เที่ยวป่า ท่องทะเลสาบในอุทยานแห่งชาติเขาสก
สุราษฏร์ธานี เป็นจังหวัดทางภาคใต้ที่หลายคนรู้จักกันดีว่ามีเกาะสวยขึ้นชื่อให้ไปเที่ยวชมกันอยู่หลายแห่ง เช่น เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า เกาะนางยวน และหมู่เกาะอ่างทอง แต่ในขณะเดียวกันเมืองร้อยเกาะแห่งนี้ก็ไม่ได้มีดีแค่ทะเลงามเท่านั้น หากคุณอยากเปลี่ยนบรรยาากาศจากทะเลสู่ป่า ในบริเวณ อ.บ้านตาขุนยังเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติเขาสก ที่มีเขื่อนรัชชประภา หรือ เขื่อนเชี่ยวหลาน ให้คุณไปท่องป่า ชมภูเขาหิน นอนแพริมน้ำ ในทะเลสาบน้ำจืดที่ได้ชื่อว่าเป็นกุ้ยหลินแห่งเมืองไทยด้วย
Location: อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฏร์ธานี
จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ผ่านทางจ.นครปฐม หรือใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ธนบุรี-ปากท่อ) จากทางถ.พระราม 2 มุ่งหน้าสู่จ.สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และมาใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ที่ จ.ราชบุรี จากนั้นขับรถลงใต้ผ่าน จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และตรงเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านอ.หลังสวน อ.ไชยา จนถึงอ.เมือง จ.สุราษฏร์ธานี
หากคุณมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่เขื่อนรัชชประภา จากอ.เมืองสุราษร์ฏธานี ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 (พุนพิน-ตะกั่วป่า) ผ่าน อ.พุนพิน ถึง กม.ที่ 57-58 บริเวณ อ.บ้านตาขุน จะพบป้ายทางเขื่อนรัชชประภา เลี้ยวเข้าไปตามทางระยะทาง 12 กม. ถึงสามแยกเลี้ยวซ้ายจะเข้าสู่พื้นที่เขื่อนรัชชประภา
จากสถานีขนส่งสายใต้ มีรถโดยสารประจำทางเส้นทางกรุงเทพฯ-สุราษฏร์ธานี ทุกวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 ชม.รอบรถให้บริการส่วนใหญ่จึงเป็นช่วงเช้า และช่วงค่ำ หรือใช้รถโดยสารประจำทางเส้นทางกรุงเทพฯ-เกาะสมุย หรือ กรุงเทพฯ-เกาะพะงันก็ได้ จะผ่านอ.เมืองสุราษฏร์ธานีเช่นกัน
จากสถานีขนส่งอำเภอเมืองสุราษฏร์ธานี ใช้บริการรถโดยสารเส้นทาง สุราษฏร์ธานี-ตะกั่วป่า สุราษฏร์ธานี-พังงา และสุราษฏร์ธานี-ภูเก็ต ได้ทั้งสามเส้นทาง โดยเลือกลงที่อ.บ้านตาขุน ระยะทาง 71 กม. จากนั้นต่อรถสองแถวที่หน้าวัดตาขุน ไปยังท่าเรือ ซึ่งจะมีท่าเรือให้คุณเลือก 2 แห่ง ได้แก่ ท่าเรือป่าไม้ (หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ที่ขส.2) แก่งเชี่ยวหลาน และท่าเรือปลา ซึ่งทั้งสองท่าเรือจะมีเรือให้เช่าไปยังแพต่างๆ
จากสถานีรถไฟหัวลำโพง มีรถไฟเส้นทางกรุงเทพฯ-สุราษฏร์ธานี (สถานีพุนพิน) ให้บริการทุกวัน มีให้เลือกทั้งรถเร็ว รถด่วน และรถด่วนพิเศษ เมื่อถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี จะมีรถโดยสารประจำทางให้บริการไปยังอ.เมืองสุราษฏร์ธานี ระยะทาง13 กม.
