นอนแพแช่น้ำ แล้วไปเที่ยวน้ำตกสวยเมืองกาญจน์
ศรีสวัสดิ์ เป็นอำเภอติดน้ำ มีทางหลวงหมายเลข 3199 เชื่อมต่อจากตัวเมืองกาญจน์ เลาะเลียบแม่น้ำแควใหญ่ไปเข้าอำเภอ เส้นทางนี้ยังผ่านเขื่อนถึง 2 แห่ง คือเขื่อนท่าทุ่งนา และเขื่อนศรีนครินทร์ และผ่านอุทยานแห่งชาติอีก 3 แห่ง สองแห่งแรกคือสุดยอดน้ำตกสวยของเมืองกาญจน์ และอีกแห่งคือธารหินงอกหินย้อยตระการตา จะให้ดีทริปนี้ต้องค้างสักคืน หรือให้ดีกว่านั้นสักสองคืนไปเลย จะได้เที่ยวครบทุกรส และที่พักที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาศรีสวัสดิ์ คือแพพักลอยน้ำ
Location อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 105 กม. ตั้งอยู่ตอนบนของแม่น้ำแควใหญ่ ที่บ้านเจ้าเณร ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์
จังหวัดกาญจนบุรีไปได้ 3 ทางด้วยกัน คือ รถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารสาธารณะ และรถไฟ
รถยนต์ส่วนตัว
เส้นทางแรก ใช้ถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี ข้ามสะพานพระปิ่นเกล้า แล้ววิ่งขึ้นทางคู่ขนานลอยฟ้าถึงทางแยกไป อ.สามพราน จ.นครปฐม ให้ชิดขวาแล้วไปตามทางหลวงหมายเลข 4 ผ่าน อ.นครชัยศรี อ.เมือง จ.นครปฐม ถึง กม. 69 ชิดซ้ายขึ้นสะพานข้ามแยกไปทาง อ.บ้านโป่ง จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 323 (ถ.แสงชูโต) ผ่านสามแยกกระจับ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เข้าสู่ จ.กาญจนบุรี ที่ อ.ท่ามะกา อ.ท่าม่วง ถึงอ.เมือง รวมระยะทาง 129 กม.
เส้นทางที่สอง ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถ.เพชรเกษม) เริ่มจากบางแค ผ่าน อ้อมน้อย, อ้อมใหญ่, อ.สามพราน, อ.นครชัยศรี ไปบรรจบกับเส้นทางที่ 1 หลังจาก อ.สามพราน ทั้งสองเส้นทางระยะทางใกล้เคียงกัน แต่เส้นทาง 2 รถอาจจะคับคั่งมากกว่า
จากเมืองกาญจนบุรีไปอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 3199 สู่เขื่อนศรีนครินทร์ เลือกการเดินทางได้ 2 แบบ คือ
ทางรถยนต์
เส้นทางแรก ใช้เส้นทางสายกาญจนบุรี-น้ำตกเอราวัณ (ทางหลวงหมายเลข 3199) ผ่านถ้ำพระธาตุ ห้วยพุมุด (วัดพุมุด) เส้นทางหลังจากนี้เป็นดินลูกรัง ถึงบริเวณน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ซึ่งเป็นที่ตั้งของทำการอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ควรใช้รถสภาพดีมีกำลัง หรือจะเช่ารถสองแถวจากตัวเมือง หรือที่ตลาดเขื่อนศรีนครินทร์ก็ได้
เส้นทางที่สอง นำรถยนต์ข้ามแพขนานยนต์ ใช้เส้นทางสายกาญจนบุรี-ท่ากระดาน-แม่ละมุ่น (ทางหลวงหมายเลข 3199) เริ่มจากนำรถลงแพขนานยนต์ที่ท่าแม่ละมุ่นข้ามไป ท่า อ.ศรีสวัสดิ์ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที จากนั้นขับต่อไปประมาณ 10 กม. จะพบท่าแพขนานยนต์ข้ามไปท่าห้วยแม่ขมิ้น ใช้เวลา 30 – 45 นาที ขึ้นฝั่งแล้วขับรถต่อไปอีก 7 กม. ถึงน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น
ทางเรือ สามารถจ้างเหมาเรือได้ที่ตลาดเขื่อนศรีนครินทร์ หรือที่ตลาด ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.
