ถ้ำมรกตแห่งทะเลอันดามัน
ด้วยลักษณะของเกาะที่พิเศษกว่าเกาะอื่นๆ ในทะเลตรัง โดยเฉพาะปล่องเขาที่โอบอุ้มหาดทรายสีขาวและน้ำทะเลสีมรกตเอาไว้ จนมองดูเหมือนเมืองลับแลเล็กๆ นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่น่าทึ่ง และที่อัศจรรย์กว่านั้นคือการเข้าไปเที่ยว จะต้องลอยคอว่ายน้ำลอดผ่านโพรงถ้ำใต้น้ำ ทำให้เกาะมุกอันเป็นที่ตั้งของถ้ำมรกต เป็น Unseen Destination ของคนทั่วโลก และสิ่งที่มหัศจรรย์ยิ่งกว่าคือเกาะมุกเป็นเจ้าของชายหาดที่สวยงามแต่กลับสงบเงียบ มีรีสอร์ทสวยๆ ให้บริการหลายแห่ง
Location เกาะมุกอยู่ห่างจากชายฝั่งบริเวณท่าเรือควนตุ้งกูประมาณ 9 กม. จากท่าเรือควนตุ้งกูมีเรือโดยสารออกวันละเที่ยวในช่วงเช้า และกลับจากเกาะอีกหนึ่งเที่ยวในช่วงบ่าย หรือเหมาเรือให้มาส่งที่เกาะได้ ราคาตามระยะทางว่าจะลงหาดไหนโดยตกลงกับเจ้าของเรือ ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง หรือวิธีที่สะดวกที่สุดคือใช้บริการแพกเกจทัวร์ซึ่งจะพาเที่ยวเกาะมุก และอีก 3 เกาะในทะเลตรัง คือ เกาะกระดาน เกาะแหวน และเกาะม้า (มีให้เลือกทั้งแบบไปกลับวันเดียว และค้างคืนที่เกาะมุก)
เริ่มเที่ยวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-เมษายน
Day 1
ด้วยความที่อยู่ไม่ไกลจากฝั่ง นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่พักอยู่ริมหาดเจ้าไหม และหาดปากเมง จึงนิยมเหมาเรือมาเที่ยวเกาะมุกแบบเช้าไป-บ่ายกลับ แต่สำหรับผู้ที่อยากสัมผัสเกาะมุกให่มากกว่านี้ก็นิยมเดินทางมาค้างแรมบนเกาะด้วย โดยเฉพาะชาวต่างชาตินิยมมานอนที่เกาะมุกครั้งละหลายๆ คืน มีที่พักอยู่ทุกหาดของเกาะ จึงนับว่าสะดวกสบายไม่น้อย
การเดินทางมาเกาะมุกนั้นมีเรือหัวโทงโดยสารมาตลอดวัน เรือโดยสารจะจอดที่ท่าเรือของเกาะมุกที่อ่าวหน้าบ้าน จากนั้นต้องนั่งมอเตอร์ไซค์ไปส่งที่รีสอร์ทอีกที แต่สำหรับบางคนอาจจะเหมาเรือหัวโทงจากท่าเรือควนตุ้งกูให้ไปส่งถึงรีสอร์ทที่อยู่ตามหาดต่างๆ ก็จะสะดวกกว่า บางรีสอร์ทมีบริการเรือรับ ส่งให้ถึงรีสอร์ทบนเกาะเลยทีเดียว
เกาะมุก เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ในบรดาหมู่เกาะทั้งหมดของจังหวัดตรัง รูปร่างของเกาะมุกหากมองดูจากมุมสูงจะเห็นว่ารูปร่างคล้ายกับปลากระเบน มาถึงเกาะมุกและเก็บกระเป๋าเข้าที่พักแล้ว ไม่ว่าคุณจะพักอยู่ที่หาดไหน ก็หาเช่ารถมอเตอร์ไซค์ขี่เที่ยวบนเกาะได้ เพื่อที่จะไปชมหาดต่างๆ ของเกาะมุก หรือจะเหมาเรือไปเที่ยวก็นับว่าสะดวกไม่แพ้กัน โดยชายหาดเด่นๆ ของเกาะมุกได้แก่