อุทยานแห่งชาติเขาสก มีแพพักริมน้ำในเขื่อนรัชชประภาให้บริการอยู่หลายแห่ง ได้แก่ แพนางไพร (อ่าวสมเด็จ) แพโตนเตย (คลองแปะ), แพคลองคะ และหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาสก ขส.7 (แพไกรสร) ทุกแพตั้งอยู่ริมน้ำบรรยากาศดีเยี่ยม และยังมีอาหาร เครื่องดื่ม และเรือนำเที่ยวพร้อมให้บริการอย่างดีเช่นกัน
เมื่อเดินทางถึงจ.สุราษฏร์ธานี หากมีจุดหมายปลายทางอยู่การพักผ่อนรินน้ำในเขื่อนรัชชประภา ให้ขับรถไปตามทางหลวงหมายเลข 401 (คลองพนม-ตะกั่วป่า) ระยะทาง 71 กม. ระหว่างทางผ่านทางเข้าอุทยานแห่งชาติคลองพนม จากนั้นขับรถต่อไปอีก 20 กม. จะถึงทางเข้าอุทยานแห่งชาติเขาสก
อุทยานแห่งชาติเขาสก มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 738.74 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 461,712.5 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ป่าคลองหยี คลองพระแสง ใน ต.คลองสก ต.พังกาณจน์ ต.พนม อ.พนม ต.พระแสง และ ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน รวมถึงพื้นที่ในเขื่อนรัชชประภา และพื้นที่เหนือน้ำอ่างเก็บน้ำที่มีพื้นที่ติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสงด้วย จึงไม่แปลกที่อุทยานฯ แห่งนี้จะได้รับการยกย่องว่าเป็นโรงเรียนธรรมชาติอันสมบูรณ์ของภาคใต้ เพราะอุดมไปด้วยธรรมชาติอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ผืนป่า น้ำตก ดอกบัวผุด และทะเลสาบอันงดงาม
เขื่อนรัชชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน นับเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาสก เริ่มก่อสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2524 เปิดใช้งานในปีพ.ศ. 2530 เพื่อใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าให้แก่พื้นที่ภาคใต้ และใช้ประโยชน์เพื่อการชลประทานในฤดูแล้ง รวมถึงเพื่อลดความรุนแรงของอุทกภัยบริเวณลุ่มแม่น้ำตาปีในหน้าน้ำ เป็นเขื่อนหินถมแกมดินเหนียว สูง 94 ม. สันเขื่อนยาว 761 ม. จุน้ำได้ 5,639 ลูกบาศน์เมตร รวมพื้นที่อ่างเก็บน้ำประมาณ 168 ตารางกิโลเมตร และนับเป็นเขื่อนแห่งที่ 2 ของภาคใต้ สำหรับชื่อเขื่อนรัชชประภา ในหลวงร.9 ทรงพระราชทานนามให้ ซึ่งมีความหมายว่า แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร
เขื่อนรัชชประภา จึงเป็นไฮไลท์ของการเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาสก นิยมชมชอบการมาพักผ่อนแพริมน้ำในเขื่อน เพราะโอบล้อมไปด้วยบรรยาากศอันเงียบสงบ น้ำใสสะอาด และวิวขุนเขาอันงดงามที่ได้รับการยกย่องว่าเสมือน กุ้ยหลินแห่งเมืองไทย
หากคุณมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่การไปพักผ่อนในแพริมน้ำในเขื่อน มีอยู่ 2 เส้นทางให้เลือก คือ 1 เดินป่าจากที่ทำการอุทยานฯเข้าไป แต่เป็นการเดินทางที่ไม่ค่อยนิยมมากนัก เส้นทางนี้จึงเหมาะสำหรับคนชอบเดินป่าศึกษาธรรมชาติเท่านั้น สำหรับเส้นทาง 2 คือ นั่งเรือไปยังแพพัก ซึ่งนับเป็นวิธีที่สะดวกสบาย และรวดเร็วที่สุดแล้ว มีท่าเรือให้บริการอยู่ 2 แห่ง ได้แก่ ท่าเรือปลา เป็นท่าเรือสำหรับขึ้นปลาของชาวบ้าน และท่าเรือของแพเอกชนหลายแห่ง สำหรับท่าเรือของอุทยานแห่งชาติเขาสก จะตั้งอยู่บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ขส. 2 (แก่งเชี่ยวหลาน) ติดต่อเรือพร้อมแพพักต่างๆ ของอุทยานฯได้อย่างสะดวกสบายที่สุด รวมถึงบริการรับฝากรถด้วย