รถไฟ
รูปแบบการเดินทางที่สนุก ประหยัด และได้ชื่นชมวิวธรรมชาติ ภูเขา ทุ่งนา บ้านเรือนสองข้างทางคุ้มค่ามากที่สุดก็คือรถไฟ ขึ้นได้ที่สถานีรถไฟบางกอกน้อย
Day 1 เที่ยวน้ำตกเอราวัณ ชมวิวเขื่อนศรีนครินทร์
หากคุณออกจากตัวเมืองกาญจน์สายๆ ทันเที่ยวชมน้ำตกเอราวัณได้ก่อนเที่ยง ถึงที่ทำการอุทยานฯ แล้ว มีทางเดินเท้าจากลานจอดรถระยะทางประมาณ 500 ม. ไปชมน้ำตกชั้นแรก “ไหลคืนรัง” จากนั้นจะเป็นทางเดินศึกษาธรรมชาติเพื่อขึ้นไปชมน้ำตกในแต่ละชั้น ซึ่งมีทั้งหมด 7 ชั้น และมีความงดงามแตกต่างกัน
คุณจะผ่านน้ำตกชั้นที่ 2 “วังมัจฉา”, ชั้นที่ 3 “ผาน้ำตก”, ชั้นที่ 4 “อกนางผีเสื้อ”, ชั้นที่ 5 “เบื่อไม่ลง”, ชั้นที่ 6 “ดงพฤกษา” และสุดท้ายชั้นที่ 7 ลักษณะเป็นหน้าผาหินปูนรูปร่างคล้ายช้างสามเศียร ได้ชื่อ “ภูผาเอราวัณ” และเป็นที่มาของน้ำตกเอราวัณ และชื่อของอุทยานแห่งชาติน้ำตกเอราวัณนั่นเอง
อัพเดตบรรยากาศอุทยานแห่งชาติเอราวัณ
ช่วงบ่าย ขับรถไปเที่ยวต่อที่เขื่อนศรีนครินทร์ ชมวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำแควใหญ่ และวิวเกาะแก่งต่างๆ ในเขื่อน หากมีเวลาจะไปล่องเรือชมทิวทัศน์ในเขื่อนสักรอบก็ได้ ส่วนใครเวลาน้อย จะขับรถแวะเที่ยวชมสวนเวลารำลึก ชมต้นไม้ใบหญ้าและนาฬิกาแดดขนาดใหญ่ ประมาณบ่าย 3 – 4 โมง ค่อยเข้าที่พักไปนอนรีสอร์ตริมน้ำ หรือนอนแพกลางเขื่อน
เขื่อนศรีนครินทร์ หรือเดิมชื่อเขื่อนเจ้าเณร นอกจากจะเป็นเขื่อนประเภทหินถมแกนดินเหนียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยแล้ว ยังมีความจุปริมาตรน้ำถึง 17,745 ล้านลูกบาศก์เมตร มากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สร้างกั้นแม่น้ำแควใหญ่ ในพื้นที่ของบ้านเจ้าเณร ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 70 กม. บนทางหลวงสาย 3199 เส้นทางสายกาญจนบุรี-ศรีสวัสดิ์ ตั้งแต่สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2523 ก็เกิดผลดีตามมาหลายๆ ด้านที่ช่วยพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนเขื่อน มีน้ำใช้ในการเกษตรที่เพียงพอ ลดน้ำท่วมในลุ่มแม่น้ำแม่กลอง และยังเป็นทรัพยากรสำคัญในการผลิตกระแสไฟฟ้า ปัจจุบันถูกพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสวยงามที่นับว่ามีกิจกรรมท่องเที่ยวทางน้ำมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของกาญจนบุรี
