเทียน เป็นร้านอาหารอีกแห่งของสวนผึ้ง ที่นี่ใช้วัตถุดิบที่ได้มาจากโครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริบ้านบ่อหวี และพุระกำ เมนูส่วนใหญ่เป็นแนวอาหารพื้นบ้าน
จุดเด่นอีกอย่างคือเป็นแหล่งของฝากจากเทียนหอมที่มีให้เลือกกันจุใจ ทั้งหมดเป็นเทียนหอมแฟนซีแฮนด์เมดทั้งหมด เหมาะกับเป็นของฝากระดับพรีเมียม
ได้ของฝากถูกใจ ได้อิ่มท้อง ได้เที่ยวสนุก พักสบาย เท่านี้ก็เป็นสุดสัปดาห์ที่ยอดเยี่ยมแล้วล่ะ… ก่อนเข้ากรุงเทพฯ ผ่าน อ.จอมบึง แวะดูค้างคาวออกจากถ้ำยามพลบค่ำที่เขาช่องพราน ตบท้ายทริปอย่างคุ้มค่าคุ้มเวลาสุดๆ