สำหรับการท่องเที่ยวภายในเขื่อนรัชชประภาจะมีหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ซึ่งเป็นที่ตั้งของแพพักที่พร้อมให้เข้ามาพักผ่อนค้างแรมกันอยู่ 3 แห่ง จุดแรกคือ หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ขส. 3 (อ่าวสมเด็จ) หรือแพนางไพร ถัดไปเป็นหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ขส.4 (คลองแปะ) หรือในชื่อแพโตนเตย และสุดท้ายไกลสุดเป็นหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ขส. 7 หรือในชื่อแพไกรสร แต่ละหน่วยจะมีแพพักคอยให้บริการพร้อมอาหาร และเครื่องดื่มเสร็จสรรพ ซึ่งส่วนใหญ่จะคิดค่าบริการรวมอยู่ในค่าเรือ และนำเที่ยวเรียบร้อยแล้ว
เมื่อเลือกแพพักกันได้แล้ว ที่เที่ยวภายในเขื่อนรัชชประภาส่วนใหญ่ก็จะตั้งอยู่ใกล้กับแพพักตามหน่วยพิทักษ์ต่างๆ เช่น แพนางไพรจะใกล้กับหินสามเกลอ หนึ่งในสัญลักษณ์ของเขื่อนรัชชประภา แพโตนเตย จะใกล้กับถ้ำน้ำทะลุ ถ้ำน้ำลอดที่มีหินงอกหินย้อยให้ชมมากมาย ส่วนบริเวณแพไกรสรมีน้ำตกไกรสร และจุดชมวิวสวยให้คนชอบเดินป่าไปลุย ซึ่งหากคุณต้องการแวะไปเที่ยวชมทุกแพพัก คุณควรจะมีเวลาท่องเที่ยวอย่างน้อย 3 วัน 2 คืน แต่หากต้องการไปพักผ่อนเล่นน้ำ ตกปลา ชมวิวยามเช้า ชมหินสามเกลอ มีเวลาเพียง 2 วัน 1 คืนก็น่าจะเพียงพอแล้ว
หินสามเกลอ
Location ก่อนถึงแพนางไพร
หินสามเกลอ เป็นภูเขาหินสามก้อนคล้ายเกาะที่ตั้งเด่นตระหง่านอยู่กลางเขื่อนรัชชประภา นับเป็นไฮไลท์ของการมาเที่ยวเขื่อนแห่งนี้ก็ว่าได้ ใครมาเที่ยวเขื่อนรัชชประภาจึงต้องไม่พลาดแวะมาเที่ยวชม ซึ่งส่วนใหญ่การเดินทางสู่แพพักตามหน่วยพิทักษ์ต่างๆ เรือจะผ่านให้ชมก่อนไปสู่แพพักอยู่แล้วทุกครั้ง
ถ้ำนำ้ทะลุ
Location ใกล้แพโดนเตย เข้าไปทางคลองแปะระยะทาง 4 กม.
เส้นทางเที่ยวถ้ำน้ำทะลุ เริ่มต้นได้จากแพโตนเตย แม้เป็นเส้นทางเดินป่าแต่ก็ไม่ลำบากมากนัก ต้องเดินข้ามลำธารไปในบางช่วง เมื่อถึงถ้ำจะพบว่าเป็นถ้ำที่มีลำธารไหลผ่านทะลุถ้ำ จึงเป็นที่มาของถ้ำนำ้ทะลุ ภายในถ้ำกว้าง 10-15 ม.ลึกประมาณ 800 ม.การเข้าไปเที่ยวถ้ำหากคุณมาในช่วงน้ำเยอะ ไม่เหมาะไปเสี่ยงภัย แต่หากมาเที่ยวในช่วงฤดูแล้งน้ำน้อยก็เดินเข้าไปได้ไม่ยาก ถ้ำนำ้ทะลุใช้เวลาเดินเที่ยวชมสัก 1 ชม. ภายในมีหินงอกหินย้อยให้ชมมากมายไปจนถึงรูทะลุอีกฝั่ง จากนั้นจะมีเส้นทางให้เดินกลับมายังบริเวณทางเข้า ถ้ำนำ้ทะลุ ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง หรือไกด์ไปด้วยทุกครั้ง รวมถึงไฟฉาย เพราะในถ้ำไม่มีไฟฟ้าคอยนำทาง
ถ้ำสี่รู
Location ใกล้แพโตนเตย ห่างจากถ้ำน้ำทะลุ 4 กม.
จากแพโตนเตย ใช้เส้นทางเดียวกันกับถ้ำนำ้ทะลุ แต่จะมีทางแยกออกปอีกทาง ถ้ำนี้ในอดีตเคยเป็นที่อยู่อาศัยของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ เมื่อปีพ.ศ. 2522 มีลักษณะเป็นถ้ำโปร่งมีทางเข้าทางออกทั้งหมด 4 ช่องทาง จึงเป็นที่มาของชื่อ และถ้ำนี้ไม่มีไฟฟ้านำทางเช่นกัน
ถ้ำค้างคาว
Location ห่างจากแพโตนเตย 2 กม.