ทัศนียภาพเหนือสันเขื่อนศรีนครินทร์เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่โอบล้อมไปด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อนมากมาย น้ำภายในทะเลสาบใสจนมองเห็นสิ่งต่างๆ ใต้ผิวน้ำได้ บรรยากาศสุนทรีย์ท่ามกลางความเงียบสงบทำให้สถานที่แห่งนี้งดงามราวกับสวรรค์บนผืนน้ำ เหมาะที่จะมาใช้วันพักผ่อนสุดสัปดาห์ หากเดินทางจากตัวเมืองกาญจนบุรี ด้วยเส้นทางสายลาดหญ้า ทางหลวงหมายเลข 3199 จะใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่งเท่านั้น
Day 2 นอนรีสอร์ตริมน้ำ-ล่องเรือชมวิวเขื่อนฯ-ออฟโรดไปชมน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น
หลังอาหารเช้าแล้ว หากคุณใช้บริการแพกเกจที่พักพร้อมโปรแกรมท่องเที่ยวน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นกับทางรีสอร์ต สายๆ ทางผู้ประกอบการจะพาไปลงเรือหรือไม่ก็แพลาก ล่องไปเที่ยวชมทิวทัศน์ในเขื่อนศรีนครินทร์ ต่อด้วย น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น น้ำตกสวย สายน้ำไหลลงทะเลสาบ มีทั้งหมด 7 ชั้น ได้แก่ ชั้นที่ 1 “ดงว่าน”, ชั้นที่ 2 “ม่านขมิ้น”, ชั้นที่ 3 “วังหน้าผา”, ชั้นที่ 4 “ฉัตรแก้ว” ชั้นนี้นับว่าสวยที่สุด
จากชั้นที่ 4 เดินขึ้นไปชั้นที่ 5 “ไหลจนหลง”, ชั้นที่ 6 “ดงผีเสื้อ” ชั้นสุดท้าย ชั้นที่ 7 “ร่มเกล้า” ใช้เวลาเดินเที่ยวน้ำตกครบทุกชั้นประมาณ 2 – 3 ชม.
อัพเดตบรรยากาศอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์
ค่ำวันนี้หากไม่เดินทางกลับไปนอนที่ศรีสวัสดิ์ จะค้างแรมที่บ้านพักอุทยานฯ ชมวิวเขื่อนจากฝั่งน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นสักคืนก็ได้ วันรุ่งขึ้นจึงเดินทางกลับกรุงเทพฯ
Day 3 ชมม่านหินงอกหินย้อยที่อุทยานฯ เฉลิมรัตน์โกสินทร์
สำหรับคนที่มีเวลาเหลือ ขากลับจากอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น แวะเที่ยวชมถ้ำธารลอด ดูหินงอกหินย้อยตระการตาในอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตน์โกสินทร์ก่อนกลับเข้ากรุงเทพฯ ได้
ที่เที่ยวเด่นของอุทยานฯ นี้คือ เดินป่า เที่ยวถ้ำ ชมธรรมชาติ ดูน้ำตก ในเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง 2.5 กม. ไปชมถ้ำธารลอดน้อย นอกจากม่านหินที่ตระการตาแล้ว ถ้าเดินต่อทะลุไปอีกด้านหนึ่ง จะได้ชมน้ำตกไตรตรึงษ์
จบจุดสุดท้ายของเส้นทางที่ถ้ำธารลอดใหญ่ ปากถ้ำมองดูคล้ายกับสะพานหินขนาดใหญ่ ความสูงประมาณ 40 ม. รอบๆ เป็นป่าดงดิบหนาแน่น ในขณะที่ถ้ำธารลอดน้อยจะเป็นถ้ำหินงอกหินย้อยที่งดงาม เส้นทางนี้จึงเป็นเส้นทางเดินป่าเที่ยวถ้ำที่ได้ชมความงาม 2 บรรยากาศ
อัพเดตบรรยากาศอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์
เดินเที่ยวถ้ำแล้ว ช่วงบ่ายจึงเดินทางกลับ