ภูจองนายอย อุบลราชธานี

Trips อุบลราชธานี

ภูหินด่าง ชมวิวป่าใหญ่บนชะง่อนผาสูง

วิวงาม น้ำตกสวย น่าขับรถเที่ยว

แม้ว่าอ.นาจะหลวย จะอยู่ห่างจากตัวเมืองอุบลฯ ค่อนข้างมาก แต่นักนิยมไพรแล้ว กลับมองว่าที่นี่ไม่ได้ไกลเกินกว่าจะไปเยือน เพราะไม่เพียงแต่จะเป็นอำเภอชายแดนไทย-ลาว แต่ยังมียอดดอยสูงให้ชมวิวที่เด่นไม่แพ้ภาคเหนือ บนยอดภูหินด่างนั้น ละม้ายคล้ายกับลานหินปุ่มที่พิษณุโลก และยังมีน้ำตกสวยน่าเที่ยวอีกด้วย ที่พิเศษกว่านั้นใกล้กับอุทยานฯภูจองนายอยยังมีแก่งลำดวน ซึ่งเป็นมหัศจรรย์ธรรมชาติ ที่เมื่อย่างเข้าเดือนสิงหาคม จะมีพาเหรดกุ้งฝอยให้ชมด้วย หรือที่เรียกว่า “กุ้งเดินขบวน” เป็น Unseen in Thailand ที่มีให้ชมเพียงปีละครั้งเท่านั้น

Location : ต.นาจะหลวย อ.นาจะหลวย ห่างจากตัวเมืองอุบลราชธานี 150 กม.
จากตัวเมืองอุบลฯ ใช้เส้นทางไปอ.วารินชำราบ ผ่านอ.เดชอุดมตามทางหลวงหมายเลข 24 จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 2171 จนถึงอ.น้ำยืน แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 2248 ทางไปอ.นาจะหลวย ก่อนถึงอ.นาจะหลวย ประมาณ 10 กม. บริเวณบ้านแก้งเรือง จะมีแยกเข้าไปอุทยานแห่งชาติภูจองนายอยอีก 8 กม. 

Day 1
กว่าจะมาถึงที่ทำการอุทยานฯ ก็ถึงตอนบ่ายแล้ว วันนี้คุณอาจเตรียมที่พักและอาหารเย็นก่อน จากนั้นไปชมวิวพระอาทิตย์ตกเพลินๆ รุ่งขึ้นจึงขับรถเที่ยวในอุทยานฯ

พลาญหินกงเกวียน ชมพระอาทิตย์ตก

ชมอาทิตย์ตกที่พลาญหินกงเกวียน
Location : อยู่บนเนินเขาเหนือศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เดินจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวขึ้นไป 200 ม.
คำว่าพลาญ เป็นการเรียกของชาวอีสานหมายถึงลานโล่งกว้าง บริเวณพลาญกงเกวียนก็เช่นกัน มีลักษณะเป็นลานหินกว้างและยังมีเพิงหินทรายกระจายอยู่หลายแห่ง มองดูคล้ายเพิงถ้ำ หากมีการเข้าค่ายพักแรมของนักเรียน จะใช้พลาญหินนี้สำหรับกิจกรรมรอบกองไฟ ส่วนลักษณะทางธรรมชาติของที่นี่คือเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นวิวพระอาทิตย์ตกได้ หากเป็นช่วงปลายฝนประมาณเดือนกันยายน-ตุลาคม รอบบริเวณลานหินยังมีดอกไม้ป่าให้ชมด้วย
คุณอาจเดินมาชมวิวพระอาทิตย์ตกแล้วค่อยกลับไปกินมื้อค่ำ ก่อนนอนน่าแวะไปติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อไปชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่ภูหินด่าง เมื่อติดต่อเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้วแนะนำว่าให้รีบเข้านอน เพราะถ้าจะไปเที่ยวภูหินด่างต้องตื่นเช้า

Day 2
ชมตะวันฉายที่ภูหินด่าง 
Location : หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ พลาญมดง่าม ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ภูจองนายอย ประมาณ 50 กม.
จากที่ทำการอุทยานฯ ขับลงมาจนถึงทางแลวงหมายเลข 2248 จากนั้นเลี้ยวขวาผ่านอ.นาจะหลวยจนถึงบ้านห้วยข่า แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2254 จนถึงบ้านหนองเม็ก จากนั้นจะมีทางแยกเข้าทางลูกรังไปยังหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ พลาญมดง่าม ระยะทางอีก 10 กม. จากหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ จะเป็นทางที่ค่อนข้างคดเคี้ยวลัดเลาะไปตามเขา ซึ่งจะจอดรถเอาไว้ที่เชิงเขา แล้วเดินเท้าขึ้นสู่ยอดภูหินด่าง 