หาดหน้าบ้าน หาดนี้อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะ ตรงข้ามกับฝั่งที่ท่าเรือควนตุ้งกู เป็นชุมชนชาวประมงบ้านเกาะมุก และเป็นท่าเรือหลักของเกาะด้วย ที่นี่นอกจากจะได้ชมวิถีชีวิต เดินเที่ยวชมบ้านเรือนของชาวบ้านแล้ว ยังมีแนวหาดทรายทอดยาวให้เดินเที่ยวได้สะดวก แต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเล่นน้ำสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่มาเดินเที่ยวชมหมู่บ้านริมทะเล จากหาดหน้าบ้านเดินเที่ยวผ่านท่าเรือของเกาะมุกมาจนถึงปลายแหลมที่หาดหัวแหลม หรือหาดแหลมพร้าวได้
หาดหัวแหลม หรือหาดแหลมพร้าว อยู่ทางด้านซ้ายมือ (หากยืนที่สะพานท่าเรือแล้วหันหน้าเข้าหาเกาะ) หากมองดูในแผนที่ทางอากาศจะอยู่บริเวณหางกระเบนของเกาะมุกพอดี หัวแหลมนี้มีจุดเด่นคือมีชายหาด ทรายขาวสะอาดขนาบอยู่ทั้งสองด้าน วิวสวย น้ำใส ร่มรื่นด้วยสวนมะพร้าว เดินเที่ยวเลียบหาดมาจนถึงฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะมุกได้
หาดฝรั่ง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ค่อนลงมาทางตอนใต้ของเกาะมุก ชายหาดนี้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอย่างมาก เพราะบรรยากาศที่เป็นส่วนตัว โอบล้อมด้วยภูเขาทั้งซ้ายและขวา ชายหาดทอดยาว เม็ดทรายก็ขาวละเอียด มีน้ำทะเลใส เมื่อมีฝรั่งมาเที่ยวหาดนี้กันเยอะ คนเกาะมุกจึงเรียกชื่อหาดนี้ว่า “หาดฝรั่ง” จากท่าเรืออ่าวหน้าบ้านมีทางคอนกรีตเล็กๆ เชื่อมมาถึงหาดนี้ได้ จะเดินเที่ยวเองหรือนั่งมอเตอร์ไซค์มาก็สะดวก หาดนี้จะเหมาะมาเล่นน้ำแล้ว ตอนเย็นยังเป็นหาดเดียวของเกาะมุกที่ชมวิวพระอาทิตย์ตกได้สวยงามที่สุดด้วย
ทั้ง 3 หาดนี้คุณก็ใช้เวลาเดินเที่ยว หรือขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวหมดครึ่งวันพอดี ตอนเย็นจึงกลับมากินมื้อค่ำที่รีสอร์ท ก่อนนอนวันนี้อย่าลืมติดต่อเรือเพื่อไปเที่ยวถ้ำมรกตในวันรุ่งขึ้นด้วย
Day 2
