สวิสเซอร์แลนด์แดนอีสาน อากาศดี อาหารดี อารมณ์ดี
วังน้ำเขียว เป็นพื้นที่ที่ได้ชื่อว่ามีโอโซนติดอันดับ 1 ใน 7 ของโลก ทำให้เมืองที่น่ามาเที่ยว มาพักผ่อนตากอากาศ ที่กำลังมาแรงที่สุดในปัจจุบัน จนได้รับการขนานนามกันว่า “สวิสเซอร์แลนด์ แดนอีสาน” ความที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ เดินทางสะดวกจะขับรถไปเอง หรือใช้บริการรถตู้เพียงสองชั่วโมงกว่าก็ได้มาสูดอากาศดีๆ ได้อย่างง่ายๆ ใช้เวลาวันหยุดสุดสัปดาห์ก็เพียงพอ
Location อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
มี 2 เส้นทาง แต่ที่นิยมที่สุดคือเส้นทางสายกรุงเทพฯ–ฉะเชิงเทรา–พนมสารคาม–กบินทร์บุรี–วังน้ำเขียว จากกรุงเทพฯใช้เส้นทางสายมอเตอร์เวย์ ผ่านด่านเก็บเงินลาดกระบัง จากนั้นให้สังเกตุป้ายจ.ฉะเชิงเทรา ให้เลี้ยวไปตามป้ายจะมีทางเลี้ยวขวาไปตามป้ายพนมสารคาม ไปบรรจบกับทางหลวงหมายเลข 304 ขับรถตรงไปเรื่อยๆ ผ่านจ.ฉะเชิงเทรา อ.พนมสารคาม อ.กบินทร์บุรี และอุทยานฯทับลาน มุ่งตรงสู่ อ.วังน้ำเขียว รวมระยะทาง 235 กม. เป็นเส้นทางนี้นิยมที่สุดเพราะรวดเร็วที่สุด
เส้นทางที่สองคือ เส้นทางสายรังสิต–นครนายก–ปราจีนบุรี–วังน้ำเขียว จากกรุงเทพฯ ขับรถไปทางรังสิตมุ่งหน้าไปทางจ.นครนายก ตรงไปองครักษ์ ตามทางหลวงหมายเลข 305 ผ่านนครนายก ผ่านแยกขึ้นเขาใหญ่ไปทางจ.ปราจีนบุรี จากนั้นให้เลี้ยวไปตามทางหลวงหมายเลข 304 ช่วงนี้จะเป็นทางขึ้นเขาเล็กน้อยผ่านกบินทร์บุรี ผ่านอุทยานฯทับลาน มุ่งตรงสู่อ.วังน้ำเขียว รวมระยะทาง 255กม.
วังน้ำเขียวน่าเที่ยวตลอดปี
ไปเที่ยวอะไรที่วังน้ำเขียว?
จุดเด่นแรก ของวังน้ำเขียวก็คือเป็นดินแดนที่อากาศดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย และความที่อยู่ใกล้กรุงจึงเดินทางสะดวก วันหยุดสุดสัปดาห์ก็เที่ยวกันได้แล้ว
จุดเด่นที่สอง ของวังน้ำเขียวคือที่พักโดยเฉพาะรีสอร์ทแต่ละแห่ง ได้รับการออกแบบให้คุณสามารถพักผ่อนอยู่ภายในพื้นที่โดยที่ไม่ต้องออกไปไหนเลย แต่ละรีสอร์ทเขาจะมีจุดเด่น บ้างก็เป็นเรื่องของอาหารการกิน ผักปลอดสารพิษ ทำไวน์ ทำอาหารสุขภาพ โยคะ และเครื่องเล่นต่างๆ เรียกได้ว่าแต่ละรีสอร์ทล้วนมีจุดขายเป็นของตัวเอง
หากจะแยกกิจกรรมการท่องเที่ยวในวังน้ำเขียวแล้ว รับรองได้ว่าตอบโจทก์ความต้องการของทุกคนในครอบครัว เรียกได้ว่าถูกใจคนทุกวัย มาเที่ยวแล้วก็กลับมาเที่ยวได้อีกกับกิจกรรมสนุกไม่ซ้ำกันเลย ลองมาดูกัน…