ภูหินด่าง แค้มปิ้งสนุก ตื่นมารับตะวัน

ภูหินด่าง เป็นยอดเขาที่อยู่ในเขตอ.บุณฑริก เป็นภูเขาหินทรายที่มีลักษณะธรรมชาติทั้งแอ่งหิน ลานหิน รวมถึงร่องหินแยกคล้ายกับลานหินปุ่มที่พิษณุโลก ในจุดสูงสุดของยอดเขาเป็นแนวหน้าผาสูงชัน เป็นเส้นแบ่งเขตระหว่างประเทศไทยและลาว ที่นี่จึงมีหลักกิโลเมตรแบ่งเขตแดนตั้งอยู่ด้วย และยังเป็นแนวหน้าผาที่มีวิวสวยงาม มองเห็นทิวทัศน์ฝั่งลาวได้สุดลูกตา และชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นได้ด้วย หากเป็นฤดูฝนและหนาว สภาพอากาศบนยอดเขาค่อนข้างเย็นและพบเห็นสายหมอกสวยด้วย บนลานหินนี่เองยังสามารถกางเต็นท์พักแรมได้ แต่เนื่องจากไม่มีแหล่งน้ำ จึงต้องเตรียมอุปกรณ์และสัมภาระที่จำเป็นไปด้วย โดยเฉพาะน้ำดื่ม-น้ำใช้ 
แม้ว่าการเที่ยวที่นี่อาจจะยังไม่สะดวก ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ ส่วนใครมารถเก๋ง สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ให้จัดหารถอีแต๋นพาเที่ยวได้ ใครที่จะมาค้างแรมบนยอดเขาต้องมีเวลาอย่างน้อย 2 วัน 1 คืน ส่วนผู้ที่พักในอุทยานฯ ต้องตื่นเช้าประมาณตี 3 เพื่อจะได้เดินทางและเดินเท้ามาทันชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดเขา 

น้ำตกห้วยหลวง ยิ่งใหญ่และสวยที่สุด

น้ำตกห้วยหลวง+น้ำตกประโอนละออ
Location : สุดถนนลาดยางจากที่ทำการอุทยานฯ ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว 3 กม.
ขับรถตามถนนลาดยางจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวขึ้นไปทางเหนือ 3 กม. จนถึงลานจอดรถติดกับศาลเจ้าปู่เตว จากนั้นเดินเท้าลงไปชมวิวน้ำตกห้วยหลวง
น้ำตกห้วยหลวงหรือน้ำตกถ้ำบักเตว มีขนาดใหญ่ น้ำจะไหลผ่านลำธารหินบนยอดเขา จากนั้นทิ้งดิ่งลงหุบเขาที่เกิดจากการยุบตัวของภูเขาความสูง 50 ม. จุดชมวิวน้ำตกจะต้องเดินไต่บันไดลงไปยังที่ราบด้านล่าง ซึ่งเป็นแอ่งน้ำเล็กๆ ที่สายน้ำทิ้งตัวลงมา ซึ่งจะเห็นภาพของน้ำตกที่ไหลตกมาจากหน้าผาสูงได้อย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังมีหาดทรายสีแดงให้เดินเล่นประหนึ่งว่ามาเที่ยวทะเลก็ไม่ปาน จากแอ่งน้ำนี้หากเดินตามลำธารไปอีกหน่อยจะมีชั้นน้ำตกเล็กๆ อีกชั้นหนึ่งชื่อว่า “น้ำตกประโอนละออ” หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า น้ำตกจุ๋มจิ๋ม นิยมเดินมาชมวิวและถ่ายภาพสวยมาก

