ท่องไพร 2 อุทยานแห่งชาติ
ทางหลวงหมายเลข 401 เป็นเส้นทางจากอ.พนม จ.สุราษฏร์ธานี สู่อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ก่อนจะเข้าสู่เขตอ.ตะกั่วป่า เส้นทางสายนี้จะผ่านอุทยานแห่งชาติถึง 2 แห่ง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติคลองพนม และอุทยานแห่งชาติเขาสก ทั้งสองแห่งขับรถเที่ยวควบคู่กันได้อย่างสะดวก มีเส้นทางเดินป่าให้สัมผัสพรรณไม้ และน้ำตกสวยๆ กันหลายแห่ง นอกจากนี้อุทยานฯเขาสกยังอยู่ใกล้เขื่อนรัชชประภา จะขับรถชมเขื่อน หรือเดินป่าไปนั่งเรือชมวิวทะเลสาบ พักผ่อนกลางน้ำกันสักคืนก็น่าไปชมทั้งนั้น
Location จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านเพชรบุรี หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ถึงแยกปฐมพรใช้ทางหลวงหมายเลข 41 สู่จ.สุราษฏร์ธานี ถึงอ.พุนพิน เลี้ยวขวาสู่ทางหลวงหมายเลข 401สุราษฏร์ธานี-ตะกั่วป่า สู่อ.พนม ระยะทางประมาณ 91 กม. ถึงกม.ที่ 109 เลี้ยวขวาไปต่ออีก 1.5 กม.ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสก
Day 1
หลังจากติดต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อขอกุญแจบ้านพัก หรือขออนุญาตกางเต็นท์พักแรมแล้ว ช่วงเวลาที่เหลือได้เวลาเดินเที่ยวชมธรรมชาติภายในอุทยานฯ ส่วนใหญ่เป็นเส้นทางเดินเที่ยวชมน้ำตกท่ามกลางป่าใหญ่ น้ำตกแรกบนเส้นทางสายนี้คือ น้ำตกวิ่งหิน ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 2 กม. เล่นน้ำได้ จากนั้นเดินต่อไปอีกเพียง 120 ม.จะพบ น้ำตกบางหัวแรด น้ำตกขนาดใหญ่อันสวยงาม หากเดินถัดไปอีก 3.2 กม. ก็จะพบกับบริเวณที่เรียกว่า ตั้งน้ำ ลักษณะคล้ายออบหลวง ที่จ.เชียงใหม่ แต่เล็กกว่ามาก และใกล้ๆ ตั้งน้ำยังมีเส้นทางไปชมน้ำตกสวยอีก 2 แห่ง ได้แก่ น้ำตกโตนกลอย สูงประมาณ 20 ม. น้ำตกธารสวรรค์ น้ำตกที่มีสายน้ำไหลจากหน้าผาสูงอันงดงาม
หากไม่ชอบเดิน ในบริเวณที่ทำการอุทยานฯ ยังมีน้ำตกแม่ยาย ให้ขับรถเข้าไปเที่ยวชม ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 5.5 กม. ขับเข้าถึงน้ำตกได้ น้ำตกสูงประมาณ 30 ม. ตั้งอยู่กลางพรรณไม้ดูสวยงามร่มรื่น
จากนั้นช่วงเวลาที่เหลือขับรถไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติคลองพนม ห่างจากอุทยานแห่งชาติเขาสก 20 กม. อยู่บนทางหลวงหมายเลข 401 ภายในที่ทำการอุทยานฯ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจคือ เส้นทางเดินป่าระยะสั้นประมาณ 2 กม. เพื่อเข้าไปเที่ยวชมต้นกระบากขาวที่วัดรอบต้นได้ถึง 12 ม. และจุดชมวิวที่ชมทิวทัศน์ของอุทยานฯได้อย่างกว้างไกล