หลังมื้อเช้าวันนี้ เป็นกิจกรรมนั่งเรือไปเที่ยวชมไฮไลท์ของเกาะมุก นั่นก็คือถ้ำมรกต ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะมุก แต่สำหรับคนที่จะไปเที่ยวเกาะใกล้เคียงด้วย เช่น เกาะม้า เกาะกระดาน และเกาะไหง อาจต้องเตรียมข้าวกล่องติดไปด้วย ส่วนใครที่ไปเที่ยวถ้ำมรกตอย่างเดียวก็กลับมากินมื้อเที่ยงที่รีสอร์ทก็ได้
ถ้ำมรกต มีลักษณะเป็นปล่องภูเขาที่โอบล้อมหาดทรายเล็กๆ เอาไว้ ประดุจเมืองลับแล มีปากทางเข้าถ้ำอยู่ใต้หน้าผาทางทิศตะวันตก การจะเข้าไปเที่ยวชมได้นั้นต้องรอให้น้ำลดก่อนจึงจะเปิดเห็นปากถ้ำ จากนั้นต้องว่ายน้ำลอยคอลอดถ้ำเข้าไประยะทางประมาณ 80 ม.เมื่อใกล้ทะลุถึงปล่องเขาด้านในจะเห็นน้ำทะเลเป็นสีเขียวมรกต เกิดจากการสะท้อนของแสงแดด จึงเรียกถ้ำนี้ว่า “ถ้ำมรกต” และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “อัญมณีแห่งทะเลอันดามัน”
ภายในถ้ำมรกตนั้นมีแนวชายหาดช่วงสั้นๆ แต่ทรายเม็ดเล็กละเอียด คุณอาจใช้เวลาอยู่ที่นี่จนพอใจแล้วจึงกลับออกไปด้วยวิธีการว่ายน้ำลอยคอเช่นเดิม จากถ้ำมรกตหากนั่งเรือขึ้นไปทางทิศเหนือ จะเจอกับอ่าวถ้ำใหญ่ บ้างก็เรียกว่า หาดสบาย เป็นแนวชายหาดเล็กๆ ทรายขาว น้ำใสมาก เป็นหาดที่หลายคนนิยมเหมาเรือมาเล่นน้ำอาบแดดอย่างเป็นส่วนตัว และยังมีแนวปะการังที่พอให้ดำน้ำตื้นได้ด้วย
กลับจากเที่ยวถ้ำมรกตแล้ว บ่ายวันนี้คุณอาจจะมาพักผ่อนเล่นน้ำที่รีสอร์ท หรือจะไปเดินชมสวนยางพารา ชมวิถีชีวิตของชาวเกาะ หรือไปเที่ยวหาดที่ยังไม่ได้ไปเมื่อวานก็ได้
ส่วนคนที่จะกลับฝั่ง หลังจากกินมื้อเที่ยงแล้ว ก็เช็คเอ้าท์แล้วให้เรือไปส่งที่ท่าเรือควนตุ้งกูได้เลย
เที่ยวถ้ำมรกต ต้องรอน้ำลง
แน่นอนว่าการเข้าไปเที่ยวถ้ำในทะเลที่ปากถ้ำถูกปิดด้วยประตูน้ำ (น้ำปิดปากถ้ำจริงๆ) คุณต้องรอให้น้ำลดลงจนปากถ้ำมรกตโผล่เสียก่อนจึงจะสามารถว่ายน้ำเข้าไปชมด้านในได้ หากคุณไปกับแพกเกจทัวร์จึงไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำขึ้น-น้ำลง แต่หากคุณเหมาเรือไปเที่ยวเองอาจต้องรู้ก่อนว่าน้ำจะขึ้นหรือลงในเวลาใด หรือวันใดบ้าง หรืออาจจะสอบถามกับเจ้าของเรือเหมาดูก็ได้
เวลาที่เกิดน้ำขึ้น-น้ำลง คือเวลาที่ดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์อยู่ในแนวเดียวกัน หมายความว่าตั้งเรียงเป็นแนวเดียวกัน ถ้าให้ตรงกันเป๊ะๆ ก็คือช่วงขึ้น 15 ค่ำ หรือแรม 15 ค่ำ นั่นล่ะ ช่วงนี้นี่เองที่จะเกิดน้ำขึ้นสูงสุด และลงต่ำสุด โดยวันหนึ่งจะขึ้นสูงสุด วันละ 2 รอบ คือประมาณเที่ยงวัน และเที่ยงคืน แล้วจะค่อยๆ ลดลงจนต่ำสุดเรื่อยๆ โอกาสนี้จึงเหมาะที่จะเข้าไปเที่ยวชมในถ้ำมรกตได้สะดวกโยธิน