ท่องเที่ยวสุขภาพ มาวังน้ำเขียวแล้วสุขภาพดีแน่นอน การท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนสุขภาพกายและใจ สัมผัสความเพลิดเพลินที่ได้จากธรรมชาติรอบตัว เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ กิจกรรมที่ทำได้ง่ายๆ ในการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ เช่น เดินป่าชมความงามของธรรมชาติ ชมทิวทัศน์ พักผ่อน นอน เดิน ขี่จักรยาน หรือจ๊อกกิ้งออกกำลังกาย และกินอาหารเพื่อสุขภาพทั้งผัก ผลไม้ ที่ได้จากแปลงผักสด เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
ท่องเที่ยวเชิงเกษตร
ทริปนี้ถูกใจรุ่นใหญ่ไฟกระพริบ ประมาณว่าพญาน้อยชมตลาดก็ว่าได้ เพราะวังน้ำเขียวเป็นแหล่งผลิตอาหารจากพืชผลนานาชนิด การเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่เกษตรกรรม สวนเกษตร วนเกษตร ฟาร์ม ปศุสัตว์ เพื่อชื่นชมความสวยงาม เรียนรู้วิถีชีวิต และเพลิดเพลินกับแหล่งเกษตรกรรมนั้น เช่น ชมฟาร์มเห็ดหอม ฟาร์มโคนม แปลงผักปลอดสารพิษ ชมสวน หรือการร่วมกิจกรรมโฮมสเตย์กับชาวบ้าน
รีสอร์ทหลายแห่งนอกจากจะให้บริการที่พักแล้ว ยังมีพื้นที่การเกษตรภายในให้คุณเที่ยวชม และร่วมกิจกรรมเก็บเกี่ยวพืชผลกันอย่างสนุกสนานด้วย อันนี้น่าพาลูกหลานไปซึมซับและเรียนรู้กัน
ลองมาดูทริปท่องเที่ยวเชิงเกษตรกันสักหน่อย…
MR.Mushroom วังน้ำเขียวฟาร์ม อินเตอร์
Location: ตั้งอยู่หมู่บ้านสุขสมบูรณ์ ใกล้กับอ่างเก็บน้ำสุขสมบูรณ์ ห่างจากปากซอย อบต.ไทยสามัคคี ประมาณ 11 กม.
ที่นี่นับเป็นฟาร์มเห็ดที่ใหญ่ที่สุดของ อ.วังน้ำเขียว ภายในฟาร์มไม่เพียงมีสินค้ามากมายให้จับจ่ายใช้สอย พื้นที่ร่มรื่นด้านนอกยังมีแปลงสวนผักนานาชนิดให้คุณเดินชม เดินชิมกันได้สดๆ จากต้น สำหรับกลุ่มคณะที่ต้องการชมโรงเพาะเห็ด รวมถึงขั้นตอนการเพาะเห็ดชนิดต่างๆ ก็ติดต่อมาล่วงหน้าได้ ทางฟาร์มจะจัดไกด์และเจ้าหน้าที่ให้ความรู้ตลอดทริปโดยเห็ดที่มีชื่อเสียงของที่นี่ก็มี ทั้งเห็ดหลินจือ เห็ดหอม เห็ดนางฟ้าภูฏาน เห็ดออรินจิ เห็ดโคนญี่ปุ่น และเห็ดหัวลิง ดูเพิ่มเติมที่ วังน้ำเขียวฟาร์ม อินเตอร์
ไร่ ป.ปราการ ผักปลอดสารพิษ
Location: ห่างจากปากซอย อบต.ไทยสามัคคีประมาณ 6 กม.