หากชอบเที่ยวถ้ำต้องไม่พลาดไปชม ถ้ำแก้ว เป็นถ้ำที่ตั้งอยู่ในเส้นทางศึกษาธรรมชาติ จากที่ทำการอุทยานฯ มีเส้นทางเดินเลียบเขาให้ไปเที่ยวชมถ้ำแก้วระยะทางประมาณ 1 กม. จะพบปากถ้ำแก้ว ภายในเป็นถ้ำหินปูนมีหินงอกหินย้อยที่สวยงามแปลกตามากมาย เมื่อใช้ไฟฉายส่องตามหินงอกหินย้อยต่างๆ ก็จะเห็นแสงเป็นประกายระยิบระยับ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อถ้ำแก้ว การเดินเที่ยวชมจึงต้องใช้ความระมัดระวังเพราะภายในมืดสนิท และแบ่งเป็นห้องย่อยๆ ถึง 4 ห้อง ได้แก่ ห้องเกล็ดแก้ว ห้องฤาษี ห้องม้าน้ำ และห้องหม้อยา ทั้งหมดใช้เวลาในการเดินเที่ยวชมประมาณ 30 นาทีก็เพียงพอแล้ว
หลังชมถ้ำแก้วบริเวณที่ทำการอุทยานฯ ยังมีเส้นทางเดินป่าระยะสั้นประมาณ 2 กม.ให้ไปเที่ยวชมต้นกระบากขาวที่วัดรอบต้นได้ถึง 12 ม. และจุดชมวิวที่สามารถชมทิวทัศน์ของอุทยานได้อย่างกว้างไกล จากนั้นหากคุณอยากชมดอกบัวผุด ดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จากที่ทำการอุทยานฯ ขับรถไปบนทางหลวงหมายเลข 401 บริเวณกม.ที่ 108 มีเส้นทางเข้าสู่บ้านถ้ำผึ้งประมาณ 4 กม. และเดินเท้าต่ออีกประมาณ 1.5 กม. จะพบแหล่งที่พบดอกบัวผุดเป็นจำนวนมาก
ดอกบัวผุด ดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ต้องไปชมในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม หลังชมเสร็จเดินทางกลับที่ทำการอุทยานฯ เขาสก พักผ่อนตามอัธยาศัย
Day 2
เดินป่าท่องไพร
หลังอาหารเช้า วันนี้ไปเที่ยวชมเขื่อนรัชชประภา จากที่ทำการอุทยานฯ เขาสก มีให้เลือกทั้งเส้นทางเดินป่า และเส้นทางขับรถเที่ยว สำหรับนักท่องไพรเส้นทางเดินไปเที่ยวชมเขื่อนรัชชประภาเป็นเส้นทางเดินป่าระยะทาง 8 กม.ช่วงเช้าก่อนออกเดินทางจึงควรเตรียมเสบียงอาหารกลางวัน น้ำดื่มไปให้พร้อม และต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางด้วย
เส้นทางนี้เริ่มต้นจากที่ทำการอุทยานฯ บริเวณกม.ที่ 99 ระหว่างทางจะได้ชื่นชมป่าดิบชื้น และพรรณไม้ต่างๆ จากนั้นจะพบถ้ำน้ำทะลุ ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ที่ขส.4 คลองแปะ ประมาณ 3 กม. ภายในเป็นถ้ำที่มีสายน้ำไหลผ่านตามชื่อ และมีหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกตาให้ชมมากมาย
จากนั้นจุดหมายปลายทางของเส้นทางนี้จะไปสิ้นสุดที่ แพโตนเตย เขื่อนรัชชประภา พักผ่อนให้หายเหนื่อยสักครู่ และนั่งเรือไปเที่ยวชมวิวของภูเขาหินปูนอันสวยงามกลางทะเลสาบในเขื่อนเชี่ยวหลานกันต่อ จากนั้นขากลับไม่ต้องเดินกลับไปที่ทำการอุทยานฯ หากนำรถเช่ามาเที่ยวให้คนขับรถไปรอที่สันเขื่อนก็ได้
ขับรถเที่ยวเขื่อนรัชชประภา
นักท่องเที่ยวที่มีเวลาน้อย จะขับรถมาชมวิวบนสันเขื่อนแทนก็ได้ จากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสก-เขื่อนรัชชประภามีระยะทาง 40 กม. ระหว่างทางยังแวะเที่ยวอุทยานแห่งชาติคลองพนม ชมถ้ำปลา แวะดูดอกบัวผุดกันได้อีกรอบ จากนั้นไม่ไกลก็จะพบป้ายเขื่อนรัชชประภา ขับรถขึ้นไปเที่ยวชมทิวทัศน์สวยๆ ของทะเลสาบ และภูเขาหินบนสันเขื่อนกัน
หากยังพอมีเวลาจะเหมาเรือไปเที่ยวชมความงามที่เปรียบเสมือนกุ้ยหลินเมืองไทยแบบครึ่งวันก็ได้ บริเวณสันเขื่อนมีท่าเรือนำเที่ยวให้บริการตลอดวัน