ช่วงเวลาที่น้ำเริ่มขึ้น-ลง จะเริ่มตั้งแต่แรมหรือขึ้น 12 ค่ำ-ขึ้นหรือแรม 4 ค่ำ ของทุกเดือน
เกาะมุก มีมากกว่าถ้ำมรกต
แม้ว่าเกาะมุกนั้นมาเที่ยวแบบไป-กลับได้ แต่ก็มีไม่น้อยที่แล่นเรือผ่านไปเที่ยวถ้ำมรกตแล้วเห็นหาดทรายขาวๆ เนียนๆ จนยากจะปล่อยให้ผ่านเลยไปเฉยๆ ยิ่งแต่ละหาดเหล่านั้นมีรีสอร์ทสวยๆ ตั้งอยู่ด้วย จึงมีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่จบแพกเกจทัวร์แล้ว จะให้เรือแล่นกลับมาส่งที่เกาะมุกในตอนเย็น เพื่อจะได้สัมผัสกับธรรมชาติสวยๆ ของเกาะมุกสักคืน
รีสอร์ทใหญ่ๆ บนเกาะมุกนั้นมีไม่มากนัก จึงเป็นข้อได้เปรียบของเกาะนี้ตรงที่ไม่อึดอัด ไม่พลุกพล่านจนเกินไป คุณจึงยังคงหาความสุข สงบได้จากทุกหาดของเกาะนี้ โดยหาดสวยของเกาะจะอยู่ที่หาดฝรั่ง ทางทิศตะวันตกของเกาะ เย็นๆ ก็ชมวิวพระอาทิตย์ได้ นอกจากนี้ก็ยังมีอ่าวหน้าบ้านซึ่งเป็นท่าเรือและหมู่บ้านชาวประมง ที่มีทั้งหาดทรายและวิถีชีวิตให้ชม เกาะมุก จึงเป็นเกาะที่มีมากกว่าแค่ถ้ำมรกต
ตำนานเกาะมุก แห่งท้องทะเลตรัง
เกาะมุก เป็นเกาะที่มีธรรมชาติงดงามที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดตรังเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะถ้ำมรกต การเที่ยวชมถ้ำมรกตที่เกาะมุกจะเพิ่มอรรถรสมากขึ้นหากคุณได้ฟังนิทานความรัก เรื่องราวตำนานพื้นบ้านของเกาะแห่งนี้
นิทานชาวเลเรื่องหนึ่งกล่าวว่า “เฒ่าเมง” แห่งหมู่บ้านริมท้องทะเลตรังมีลูกสาวสวยชื่อ “นางมุก” ซึ่งงดงามถูกตาต้องใจลูกชายของพระยาลันตา จึงได้มีการหมั้นหมายสู่ขอกันตามประเพณี ถึงวันแต่งงานขบวนเรือขันหมากก็ยกมาถึง เมื่อทำพีธีแล้วกำลังจะพาเจ้าสาวกลับเกาะลันตา แต่ระหว่างเดินทางก็ถูกโจรสลัดปล้น ผู้คนในขบวนเรือได้ร่วมต่อสู้แต่มิอาจต้านทานกำลังได้จนล้มตายไปหลายคน เช่นเฒ่าเมงที่นอนตายอยู่ริมหาด โดยมีภาพของเขาเมงที่มองดูคล้ายกับคนนอนให้เห็นจนถึงปัจจุบัน
ส่วนนางมุกก็ทอดร่างกลายเป็นเกาะกลางทะเลคือเกาะมุก ส่วนสินสอดทองหมั้นและข้าวของต่างๆ ในเรือก็กระจัดกระจายเป็นเกาะแก่งต่างๆ อยู่ในท้องทะเลตรัง เช่นที่เกาะแหวน เกาะไห งเกาะเชือก เกาะม้า เกาะกระดาน เป็นต้น