ไร่ ป.ปราการ หรือที่ชาวบ้านรู้จักในนาม สวนลุงเปีย เป็นไร่เกษตรอินทรีย์รุ่นบุกเบิกของวังน้ำเขียว และเป็นแหล่งผลิตพืชผักปลอดสารที่ส่งขายตามห้างใหญ่ๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ด้วยมันสมองและสองมือของลุงเปีย ที่ผันตัวเองจากมนุษย์เงินเดือนมาเป็นเกษตรกร ปลูกพืชให้ลูกหลานชาววังน้ำเขียว และคนไทยได้รับประทานกันทั่วประเทศ แม้ในปัจจุบันลุงเปียจะไม่ได้เปิดสวนเป็นที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร แต่ก็เข้าไปเยี่ยมชมและซื้อหาผักเมืองหนาวกลุ่มผักสลัด เช่น คอส กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค บัตเตอร์เฮด ฯลฯ กันได้ในบรรยากาศที่เป็นกันเอง ดูเพิ่มเติมที่ ไร่ ป.ปราการ ผักปลอดสารพิษ
สวนลุงไกร
Location: ห่างจากปากซอย อบต.ไทยสามัคคี ประมาณ 7 กม.
สวนลุงไกร เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ใครมาวังน้ำเขียวก็ต้องแวะมาชม มาชิม มาช้อปปิ้ง และมาฟังดนตรีบรรเลงสดๆ จากเสียงอันไพเราะของลุงไกร ตำนานวังน้ำเขียวที่ยังมีชีวิต ที่พร้อมขับกล่อมท่ามกลางบรรยากาศของสวนสวย แบบ Farm Outlet ศูนย์จำหน่ายสินค้าชุมชน แหล่งซื้อหาของฝากถูกใจทั้งผักปลอดสารพิษและสินค้าแปรรูปทางการเกษตรนานาชาติที่น่ารับประทานทั้งผักสลัด กระหล่ำปลีสีม่วง เบบี้แครอท คะน้าฮ่องกง ปวยเล้ง มะเขือเทศราชินี และอื่นๆ อีกเพียบ แถมยังมีที่พักสวยสไตล์บาหลีให้บริการอีกด้วย ดูเพิ่มเติมที่ สวนลุงไกร
สวนองุ่นป้าต้อย
Location: ด้านหลังที่ว่าการอ.วังน้ำเขียว ประมาณ 2 กม.
ในช่วงฤดูหนาวซึ่งเป็นฤดูเที่ยวชมสวนองุ่น สังเกตจากธงแดง สัญลักษณ์ที่ชาวบ้านจะปักไว้ว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเข้าชมสวน ไปเดินชมและชิมองุ่นไร้เมล็ดที่หวานที่สุด กรอบที่สุดจากสวนองุ่นป้าต้อย ได้สดๆ จากต้น สวนองุ่นไร้เมล็ดปลอดสารพิษที่พร้อมต้อนรับโดยมีป้าต้อย ทำหน้าที่ไกด์พาทัวร์พร้อมตัดองุ่นสดจากต้น จำหน่ายในราคาส่งซึ่งถูกกว่าซื้อจากตลาด หากไม่ว่างช่วงหนาว แวะมาช่วงร้อนหรือต้นฝนก็ยังมีโอกาสได้ชิมองุ่น และซื้อกลับในราคาถูกลงอีกด้วย
วิลเลจฟาร์ม แอนด์ ไวน์เนอรี่
Location: ริมทางหลวงหมายเลข 304 ก่อนถึงปากทางเข้า ต.ไทยสามัคคี ประมาณ 500 ม. ปากซอยอยู่ตรงข้ามป้อมตำรวจทางหลวง
ไร่องุ่นและโรงบ่มไวน์สไตล์ฝรั่งเศส แหล่งจำหน่ายไวน์และน้ำองุ่นชั้นเลิศ เสิร์ฟน้ำองุ่นและไวน์ตามโรงแรมชั้นนำต่างๆ ทั่วประเทศ ทำให้วิลเลจฟาร์ม แอนด์ ไวน์เนอรี่ เป็นที่รู้จักและคุ้นหูคุ้นตากันเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าดังก่อนจะคนจะนิยมมาเที่ยววังน้ำเขียวเสียอีก และเมื่อมีโอกาสมาแล้วก็ไม่ควรพลาดในช่วงตั้งแต่เดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ของทุกปีที่จะมีองุ่นพวงใหญ่ๆ ให้เราได้ชม หากมีโอกาสมาพักที่ฟาร์มช่วงต้นเดือนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ก็จะได้สัมผัสบรรยากาศของงานเทศกาลเก็บเกี่ยวองุ่นประจำปี ซึ่งจะเปิดไร่ให้เก็บเกี่ยวผลผลิตด้วยมือเราเองด้วย ดูเพิ่มเติมที่ Village Farm & Winery
สวนสุชาดา
Location: ริมถนนสายเขาแผงม้า-ปากช่อง ห่างจากปากซอยเขาแผงม้าประมาณ 4 กม.