น้ำตกประโอนละออ งามแท้งามจริง

แก่งกะเลา
Location : แยกขวามือจากทางลาดยางไปน้ำตกห้วยหลวง
ใช้เส้นทางเดียวกับทางไปน้ำตกห้วยหลวง เมื่อขับไปได้สักระยะจะมีทางแยกขวามือตามป้ายบอกทางไปแก่งกะเลา ระยะทาง 400 ม. 
แก่งกะเลา เป็นแก่งหินกลางลำห้วยซึ่งเป็นต้นน้ำของน้ำตกห้วยหลวง บริเวณนี้จะมีอยู่ 2 แก่งคือ แก่งสนสามพันปี อยู่ด้านบน และแก่งกะเลาอยู่ด้านล่าง ส่วนใหญ่คนนิยมมาเที่ยวที่แก่งกะเลา พักผ่อนเล่นน้ำกันที่นี่ ส่วนแก่งสนสามพันปีมีเส้นทางเดินป่าสั้นๆ ให้ชมทิวทัศน์ของป่าดิบเขาและยังมีกิจกรรมล่องแพไม้ไผ่ชมธรรมชาติด้วย

แก่งกะเลา ร่มรื่น น้ำใส ชิวๆ

พลาญป่าชาด
Location : ริมทางไปน้ำตกห้วยหลวง 
ใช้เส้นทางเดียวกับทางไปน้ำตกห้วยหลวง เมื่อถึงครึ่งทางจะมีลานทุ่งโล่งสลับกับป่าเต็งรังอยู่ด้านขวามือ คือพลาญป่าชาด ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ประมาณ 1 กม.
พลาญป่าชาด เป็นพื้นที่ราบกว้างประกอบด้วยพื้นที่ลานหินและทุ่งหญ้า ล้อมรอบด้วยป่าชาด หรือป่าเต็งรังที่อุดมสมบูรณ์ ในฤดูฝนทุ่งนี้จะเขียวขจีไปด้วยทุ่งหญ้า แต่เมื่อย่างเข้าสู่ปลายฝนจะมีดอกไม้ป่าต้นเล็กๆ ขึ้นแซมอยู่ทั่วไป เป็นภาพของดอกไม้ต้นเล็กๆ ที่รวมกันเป็นทุ่งดอกไม้อย่างสวยงาม เช่น ดอกดุสิตา ดอกสร้อยสุวรรณา มณีเทวา เป็นต้น

สามเหลี่ยมมรกต
Location : ทางทิศใต้ของอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 24 กม.
จากที่ทำการอุทยานฯภูจองนายอย เลี้ยวซ้ายมาตามทางหลวงหมายเลข 2248 ระยะทาง 8 กม.จากนั้นเลี้ยวซ้ายตามทางไปสามเหลี่ยมมรกต หรือช่องบก อีก 16 กม. ช่วงแรกเป็นทางดินสลับกับพลาญหิน ต้องใช้รถยกสูงหรือขับเคลื่อนสี่ล้อ จากนั้นเป็นทางลาดยางสองช่องจราจร เป็นเส้นทางไปฐานปฏิบัติการอนุพงศ์ กองร้อนทหารพราน 2305
สามเหลี่ยมมรกต หรือ ช่องบก เป็นแนวรอยต่อชายแดน 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว และกัมพูชา ตั้งอยู่บนเทือกเขาพนมดงรัก อยู่ในเขตอุทยานฯภูจองนายอย เป็นพื้นที่โครงการที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว จุดที่สร้างอ่างเก็บน้ำอยู่ใกล้กับพรมแดน 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว และกัมพูชา สีน้ำที่กักเก็บในอ่างมีสีเขียวเข้มคล้ายสีของมรกตจึงได้ถูกเรียกบริเวณนี้ว่า “สามเหลี่ยมมรกต” นั่นเอง

ใครที่ต้องการค้างแรมที่อุทยานฯ มีบ้านพักให้เลือกใช้บริการอยู่ 2 จุด คือบริเวณที่ทำการอุทยานฯ และบริเวณน้ำตกห้วยหลวง นอกจากนี้ยังมีเต็นท์พักแรมเป็นหลังๆ ค่ายพักเยาวชน และลานกางเต็นท์ด้วย ส่วนร้านอาหารสวัสดิการมีให้ใช้บริการบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว แต่ในช่วงเทศกาลคุณอาจจะเตรียมอาหารการกินไปเองก็สะดวกดี

การจองบ้านพักจองล่วงหน้าทางอินเตอร์เน็ตได้เลย ส่วนใครที่จะไปแค้มปิ้งที่ภูหินด่าง ต้องเตรียมตัวเยอะหน่อยทั้งอุปกรณ์แค้มปิ้ง อาหาร น้ำดื่ม และแสงสว่าง