ภายในเป็นถ้ำที่มีค้างคาวอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นที่มาของชื่อถ้ำค้างคาว ภายในมีห้องโถงขนาดใหญ่ และหินงอกหินย้อยอให้ชม แต่การเดินเที่ยวชมค่อนข้างลำบากเพราะไม่มีไฟฟ้านำทางจึงไม่เป็นที่นิยมมากนัก
ที่เที่ยวใกล้เคียง
หลังจากไปเที่ยวชมความงดงามของกุ้ยหลินเมืองไทยในเขื่อนรัชชประภากันมาแล้ว หากคุณยังมีเวลาเหลือภายในอุทยานฯเขาสกยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆ ให้ขับรถไปเที่ยวชมกันอีกหลายแห่ง เช่น ชมวิวบนสันเขื่อน เที่ยวน้ำตก เดินป่าชมดอกบัวผุด หรือจะแวะไปเที่ยวอุทยานฯคลองพนมก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะตั้งอยู่ไม่ไกล และมีธรรมชาติสวยๆ ให้เดินเที่ยวชมอยู่มากไม่แพ้กัน
สันเขื่อนรัชชประภา
Location ใกล้กับท่าเรือปลา
ขากลับจากการเข้าไปพักผ่อนภายในแพริมน้ำ หากคุณอยากชื่นชมวิวสวยๆ ของเขื่อนรัชชประภาเป็นรายการปิดท้าย คุณต้องไม่พลาดขับรถขึ้นมาเที่ยวชมวิวบนสันเขื่อนแห่งนี้ บนสันเขื่อนยาวประมาณ 761 ม. รอบด้านได้รับการประดับตกแต่งด้วยพรรณไม้อย่างสวยงาม และมีศาลาประภาภิรมย์เป็นจุดชมวิวที่ชมวิวภูเขาหินปูนสลับซับซ้อน และทะเลสาบอันกว้างใหญ่ได้อย่างสวยงาม
น้ำตกแม่ยาย
Location ริมทางหลวงหมายเลข 401 บริเวณกม.ที่ 113
นับเป็นน้ำตกเพียงแห่งเดียวในอุทยานฯที่รถยนต์เข้าถึงได้อย่างสะดวก น้ำตกอยู่บริเวณหลักกม.ที่ 113 บนทางหลวงหมายเลข 401 ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 5.5 กม. เป็นน้ำตกชั้นเดียวสูง 30 ม.ไหลลงจากหน้าผาสวยงามมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนจะมีน้ำเต็มๆ
เดินป่า ชมดอกบัวผุด เที่ยวน้ำตกธารสววรค์
Location ที่ทำการอุทยานฯ
จุดเด่นของอุทยานแห่งชาติเขาสกไม่ได้มีแต่เพียงความสวยงามของเขื่อนรัชชประภาเท่านั้น เส้นทางศึกษาธรรมชาติเดินป่าท่องไพรของที่นี่ก็นับว่าโดดเด่นไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเส้นทางชมดอกบัวผุด-น้ำตกธารสวรรค์ เป็นเส้นทางที่คุณจะได้ชมดอกบัวผุด ดอกไม้ที่มีขนาดใหญ่เติบโตอยู่กลางผืนป่า ซึ่งพื้นที่ในเขตอุทยานฯเขาสก นับเป็นแหล่งที่พบดอกบัวผุดเป็นจำนวนมากที่สุดของประเทศ ทางอุทยานฯจะเปิดให้เที่ยวชมตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-เมษายนเท่านั้น และสิ้นสุดเส้นทางนี้คุณจะได้เที่ยวชมน้ำตกธารสวรรค์ น้ำตกที่มีความสวยงามอีกแห่งของอุทยานฯ โดยเส้นทางนี้จะใช้เวลาในการเดินเที่ยวประมาณ 4-6 ชม. นำอาหาร น้ำดื่ม และต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางไปด้วยทุกครั้ง
อุทยานแห่งชาติคลองพนม
Location ทางหลวงหมายเลข 401 (สุราษฏร์ธานี-ตะกั่วป่า) ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ เขาสก 20 กม.
อุทยานแห่งชาติคลองพนม อยู่ไมไ่กลจากอุทยานฯเขาสก หลายคนจึงนิยมจัดเที่ยวควบคู่กัน จะเลือกไปนอนแพริมน้ำในเขื่อนรัชชประภาก่อนก็ได้ ขากลับค่อยแวะเข้าไปเที่ยวชมธรรมชาติในอุทยานฯคลองพนม ที่ท่องเที่ยวภายในอุทยานฯ ก็มีธรรมชาติอันสวยงามให้ไปเที่ยวชมเยอะไม่แพ้กัน เช่น ดอกบัวผุด ต้นกระบากขาว ที่เดินเที่ยวชมได้อย่างไม่ยากจนเกินไป ส่วนนักท่องไพรที่ชื่นชอบการเดินป่าระยะไกล ที่นี่มีถ้ำ และน้ำตกให้ไปลุยกันหลายแห่ง