สวนสุชาดา นับเป็นสวนดอกหน้าวัวที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสานที่ไม่ควรพลาดเข้าชม เพราะนอกจากจะมีดอกหน้าวัวสีสันสวยงามสดใสหลากหลายสายพันธุ์ให้ได้ยลโฉมแบบใกล้ชิด ที่นี่ยังมีการปลูกพืชผักปลอดสาร โดยเฉพาะกลุ่มผักสลัด แถมยังมีที่พักสวยๆ ร้านกาแฟสด และร้านอาหารให้ไปพักผ่อน เลือกผ่อนคลายไปกับที่พักหรู กาแฟหอมกรุ่น และอาหารเลิศรสท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์และร่มรื่นของมวลไม้ ดูเพิ่มเติมที่ สวนสุชาดา
ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์
ทริปนี้เหมาะสำหรับนักนิยมไพร พร้อมผจญภัยไปในแหล่งธรรมชาติ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น และแหล่งวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับระบบนิเวศ โดยเรียนรู้อย่างเข้าใจในความเป็นไปของธรรมชาติ เพื่อมุ่งเน้นให้เกิดจิตสำนึกที่ดีต่อการรักษาระบบนิเวศอย่างยั่งยืน
ความที่วังน้ำเขียวเป็นเพื่อนรักเพื่อนสนิทกับเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติลำดับแรกของประเทศไทย แน่นอนว่าบรรยากาศ ความงามตามธรรมชาติล้วนเป็นเรื่องราวเดียวกับป่าดงพญาเย็น หรือเขาใหญ่นั่นเอง
ลองมาจัดทริปท่องธรรมชาติกันสักหน่อย…
ท่องไพรชมวิวที่อุทยานแห่งชาติทับลาน
Location: ริมทางหลวงหมายเลข 304 ห่างจาก อ.กบินทร์บุรี ประมาณ 33 กม.
จากตลาดกม. 79 ขับรถไปตามทางหลวงหมายเลข 304 สายวังน้ำเขียว-อ.กบินทร์บุรี จนถึงกม.ที่ 33 จะเห็นทางเข้าอุทยานแห่งชาติทับลานทางด้านซ้ายมือ
อุทยานแห่งชาติทับลาน เป็นป่าลานผืนใหญ่ผืนสุดท้ายของประเทศไทย มีพื้นที่ประมาณ 2,240 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,400,000 ไร่ มีพื้นที่เป็นที่ราบสลับกับภูเขา ส่วนหนึ่งอยู่ในเขตเทือกเขาพนมดงรัก มีจุดสูงสุดอยู่บริเวณเขาละมั่ง เป็นแนวเส้นแบ่งเขตระหว่าง จ.ปราจีนบุรี และนครราชสีมา ความสูงประมาณ 992 ม. จากระดับน้ำทะเลปานกลาง
บริเวณที่ตั้งที่ทำการอุทยานฯ ทับลาน ยังเป็นพื้นที่ที่มีต้นลานขึ้นกระจายในพื้นที่อย่างหนาแน่น จนได้ชื่อว่าป่าลานผืนสุดท้ายที่สมบูรณ์และสวยงามที่สุดของประเทศไทย ต้นลานจัดเป็นไม้ตระกูลปาล์ม หน้าตาคล้ายกับต้นตาล เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นตรงและแข็ง ภายในเนื้อเป็นเส้นใย มีใบอ่อนรอบลำต้นเป็นชั้นๆ ก้านใบยาวประมาณ 3-4 เมตร หนึ่งก้านมีหนึ่งใบ ใบกว้างประมาณ 2-3 ม. ลำต้นสูงประมาณ 10-26 ม. อายุขัยประมาณ 60-80 ปี
นอกจากป่าลานที่สมบูรณ์แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติรอบๆ ที่ทำการอุทยานฯ ทับลานยังมีอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทับลานที่ 13 (สวนห้อม) บริเวณตลาดกม. 79 จะมีทางแยกตามถนนคอนกรีตเข้าหมู่บ้านสวนห้อมไปประมาณ 6 กม. จะถึงที่ตั้งหน่วยพิทักษ์ฯที่ตั้งอยู่บนยอดเขา มีอากาศเย็นสบายตลอดปี มี 3 น้ำตกสวยให้เที่ยวชม ทั้งน้ำตกสวนห้อม น้ำตกห้วยขมิ้น และน้ำตกม่านฟ้า และยังมีบ้านพักและลานกางเต็นท์รับรองชาวค่ายอีกด้วย
น้ำตกสวนห้อม เป็นน้ำตกขนาดกลางมีทั้งหมด 3 ชั้น มีน้ำไหลตลอดปี สวยที่สุดในช่วงปลายฝนต้นหนาว ตลอดเส้นของน้ำตกสวนห้อมจะมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติของป่าเบญจพรรณให้ชื่นชม น้ำตกม่านฟ้า มีน้ำเฉพาะฤดูฝน มีลักษณะเป็นหน้าผาหินกว้างประมาณ 50 ม. ยาวประมาณ 30 ม. ในเวลาที่น้ำไหลหลากจะมีลักษณะคล้ายม่านน้ำไหลผ่านหน้าผาหินลงมาสู่แอ่งน้ำด้านล่างสวยงามมาก และที่สุดท้าย ผาชมตะวัน นับเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม ฤดูหนาวจะเห็นทะเลหมอกตระการตา
แหล่งท่องเที่ยวเด่นที่สุดท้ายที่ไม่ควรพลาดชมก็คือ ผาเก็บตะวัน ตั้งอยู่บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทับลานที่ 11 (ไทยสามัคคี) ห่างจากตลาดกม. 79 มาประมาณ 3 กม. จะถึงทางแยกไปไทยสามัคคี-บุไผ่ ขับรถไปตามถนนลาดยางประมาณ 13 กม. และไปต่อตามทางลูกรังอีก 2 กม. ก็จะถึงที่ตั้งหน่วยพิทักษ์ฯผาเก็บตะวัน เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินยามเย็นที่สวยงามที่สุดของวังน้ำเขียว ดูเพิ่มเติมที่ อุทยานแห่งชาติทับลาน
ไปดูกระทิงที่…เขาแผงม้า
Location: ก่อนถึงตลาดกม. 79 อ.วังน้ำเขียว จะมีทางเลี้ยวซ้ายที่บริเวณศาลเจ้าพ่อหลวงราช ไปอีกประมาณ 8 กม. ก็จะถึงปากทางขึ้นเขาแผงม้า
รถยนต์มาได้ 2 เส้นทาง คือจากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางองครักษ์-นครนายก-ปราจีนบุรี-นครราชสีมา จากสี่แยกกบินทร์บุรีใหม่ไปตามทางหลวงหมายเลข 304 (กบินทร์บุรี-วังน้ำเขียว) ระยะทางประมาณ 200 กม. ก่อนถึงตลาด 79 อ.วังน้ำเขียว ให้เลี้ยวซ้ายที่บริเวณศาลเจ้าพ่อหลวงราช
หรือจากนครราชสีมาใช้เส้นทางปักธงชัย–วังน้ำเขียว ตามทางหลวงหมายเลข 304 ระยะทาง 79 กม. เมื่อผ่านตลาด 79 อ.วังน้ำเขียว ให้เลี้ยวขวาบริเวณศาลเจ้าพ่อหลวงราช เข้าไปประมาณ 8 กม.
การเดินทางเข้าสู่เขาแผงม้านั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป สะดวกสุดคือรถกระบะ รถ 4WD ที่พร้อมลุยหน่อย ทางเป็นถนนลูกรังเต็มไปด้วยก้อนหิน และดินที่แตกเป็นร่องจากการถูกน้ำกัดเซาะ หลังทุลักทุเลจากปากทางเข้ามาประมาณ 4 กม. จะเห็นจุดดูกระทิงและป่าต้นน้ำอันอุดมสมบูรณ์อยู่เบื้องหลัง
เส้นทางศึกษาธรรมชาติเขาแผงม้า เป็นเส้นทางเดินเท้าแบบวงรอบ ระยะทาง 1,800 ม. ติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางในการเดินศึกษาธรรมชาติ และให้ความรู้เพิ่มเติมได้ ระหว่างเส้นทางจะผ่านจุดสื่อความหมายธรรมชาติรวม 9 จุด มีเครื่องหมายกำกับระยะทางทุกๆ 500 ม.และป้ายสื่อความหมายอธิบายตลอดเส้นทาง บรรยากาศร่มรื่นด้วยผืนป่าที่แน่นขนัด อุดมด้วยพรรณไม้หลากชนิด นับเป็นป่าต้นน้ำที่หล่อเลี้ยงลำห้วยและสายน้ำลำพระเพลิง และยังมีสัตว์ป่าอีกหลากชนิด ให้คนชอบส่องสัตว์ได้ตื่นเต้นตลอดเวลา ทั้งหมูป่า เสือ เก้ง กวาง ชะมด อีเห็น หมี กระรอก กระต่าย
จุดสำคัญอยู่ที่จุดดูกระทิง จากเขาแผงม้า สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ที่ยังหาชมได้จากเขาแผงม้าสู่คลองปลากั้ง หรือหน่วยพิทักษ์ของอุทยานแห่งขาติเขาใหญ่ ขญ.4 ต่อเนื่องไปถึงแนวเขตอุทยานฯเขาใหญ่ ผ่านกล้องส่องทางไกลที่ช่วยให้คุณเข้าใกล้ฝูงกระทิงได้มากยิ่งขึ้น สำหรับชาวแอดเวนเจอร์ที่มีเวลามากพอ ยังเลือกทำกิจกรรมเดินป่าเขาแผงม้า ชมความงามของน้ำตกแก่งยาว และน้ำตกวังเหว ให้นักท่องไพรได้ตะลุยป่าไปชมความงามของสองน้ำตกสวยกลางป่าสมบูรณ์อีกด้วย
ติดต่อได้ที่ ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน ต.วังหมี (ลุงอ้วน) โทร 089 838 6022
จุดกางเต็นท์ ติดต่อที่ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาแผงม้า
4 เส้นทางจักรยาน
Location: ใครที่ชอบขี่จักรยานชมวิวไปกับสองล้อคู่ใจคงถูกใจไม่น้อย เพราะที่นี่มีทั้งเส้นทางสบายๆ ชมธรรมชาติและสูดโอโซนได้เพลิดเพลิน ไปจนถึงเส้นทางที่ต้องออกแรงปั่นกันยกใหญ่ ทั้ง 4 เส้นทางนั้น มีให้เลือกทั้งเส้นทางวังน้ำเขียว-จุดชมวิวเขาอิโรตึง, เส้นทาง อบต.ไทยสามัคคี-หมู่บ้านสุขสมบูรณ์ เส้นทางจักรยานสวนห้อม และเส้นทางสำรวจธรรมชาติต้นน้ำมูล
เส้นทางที่ 1 วังน้ำเขียว-จุดชมวิวเขาอิโรตึง
เส้นทางนี้เต็มไปด้วยความสนุกสนานท้าทาย เป็นทางลาดยาง 60% ทางลูกรัง 40% ลงเนิน 30% ขึ้นเขา 70% รวม 75 กม. มีจุดเริ่มต้นที่อบต.ไทยสามัคคี ผ่านร้านค้าผลไม้ตามฤดูกาลริมถนน 304 ระหว่างทางแวะพักสายตากับผืนน้ำกว้างที่เขื่อนลำเชียงสา ก่อนขี่ขึ้นไปยังจุดชมวิวเขาอิโรตึง ชมลานหินโบราณที่มีภาพเขียนรูปร่างหน้าตาคล้ายอีทีและงูยักษ์อายุกว่า 1,000 ปี ยังมีต้นตะบองเพชรโบราณและสวนยางนานาชาติให้ได้ศึกษาและเรียนรู้กันอย่างสนุกสนาน
เส้นทางที่ 2 อบต.ไทยสามัคคี-หมู่บ้านสุขสมบูรณ์
นักท่องเที่ยวทั่วไปและนักท่องเที่ยวที่มาเป็นครอบครัวเส้นทางนี้เหมาะสมที่สุด มีจุดเริ่มต้นและลงท้ายที่อบต.ไทยสามัคคี ระยะทาง 20 กม. เป็นทางลาดยาง 60% ทางลูกรัง 40% ทางเรียบ 50% ทางขึ้นเนินลงเนิน 50% บนถนนเส้นนี้มีจุดท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง ทั้งอ่างเก็บน้ำสุขสมบูรณ์ ความงามของอ่างเก็บน้ำที่สมบูรณ์ด้วยธรรมชาติรอบด้าน ชุมชน และรีสอร์ตสวยงาม แวะชิมสเต็กจานอร่อยที่จังเกิ้ล วิว เป็นมื้อเที่ยง ชมต้นไม้ยักษ์ก้มโค้ง ทำบุญที่วัดสุขสมบูรณ์ ก่อนแวะเที่ยววังน้ำเขียวฟาร์ม ฟาร์มเพาะเห็ดและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากเห็ดที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสานกันต่อ
เส้นทางที่ 3 เส้นทางจักรยานสวนห้อม
เส้นทางนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ขี่จักรยานท่องเที่ยวมาก่อน เนื่องจากเป็นทางขึ้น-ลงเนินโดยตลอด ระหว่างทางจะได้พบกับวิถีชีวิตของชาวพื้นบ้าน ความสวยงามของธรรมชาติสองข้างทาง รวมถึงน้ำตกสวนห้อม ในฤดูน้ำหลาก มีจุดเริ่มต้น 2 แห่ง คือ ทางเข้าตลาด 79 ถึงน้ำตกสวนห้อม ระยะทาง 7 กม. และเส้นทางจากหมู่บ้านสุขสมบูรณ์ ถึงน้ำตกสวนห้อม ระยะทาง 25 กม.
เส้นทางที่ 4 เส้นทางสำรวจธรรมชาติต้นน้ำมูล
สาวกจักรยานเสือภูเขาที่มีใจรักธรรมชาติห้ามพลาดทริปนี้ เพราะเป็นทริปศึกษาเส้นทางธรรมชาติของแท้ ก่อนออกตัวต้องฟิตร่างกาย เตรียมอุปกรณ์ อาหาร และน้ำดื่มให้พร้อม มีจุดเริ่มต้นและลงท้ายที่อบต.ไทยสามัคคี รวมระยะทาง 45 กม. หรือจะใช้วิธีลัดขับรถยนต์ไปจอดที่ผาเก็บตะวัน แล้วค่อยขี่จักรยานไปยังต้นน้ำมูล จะช่วยร่นระยะทางเหลือเพียง 30 กม.เท่านั้น ลักษณะเส้นทางเป็นทางลูกรัง 100% ทางขึ้นเนินลงเนิน 90%
ท่องวัฒนธรรม
ทริปนี้ก็เหมาะสำหรับรุ่นใหญ่ และรุ่นเล็กที่จะได้สัมผัสวิถีชาวท้องถิ่น ท่องเที่ยวเพื่อชมงานประเพณีต่างๆ ในรอบปี ที่จัดขึ้นในอ.วังน้ำเขียว ซึ่งจะได้รับความเพลิดเพลินตื่นตาตื่นใจในสุนทรียศิลป์ และทำให้คุณมีความรู้ ความเข้าใจต่อสภาพสังคมและวัฒนธรรมท้องถิ่น งานประจำปีที่สำคัญๆ ของวังน้ำเขียวเช่น งานเบญจมาศบานในม่านหมอก งานวันสงกรานต์และวันผู้สูงอายุ เป็นต้น
มาวังน้ำเขียวนับได้ว่าเป็นที่เที่ยวที่คุณจะได้มาพักผ่อน กายและใจอย่างแท้จริง ที่สำคัญคือมาวังน้ำเขียวที่เดียว เที่ยวได้หลากหลายจริงๆ Wangnamkheo = HEATT (Health…Eco…Agro…and…Traditional Tourism)